เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ญูน ชะฮีด ผู้พิชิตเหรียญแห่งเกียรติยศ ณ แผ่นดินกัรบะลา

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ญูน ชะฮีด ผู้พิชิตเหรียญแห่งเกียรติยศ ณ แผ่นดินกัรบะลา


ญูน อิบนิ ฮุวัยน์ / ญุวัยน์ อิบนิ อบีมาลิก 1 ใน 72 ชะฮีดผู้พิชิตเหรียญแห่งเกียรติยศ ณ.แผ่นดินกัรบะลา ปีฮิจญ์เราะห์ที่ 61

ญูนเป็นคนผิวดำเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "เนาฮะห์" ทางแถบแอฟริกา

เดิมทีญูนเป็นบ่าวใช้ของฟัฎลิ์ อิบนิ อับบาส อิบนิ อับดุลมุฏฏอลิบ ต่อมาท่านอิม่ามอลี(อ)ได้ซื้อตัวและมอบเป็นบ่าวคอยรับใช้อบูซัร ฆ็อฟฟารีย์ ศอฮาบะห์ของท่านรอซูล(ศ).

ญูนติดตามรับใช้อบูซัรไปทุกหนทุกแห่ง แม้ในช่วงที่คอลิฟะห์อุษมาน(คอลีฟะห์ที่ 3)เนรเทศไปยังร็อบซะห์ดินแดนกันดารที่สุดแห่งหนึ่ง ห่างจากเมืองมะดีนะห์ไปประมาณ 170 กม. เนื่องจากคัดค้านพฤติกรรมอันไม่ชอบธรรมของคอลีฟะห์ จนในที่สุดท่านอบูซัรได้เสียชีวิต ณ.ที่นั่นในปีฮิจเราะห์ที่ 32

หลังจากอบูซัรเสียชีวิต ญูนได้กลับมาอยู่กับท่านอิม่ามอลีและอยู่รับใช้ท่านและอะห์ลุลบัยต์ของท่านรอซูลตลอดเรื่อยมาจนถึงฮิจเราะห์ปีที่ 61

ญูนคอยติดสอยห้อยตามรับใช้ท่านอิม่ามฮุเซนจนกระทั่งถึงแผ่นดินกัรบะลา

ความสามารถพิเศษ ญูนสามารถซ่อมแซมอาวุธต่างๆที่ใช้ในการทำศึกสงครามได้เป็นอย่างดี

ในวันอาชูรอ ท่านอิม่ามฮุเซนได้ให้อิสระภาพกับญูน และกล่าวกับญูนว่า "จากนี้ไป เจ้ามีสิทธิในชีวิตของตัวเอง เจ้าเป็นอิสระ เจ้าสามารถไปใช้ชีวิตใหม่ตามที่เจ้าต้องการ และขอพระองค์อัลลอห์(ซ.บ)ทรงตอบแทนที่เจ้าคอยติดตามรับใช้เราอะห์ลุลบัยต์ตลอดเรื่อยมา"

แต่ญูนยืนกรานสาบานตนว่าจะไม่ทอดทิ้งท่านอิม่ามฮุเซน(อ)ไปไหน และยังกล่าวอีกว่า "ความตายเท่านั้นที่จะมาจำพรากฉันไปจากท่านผู้เป็นนาย  ฉันใฝ่ฝันให้เลือดของฉันผู้เป็นบ่าวละเลงไหลรวมร่วมไปกับเลือดของหลานรักของท่านศาสดา"

ในวันอาชูรอญูนได้เป็นชะฮาดัต(ชะฮีด)หลังจาก อุมัร อิบนิ ก็อรเศาะห์ ในอีกรายงานหนึ่งบันทึกว่า หลังจากญูนได้ร่วมละหมาดญะมาอะห์ซุฮ์ริกับอิม่ามฮุเซนในวันอาชูรอท่ามกลางสมรภูมิกัรบะลา ญูนก็ได้พิชิตเหรียญแห่งเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ ด้วยการเป็นชะฮาดัตลำดับที่ 25

ก่อนสิ้นลมหายใจ และก่อนที่ดวงวิญญานของญูนจะโบยบินสู่ถิ่นสรวง ซึ่งเป็นที่พำนักอันนิรันดร์ ท่านอิม่ามฮุเซนได้มาหาญูน และช้อนศรีษะของญูนมาวางไว้บนตักและดุอาว่า

«اَللّهُمَّ بَیِّض وَجهَهُ وَ طَیِّب ریحَهُ وَ احشُرهُ مَعَ الأبرارِ وَ عَرِّف بَینَهُ و بَینَ مُحمدٍ و آلِ مُحمدٍ»

"โอ้องค์พระผู้ทรงอภิบาลของข้าฯ ได้โปรดทำให้ใบหน้าของเขาได้ผ่องใส ได้โปรดให้กลิ่นไอในตัวเขานั้นหอมหวล ได้โปรดให้เขาอยู่กลุ่มผู้อยู่กับคุณธรรม และได้โปรดทำให้เขาได้สัมผัสกับฐานันดร(อันสูงส่ง)ของมุฮัมหมัดและอะห์ลุลบัยต์ของมุฮัมหมัดอย่างแท้จริงเถิด"

ท่านอิม่ามบาเกร(อ)กล่าวว่า "ร่างของญูนได้ถูกพบหลังจากบรรดาชุฮะดาอ์ถูกฝังไปแล้ว 10 วันในสภาพที่ร่างดังกล่าวส่งกลิ่นหอมหวลไปทั่วอาณาบริเวณแห่งท้องทุ่งกัรบะลา"

สุสานสถานที่ฝังศพของญูน คือแผ่นดินกัรบะลา รวมอยู่กับบรรดาชุฮะดาอ์ท่านอื่นๆเคียงข้างสุสานของท่านอิมามฮุเซน(อ).

 

บทความโดย เชคอับดุลฆอนี หลังสกุล

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม