ยะซีดบินมุอาวียะฮ์ ตอนที่ 2


ยะซีดบินมุอาวียะฮ์ ตอนที่ 2

 

กอฎีอิยาฎ กล่าวถึงซอฮาบะฮ์ที่ถูกยาซีดฆ่าตายเพราะต่อต้านความชั่วของเขา

กอฎีอิยาฎ นักปราชญ์มัซฮับมาลิกี ตาย ฮ.ศ. 544 กล่าวว่า

อับดุลลอฮ์ บินมุเตี๊ยะอ์(ตาบิอีนอาวุโส)เป็นหัวหน้ากลุ่มชนของเขาในเวลานั้นที่นครมะดีนะฮ์

ตอนอับดุลลอฮ์ บินซูเบรได้ลุกขึ้นต่อต้าน(การปกครองของ)ยาซีด บินมุอาวียะฮ์

มีกลุ่มหนึ่งที่เป็นลูกหลานของชาวอันซ็อรและชาวมุฮาญิรีน และผู้อาวุโสของพวกเขาที่เหลืออยู่และมีซอฮาบะฮ์อีกกลุ่มหนึ่ง(ได้ร่วมกันต่อต้านยาซีด)

และเบื้องหน้าเขาคือ “สงครามฮัรเราะฮ์” มีกองทัพที่ยาซีดได้ส่งมารบกับพวกเขา(ชาวมะดีนะฮ์)

พวกเขา(กองทัพยาซีด)ได้สร้างความพ่ายแพ้ให้กับชาวมะดีนะฮ์ ได้เข่นฆ่าชาวมะดีนะฮ์และหลั่งเลือดพวกเขาเป็นเวลาสามวัน

ในสงครามนั้นมีซอฮาบะฮ์ส่วนหนึ่งรวมทั้งลูกหลานของชาวมุฮาญิรีนและชาวอันซ็อรถูกฆ่าตาย

และการทำละหมาดและการอะซานที่มัสยิดุน-นบี(ศ)ถูกหยุดทำเป็นเวลาหลายวัน

อ้างอิงจากหนังสือ
อิกมาลุล มุอ์ลิม บิ ฟะวาอิดิลมุสลิม ผู้แต่ง กอฎี อิย๊าฎ เล่ม 6 หน้า 260 - 261
ตรวจทานโดย ด็อกเตอร์ ยะห์ยา อิสมาอีล
สนพ. ดารุน-นัดวะฮ์ อัลอาละมียะฮ์ กรุงริย๊าฎ พิมพ์ครั้งที่ 2 ฮ.ศ. 1425

อธิบาย

คำพูดกอฎีอิยาฎ ข้างต้นสรุปได้ดังนี้

1.ปีฮ.ศ. 63 ชาวมะดีนะฮ์ได้ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของ ยะซีด บิน มุอาวียะฮ์
2.กลุ่มผู้ต่อต้านยะซีดคือ ซอฮาบะฮ์ทั้งชาวอันศอรและชาวมุฮาญิรีน
3.ยะซีดส่งกองทัพจากเมืองช่ามมาปราบชาวมะดีนะฮ์
4.กองทัพยะซีดรบชนะชาวมะดีนะฮ์
5.กองทัพยาซีดได้เข่นฆ่าชาวมะดีนะฮ์เป็นเวลาสามวัน
6.ซอฮาบะฮ์นบีรวมทั้งลูกหลานชาวมุฮาญิรีนและชาวอันซ็อรถูกฆ่าตาย

ฝ่ายปกป้องยาซีดอาจยกฮะดีษนบี(ศ)บทนี้มาอ้าง

مَنْ خَلَعَ يَدًا مِنْ طَاعَةٍ، لَقِيَ اللهَ يَوْمَ الْقِيَامَةِ لَا حُجَّةَ لَهُ، وَمَنْ مَاتَ وَلَيْسَ فِي عُنُقِهِ بَيْعَةٌ، مَاتَ مِيتَةً جَاهِلِيَّةً

ผู้ใดถอนมือออกจากการเชื่อฟัง(ผู้นำ) เขาจะพบกับอัลลอฮ์ในวันกิยามัตโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ และผู้ใดที่เขาตายในสภาพที่ไม่มีสัตยาบัน(กับผู้นำ)บนต้นคอของเขา เขาได้ตายอย่างคนในยุคญาฮิลียะฮ์

ซอฮิฮ์มุสลิม หน้า 453 ฮะดีษที่ 1851/58

อธิบายยาซีดคือคนชั่วคนฟาซิก

ฮะดีษ(ผู้ใดถอนมือออกจากการเชื่อฟังผู้นำ...) ขัดกับกุรอ่าน

1.อาลิ อิมรอน อายัตที่  110

พวกเจ้า เป็นประชาชาติที่ดียิ่งซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ทำความดี และห้ามมิให้ทำความชั่ว และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ  

2.ซูเราะฮ์อัตเตาบะฮ์ อายัตที่  71

และบรรดามุอ์มินชายและหญิง ต่างเป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ทำความดีและห้ามปรามไม่ให้ทำความชั่ว และพวกเขาจะดำรงละหมาดและจ่ายทานซะกาต และพวกเขาเชื่อฟังภักดีต่ออัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์

ฮะดีษ(ผู้ใดถอนมือออกจากการเชื่อฟังผู้นำ...)ขัดกับฮะดีษนบี บทนี้

مَنْ رَأَى مِنْكُمْ مُنْكَرًا فَلْيُغَيِّرْهُ بِيَدِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِلِسَانِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِقَلْبِهِ، وَذَلِكَ أَضْعَفُ الْإِيمَانِ

