สาเหตุที่ประชาชาติต้องมอบความรักให้แก่ท่านอลี อิบนิ อบีฏอลิบ (อ.)?

 สาเหตุที่ประชาชาติต้องมอบความรักให้แก่ท่านอลี อิบนิ อบีฏอลิบ (อ.)?


เพราะการที่จะเชื่อฟังและปฎิบัติตามใครสักคนแล้วนั้น หากปราศจากความรักที่แท้จริงก็คงเป็นไปไม่ได้ ยิ่งความรักนั้นเป็นคำสั่งที่มาจากพระองค์แล้วไซร้ก็ยิ่งทำให้มีความรักมากยิ่งอย่างปฏิเสธเสียมิได้เลย...
ผู้ปกครองในยุคหลังจากการจากไปของท่านนบี ศ.คือท่านอลี อ.เพราะอลีคือหัวหน้าของศรัทธาชนทั้งหลายตามคำยืนยันของท่านนบีและเป็นหน้าที่ของประชาชาติที่จะต้องมอบความรักแก่เขาให้เสมือนกันกับที่พวกเขาเคยมอบความรักให้แก่ท่านนบี เพราะในประวัติศาตร์นั้นเขาคือผู้ที่ "ถูกรักมาโดยตลอด" เรื่องนี้มีหลักฐานยืนยันมากมายซึ่งประชาชาตินั้นจำเป็นที่จะต้องมอบความรักแก่อลี (อ)


หลักฐานจากหนังสือสุนนะฮ
1- นบี ศ.กล่าวว่า:
"ใครที่ชอบให้การดำเนินชีวิตและการเสียชีวิตของเขาให้เหมือนกับการดำเนินชีวิตและการเสียชีวิตของฉัน และอยากที่จะไปอยู่ในสรวงสวรรค์เหมือนกับฉัน เขาจะต้องมีความรักต่ออลี และรักต่อพวกพ้องของอลี ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามลูกหลาน(บรรดาอิมาม)ของอลี เพราะพวกเขาคือลูกหลานผู้สืบทอดของฉัน พวกเขามาจากฉัน พระองค์มอบความรู้แก่พวกเขา ความวิบัติพึงมีแด่ผู้ที่โกหกและปฏิเสธไม่ยอมเชื่อในตัวของพวกเขา ผู้ที่ได้ตัดความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพวกเขา(บรรดาอิมาม)ออกไป พระองค์จะไม่ให้ความช่วยเหลือของฉันมีแก่พวกเขาทั้งหลาย" อัลมะนากิบ หน้า 66 ริวายัตที่ 37.
2-ท่านญาบีร รายงานจาก ท่านนบี ศ.ว่า:
"ญิบรออีลได้ลงมาพร้อมกับกระดาษสีเขียวแผ่นหนึ่ง ซึ่งในกระดาษนั้นได้ถูกบันทึกด้วยตัวหนังสือสีขาว ว่า:
اني افترضت محبّة عليّ بن ابي طالب علي خلقي عامةً، فبلّغهم ذلک عنّي؛
"แท้ที่จริงแล้วฉันได้ทำให้ความรักที่มีต่ออลี อิบนิ อบีฏอลิบ นั้นเป็นวายิบแก่อุมมัตประชาชาติ โปรดเผยแพร่สาส์นจากฉันนี้ไปยังพวกเขา(ประชาชาติด้วย)ด้วย" มะนากิบ หน้า 77 ริวายัต 59.
3- อบูบัรซะฮ กล่าวว่า ครั้งหนึ่งนบี ศ.ได้กล่าวในขณะที่เรานั่งอยู่ว่า "ในวันกิยามัตมนุษย์จะถูกถามในสี่อย่างนี้ ก่อนที่พวกเขาจะก้าวย่างออกไปไหน นั้นคือ:
เรื่องอายุใข,ร่างกาย,ทรัพย์สินว่าได้มาอย่างไร และใช่จ่ายแบบไหน ส่วนคำถามที่สี่คือความรักที่มีต่ออะลุลบัยต์...
จากนั้น อุมัร ได้ถามนบี ศ.ขึ้นว่า:
. فقال له عُمَرُ: فما آية حبّکم من بعدکم؟ قال: فوضع يده علي رأس عليّ - و هو الي جانبه - و قال ان حبّي من بعدي حبّ هذا؛
"อะไรคือสัญลักษณ์ที่จะบอกว่ามีความรักต่อพวกเขาภายหลังจากท่าน?!!! ผู้รายงานกล่าวต่อว่า ท่านนบี ศ.ได้เอามือของท่านลูบไปที่ศรีษะของอลีซึ่งนั่งอยู่ข้างๆท่าน และพร้อมกล่าวขึ้นว่า ความรักที่พวกท่านต้องมีภายหลังจากฉัน คือให้มอบความรักแก่อลี คนนี้"
อัลมะนากิบ หน้า 323 ริวายัตที่ 330.
4-ท่านนบี ศ.กล่าวว่า:"โอ้ อลี เมื่อมีบ่าวคนหนึ่งเขาจงรักภัคดีต่อพระองค์เท่ากับนุฮที่ได้เผยแพร่ศาสนาเป็นเวลาเกือบพันปี หรือจะเปรียบเท่าภูเขาอุหุดที่เต็มไปด้วยทองคำและได้ใช้จ่ายไปในหนทางของพระองค์ หรือเขาจะมีอายุที่ยืนยาวและได้ไปประกอบอัจญ์ถึงพันครั้งด้วยกับการเดินเท้าไป และเขาได้เป็นชะฮีดระหว่างซะฟากับมัรวะก็ตามที แต่..หากเขาผู้นั้นไม่มีความรัก และไม่ยอมรับในวิลายัตการปกครองของเจ้าแล้วนั้น โอ้อลี เขาผู้นั้นจะไม่มีวันได้สัมผัสกลิ่นไอแห่งสวรรค์ และจะไม่ได้เข้าสวรรค์อย่างเด็ดขาด"
ดังนั้นไม่มีใครที่อาจหาญในการเป็นศรัตรูต่ออลีได้เลย นบี ศ.ได้กล่าวถึงผู้ที่เกลียดชังอลี ไว้ว่า:
 فانّه لايبغضک من العرب الّادعي ولامن الانصار الّا يهودي و لا من ساير النّاس الّا شقي؛
"โอ้ อลี แท้ที่จริงแล้วจากชาววอาหรับไม่มีใครชิงชังเจ้า นอกเสียจากผู้นั้นคือลูกซินาหรือคนต่ำช้า และจากชาวอันศอร นอกจากผู้นั้นจะเป็นชาวยะฮูดีย์ และจากประชาชน นอกจากผู้นั้นคือผู้อัปยศอดสูทั้งหลาย"
#แล้วทำไมต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามอลี อิบนิ อบีฏอลิบ?!!!
เมื่อ อลี ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าของประชาชาติภายหลังจากการเสียชีวิตของท่านนบี และท่านเป็นที่รักยิ่งของศาสดาท่านต้องถูกกำหนดให้ประชาชาติต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตาม เพราะเขาคือผู้แยกแยะระหว่างสัจธรรมออกจากสิ่งที่เป็นมดเท็จดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องเชื่อฟังต่อเขา
#มาดูคำสั่งในเรื่องนี้ว่า:
 1-จากซัลมาน จากนบี ศ.กล่าวว่า:
عليکم بعليّ بن ابي طالب عليه السّلام فانّه مولاکم فاحبّوه، و کبيرکم فاتّبعوه، و عالمکم فاکرموه، و قائدکم الي الجنّة(فعزّزوه) و اذا دعاکم فاجيبوه و اذا امرکم فاطيعوه، احبّوه بحبّي و اکرموه بکرامتي، ماقلت لکم في عليٍّ الّا ما امرني به ربّي جلّت عظمته؛
"พวกท่านจงอยู่กับ อลี อิบนิ อบีฏอลิบเถิด!! แท้จริงแล้วเขาคือนายและเป็นหัวหน้าของพวกเจ้า ดังนั้นจงรักเขา เพราะเขาคือผู้ที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเจ้า จงปฏิบัติตามเขา เพราะเขาคือผู้รู้สำหรับพวกเจ้า จงให้เกียรติแก่เขา เพราะเขาคือหัวหน้าที่จะนำพาพวกเจ้าไปสวรรค์ เมื่อไหร่เขาที่เรียกร้องเชิญชวนพวกเจ้าก็จงตอบรับในการเชิญชวนนั้น และเมื่อเขาบัญชาสิ่งใดจงเชื่อฟังปฏิบัติตามเขา เมื่อพวกเจ้ารักฉันก็จงเราเขาด้วย เมื่อพวกเจ้าเห็นฉันยิ่งใหญ่เหนือพวกเจ้า ขอให้พวกเจ้าเห็นว่าเขายิ่งใหญ่ด้วย ฉันมิได้พูดอะไรเกี่ยวกับอลีให้พวกเจ้าได้ฟังเลยที่มาจากตัวฉัน เว้นแต่สิ่งนั้นเป็นคำสั่งของพระองค์" กัลซุล อุมมาล เล่ม 11 หน้า 614 ริวายัต 32971.
ฮะดิษบอกอย่างชัดเจน คงไม่ต้องการคำอธิบายใดๆอีกแล้วมันเป็นคำสั่งที่มาจากพระองค์ หากประชาชาติยึดเอาคำสอนนี้มาปฏิบัติใช้ คงจะไม่มีการแบ่งแยกให้เห็นเป็นแน่
2-นบี ศ.กล่าวแก่อัมมาร ว่า:
يا عمّار! ان رأيت عليّاً قدسلک واديّاً و سلک النّاس وادياً غيره فاسلک مع عليّ ودع النّاس انّه لن بدلک ...
"โอ้ อัมมาร  เมื่อเจ้าเห็นอลีไปทางใด ในขณะที่ประชาชนไปอีกทางหนึ่ง เจ้าจงไปกับเส้นทางของอลีและปล่อยประชาชนเขาไป เพราะแท้จริงแล้วอลีจะนำพาเจ้าสู่เส้นทางที่เป็นสัจธรรมเท่านั้น.."ตารีค บักดาดีย์ 4/410
"แท้ที่จริงฉันได้ละทิ้งสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกเจ้า สิ่งนั้นคือ คำภีร์ของพระองค์ และลูกหลานของฉัน(อะลุลบัยต์) หากพวกท่านยึดและปฏิบัติตามทั้งสองนั้น พวกท่านจะไม่หลงทางตลอดกาล จนกระทั่งจะมาพบกับฉัน ณ อัลเอาฎ" ฮะดิษยืนยันอย่างชัดเจนในทุกกลุ่มชนของมุสลิม อย่างเลี่ยงเสียมิได้

นี่คือเหตุผลหลัก ที่ประชาชาติจำเป็นจะต้องมอบความรักและเชื่อฟังต่อท่านอลีในสถานะที่เป็นหัวหน้าของศรัทธาชนและเป็นผู้นำภายหลังการจากไปของท่านศาสดา ศ.เพราะมันเป็นคำสั่งที่มาจากพระองค์และการปฏิเสธในสิ่งนั้นเท่ากับนรกเลยทีเดียว


เรียบเรียง: เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม


ที่มา เพจ Raiden Phetkareem