เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

บทความ วิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะฮ์และเหตุหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรอ ตอนที่ 5

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

บทความ วิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะฮ์และเหตุหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรอ ตอนที่ 5


اعوذ بالله من الشیطان الرجیم. بسم الله الرحمن الرحیم.
 قال الله الحکیم: ... انّ الله لایغیّر ما بقوم حتّی یغیّروا ما بانفسهم

หัวข้อการวิเคราะห์สภาพสังคมทางการเมืองของกูฟะห์และเหตุผลหนุนนำสู่การเกิดโศกนาฏกรรมอาชูรอ ได้ถูกอธิบายไปแล้วถึงคำกล่าวของท่านอิมามสัจญาด(อ)ที่ได้แบ่งประชาชนของสังคมหนึ่งออกเป็น 6 ชนชั้น คือ สิงโต หม่าป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัข สุกรและแกะ

กลุ่มที่สี่ : สุนัข

وَ امَّا الْکلْبُ یهِرُّ عَلَی النَّاسِ بِلِسانِهِ وَ یکرِمُهُ النَّاسُ مِنْ شَرِّ لِسانِهِ.

"สุนัขมันจะรังควานผู้อื่นด้วยเสียงของมันและผู้คนต่างให้เกียรติมันเพื่อให้รอดพ้นความชั่วร้ายจากลิ้นของมัน"

ชนชั้นที่สี่ในสังคมตามทัศนะของท่านอิมามซัจญาด(อ.)กล่าวถึงมนุษย์ที่มีคุณลักษณะของสุนัขซึ่งผู้อื่นจำต้องให้เกียรติและเชิดชูพวกเขาเพื่อให้รอดพ้นความชั่วร้ายจากลิ้นของพวกเขา

ในยุคสมัยบรรดามะฮ์ซูม (อ.) ผู้ที่ชอบกระจายข่าวบางคนของราชสำนักอีกทั้งซุบซิบนินทาและเยาะเย้ยผู้อื่นซึ่งประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในความชั่วร้ายจากลิ้นของพวกเขาเนื่องจากความเป็นศัตรูกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกับกลุ่มที่ราชสำนักสั่งมา พวกนั้นจะเยาะเย้ยถากถางพวกเขาอย่างเปิดเผยทั้งในตรอกซอกซอยและตามตลาดอีกทั้งสร้างความอับอายให้แก่พวกเขา

ดูเหมือนว่าในสังคมปัจจุบัน หน้าที่เหล่านี้จะตกอยู่ในความรับผิดชอบของคนดังบางคน  สื่อมวลชน นักเขียนและช่างภาพ

ในช่วงไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมาในโลกแห่งเทคโนโลยีและโซเชียลเน็ตเวิลก์ได้เข้ามาสู่ภาคสนามในรูปแบบที่ไร้การควบคุมซึ่งสามารถเล่นกับบทบาทของชนชั้นที่สี่ได้เป็นอย่างดี
บางครั้งคุณจะพบเหล่าคนดังที่ใช้ทักษะความสามารถในการโชว์พลังเสียงหรือร่างกายของตนมาเกี่ยวโยงกับการเมืองและด้านอื่นทางสังคมอีกทั้งอาศัยอำนาจของสื่อและการครอบคลุมความคิดและปากกาของตนพยายามบอยคอตบุคคลหรือบางกลุ่มเพื่อจะลดอิทธิพลของฝ่ายตรงข้ามที่มีต่อประชาชนและสังคมแม้ต้องใช้การโกหกและสร้างข่าวลวงหรือการเยาะเย้ยก็ตาม

โดยปกติความขัดแย้งทางความคิดและทัศนะคติระหว่างปัจเจกบุคคลและสังคมนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติแต่เกี่ยวกับประเด็นนี้ศาสนาอิสลามได้เสนอทางเลือกสำหรับความขัดแย้งทางความคิดและสำหรับในระดับที่ยากขึ้นให้ใช้การยกหลักฐานและถกเถียงไม่ใช่ให้ใช้วิธีตลบหลังและแพร่กระจายข่าวลวง