ผู้ใดในหมู่ของพวกท่านที่เห็นความชั่วร้าย เขาจงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา
หากเขาไม่สามารถก็ด้วยลิ้นของเขา และหากไม่สามารถก็ด้วยหัวใจของเขา
ดังกล่าวนี้นั้น แสดงถึงระดับขั้นอีมานที่อ่อนแอที่สุดแล้ว

ซอฮิฮ์มุสลิม หน้า 26ฮะดีษที่ 49/78

คำถาม ยาซีดส่งทหารไปทำให้ชาวมะดีนะฮ์หวาดกลัวหรือ

ตอบ ยาซีดส่งทหารไปฆ่าชาวมะดีนะฮ์ มีซอฮาบะฮ์ถูกฆ่าตายมากมาย

1. นบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า

لاَ يَكِيدُ أَهْلَ المَدِينَةِ أَحَدٌ، إِلَّا انْمَاعَ كَمَا يَنْمَاعُ المِلْحُ فِي المَاءِ

ไม่มีใครที่คิดแผนร้ายทำอันตรายชาวมะดีนะฮ์(อย่างอธรรม) เว้นแต่ เขาจะต้องมลาย เหมือนเกลือที่ละลายในน้ำ(อัลลอฮ์จะทำให้เขาหายนะในไม่ช้า)

ซอฮิฮ์บุคอรี หน้า 341 ฮะดีษที่ 1877

2. นบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า

وَلَا يُرِيدُ أَحَدٌ أَهْلَ الْمَدِينَةِ بِسُوءٍ إِلَّا أَذَابَهُ اللهُ فِي النَّارِ ذَوْبَ الرَّصَاصِ، أَوْ ذَوْبَ الْمِلْحِ فِي الْمَاءِ

ไม่มีผู้ใดที่มุ่งร้ายต่อชาวมะดีนะฮ์ เว้นแต่ อัลลอฮ์จะทำให้เขามลายในไฟนรก เหมือนตะกั่วละลายในไฟ หรือ เหมือนเกลือละลายในน้ำ

ซอฮิฮ์มุสลิม หน้า 313 ฮะดีษที่ 1363 / 460

3. นบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า

مَنْ أَخَافَ أَهْلَ الْمَدِينَةِ أَخَافَهُ اللهُ عَزَّ وَجَلَّ وَعَلَيْهِ لَعْنَةُ اللهِ وَالْمَلَائِكَةِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِينَ، لَا يَقْبَلُ اللهُ مِنْهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ صَرْفًا وَلَا عَدْلًا

ผู้ใดทำให้ชาวมะดีนะฮ์หวาดกลัว อัลลอฮ์จะทรงทำให้เขาหวาดกลัว เขาจะถูกละนัตสาปแช่งจากอัลลอฮ์ มลาอิกะฮ์และมนุษย์ทั้งปวง อัลลอฮ์จะไม่รับการทำความดีใดๆของเขาในวันกิยามัต

มุสนัดอะหมัด เล่ม 4 : 55 ฮะดีษที่ 16608
เชคอัรนะอูตีกล่าวว่า สายรายงานฮะดีษซอฮิฮ์

ซิลซิละฮ์ ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 5 ฮะดีษที่ 2304 เล่ม 6 ฮะดีษที่ 2671  เชคอัลบานี

4.นบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า


اللَّهُمَّ مَنْ ظَلَمَ أَهْلَ الْمَدِينَةِ، وَأَخَافَهُمْ فَأَخِفْهُ، وَعَلَيْهِ لَعْنَةُ اللَّهِ وَالْمَلَائِكَةِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِينَ، لَا يُقْبَلُ مِنْهُ صَرْفٌ وَلَا عَدْلٌ

โอ้อัลลอฮ์ ผู้ใดได้อธรรมต่อชาวมะดีนะฮ์และทำให้พวกเขาหวาดกลัว
เขาผู้นั้นจะถูกละนัตสาปแช่งจากอัลลอฮ์ มลาอิกะฮ์และมนุษย์ทั้งปวง
พระองค์จะไม่รับการทำความดีใดๆของเขาในวันกิยามัต

มัจญ์มะอุซซะวาอิด เล่ม 3 หน้า 658 ฮะดีษที่ 5823
อัลฮัยษะมีกล่าวว่า บรรดานักรายงานฮะดีษนี้คือ นักรายงานที่ซอฮิฮ์

#อัลลามะฮ์มุนาวี ปราชญ์ซุนนี่ได้อธิบายฮะดีษข่มขู่ชาวมะดีนะฮ์ว่า

ในฮะดีษนี้ คือคำเตือนไม่ให้ทำร้ายหรือเกลียดชังชาวมะดีนะฮ์  

อัลมัจญะดี อัลลุฆอวี กล่าวว่า
ถูกย้ำเตือนว่า ต้องรักชาวมะดีนะฮ์ ผู้พำนักพักอาศัยของเมืองนั้น เพื่อนบ้านของเมืองนั้น และต้องให้ความเคารพชาวเมืองนั้น
โดยเฉพาะอุละมาอ์และผู้มีเกียรติ ผู้รับใช้ห้องของท่านนบีและบุคคลอื่นที่ทำหน้าที่รับใช้
แต่ละคนตามสถานภาพของเขา เครือญาติและญาติใกล้ชิดของท่านนบี(ศ)

หนังสือ ฟัยดุลกอดีร เล่ม 6 หน้า 40 ฮะดีษที่ 8347


บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