การถกเถียงทางวิชาการอย่างเปิดเผยของบรรดามะอ์ศูม(อ)โดยเฉพาะในยุคสมัยของท่านอิมามมูซา กาซิมและท่านอิมามญะฟัร ศอดิก(อ.)ในด้านจริยธรรมและวิชาการอย่างชัดเจนและเปิดเผยถูกนับว่าเป็นรูปธรรมของสื่อแห่งจริยธรรมและความเป็นอิสลามซึ่งถือว่าปัจจัยในการเผยแพร่รูปแบบการดำเนินชีวิตแห่งจริยธรรมและยังเป็นปัจจัยในการทำลายและปฏิเสธทัศนคติของฝ่ายตรงข้ามในบรรยากาศที่ห่างไกลจากการคิดคด หลอกลวงและการทำงานที่แอบซ่อน

มักจะเกิดขึ้นบ่อยที่นักการเมืองบางประเทศเนื่องจากมีจุดยืนในการต่อต้านการเมืองของอเมริกาหรือไซออนิสม์ถูกโจมตีอย่างไร้การป้องกันอีกทั้งมีการประสานงานกันของเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อและสื่อที่เป็นเครือข่ายของตะวันตก
ซึ่งความกลัวต่อการคว่ำบาตรทางสื่อและการจู่โจมของการโฆษณาชวนเชื่อจากสุนัขตัวนี้ทำให้นักการเมืองบางคนในโลกนี้ไม่โต้ตอบเมื่อเผชิญกับนโยบายที่ไม่เป็นธรรม
ดูเหมือนว่าการมีอยู่นักล่าอาณานิคมและการผูกขาดข่าวในมือของชนชั้นสูงในสังคมไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นในสมัยของเราหรือเจาะจงในสมัยใดเป็นการเฉพาะ ปัจจุบันนี้ความเป็นจักรวรรดินิยมถูกสัมผัสได้มากกว่าในยุคที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตซึ่งเป็นคุณสมบัติของสุนัขและใช้ข่าวเท็จเบี่ยงเบนความคิดของประชาชนให้หันเหออกจากความจริงและความถูกต้อง

การโฆษณาชวนเชื่อของโลกทุกวันนี้ คือ รากฐานแนวคิดแบบเสรีนิยม เสรีนิยมใหม่และประชาธิปไตยของชาติตะวันตก การโฆษณาชวนเชื่อ หมายถึง การโฆษณาไปตามแกระแส ความแตกต่างของมันกับการโฆษณา คือ การให้ข้อมูลเท่านั้นโดยปราศจากเป้าหมายทางการเมืองแต่การโฆษณาชวนเชื่อเป็นการโฆษณาที่มีทิศทางเฉพาะซึ่งสุดท้ายเป็นการปูทางให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรมให้กับนายทุนเพื่อสร้างความร่ำรวยยิ่งขึ้นไป

ในวันนี้แม้แต่สงครามที่อันตรายและรุนแรงแต่สิ่งที่ส่งผลมากกว่าคือสงครามไซเบอร์และสงครามจิตวิทยา จงพิจารณาดูชาวเยเมนที่ถูกกดขี่ พวกเขายืนหยัดต่อสู้กับการกดขี่ของซะอุดิอาราเบียมาเกือบหนึ่งทศวรรษแล้ว แต่พวกเขาไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พร้อมในการยืนหยัดต่อสู้อีกทั้งไม่สามารถส่งเสียงดังไปถึงชาวโลกในปัจจุบันและระบบระหว่างประเทศ
ใช่แล้ว แต่เพราะการยืนหยัดและต่อสู้นี้เองที่ได้ทำให้ราชวงศ์ซะอูดผู้อธรรมต้องยอมจำนน
หากมองในมุมของปัจเจกบุคคล สุนัขจะใช้เสียงของมันสร้างความรำคาญให้แก่ประชาชนและเพื่อให้พ้นความชั่วร้ายจากทั้งมือและลิ้นของมันจำต้องให้เกียรติ


นิสัยของสุนัข เป็นสัตว์ที่อยากรู้อยากเห็นมาก จะระแวงทุกสิ่งอย่างรวดเร็วและใช้เสียงเห่าแสดงท่าทีและประกาศให้รู้ ส่วนใหญ่ที่ส่งเสียงดังจะไร้เป้าหมายและแสดงท่าทีที่ตรงข้ามกับความระแวง ผู้ทีเดินผ่านมาบางครั้งจำเป็นต้องโยนชิ้นส่วนของขนมปังให้มันเพื่อให้ตนเองปลอดภัยจากความน่ารำคาญของเสียงหรือไม่ก็จากการโดนกัด

มนุษย์ผู้ชั่วร้ายบางคนมีคุณลักษณะดังกล่าวในตัวเอง พวกเขาหาข้ออ้างเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นโดยปราศจากซึ่งเหตุผล ใส่ร้ายผู้อื่น ฯลฯ จนทำให้บางคนจำใจต้องหาของขวัญ ของกำนัลหรือสิ่งอื่นๆมามอบให้แก่พวกเขาเพื่อจักได้ปลอดภัยจากความชั่วร้ายของพวกเขา

قال رسول الله صلی الله علیه و آله: شَرُّ النَّاسِ عِنْدَ اللَّهِ یوْمَ القیمَةِ الَّذینَ یکرَمُونَ اتِّقاءِ شَرِّهِمْ
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า “มนุษย์ที่ชั่วร้ายที่สุดในวันกิยามัต ณ.เอกองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.)คือ มนุษย์ที่ถูกให้เกียรติเพราะประชาชนหวาดกลัวความร้ายกาจของเขา”

و الخبر ما رواه جابر قال: نظر رسول اللّه صلّى اللّه عليه و آله و سلّم إلى الكعبه فقال: مرحبا بك من بيت ما اعظمك و أعظم حرمتك و اللّه انّ المؤمن أعظم حرمه منك عند اللّه عزّ و جلّ، لأنّ اللّه حرّم منك واحده و من المؤمن ثلاثه: دمه و ماله و أن يظنّ به ظنّ السّوء ... .

ญาบิรรายงานว่าท่านศาสดา(ศ็อลฯ)มองไปที่กะอ์บะฮ์และกล่าวว่า
 “ขอแสดงความยินดีแด่เจ้า ช่างเป็นบ้านที่ใหญ่โตและได้รับเกียรติอะไรเช่นนี้ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ เกียรติของบรรดาผู้ศรัทธามีมากกว่าเจ้าเพราะเกียรติของเจ้ามีอยู่สิ่งเดียว(คือ การหลั่งเลือดในบ้านของเจ้านั้นเป็นฮะราม)แต่ผู้ศรัทธามีเกียรติอยู่สามสิ่งด้วยกัน

1-เลือดของเขานั้นมีเกียรติ
2-ทรัพย์สินของเขานั้นมีเกียรติ
3-การคิดถึงเขาในด้านลบนั้นเป็นฮะราม

ด้วยเหตุนี้ โอ้บรรดาครูบาอาจารย์ นักเรียนศาสนา นักกิจกรรมและปัญญาชนทั้งหลายไม่ควรเปิดโอกาสให้ชนชั้นดังกล่าวโดยเฉพาะชนชั้นสุนัขและหมาป่ามีจำนวนมากมายในสังคมเพราะตามคำอธิบายของท่านอิมามสัจญาด(อ)นั้นมีประเด็นที่ว่าเมื่อปล่อยให้คุณลักษณะทั้งห้าเกิดขึ้นในสังคมและแต่ละคุณลักษณะมาในรูปแบบของหมู่คณะซึ่งมาสร้างระบบหรือควบคุมระบบเมื่อนั้นชนชั้นแกะทั้งหลายจะถูกสังเวยเท่านั้นยังไม่พอทั้งขนทั้งหนังแม้แต่กระดูกของเหล่าแกะจะถูกชนชั้นที่ไร้ค่าพวกนั้นนำไปใช้ประโยชน์

สภาพของกูฟะฮ์ในปีที่ 61 ของฮิจเราะฮ์ศักราชและปัจจัยที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งอาชูรอไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกเสียจากการเข้ามาปกครองของมุอาวิยะฮ์ ราชวงศ์อุมัยยะฮ์และเปลี่ยนแปลงชนชั้นทางสังคมในยุคของศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์(ศ็อลฯ)อีกทั้งสร้างชนชั้นทั้งห้านี้ขึ้นมาซึ่งท่านอิมามสัจญาด(อ)ได้อธิบายถึงคุณลักษณะของชนชั้นดังกล่าวไว้
เราต้องไม่เปิดโอกาสให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคมจนทำให้ประวัติศาสตร์ของโศกนาฏกรรมแห่งกัรบะลาและอาชูรอซ้ำรอยอีกครั้ง


ولاحول و لاقوة الّا بالله العلیّ العظیم.

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม