เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

รัศมีของท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ)เจิดจรัสทั่วโลก

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 รัศมีของท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ)เจิดจรัสทั่วโลก

บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
____________

•••บรรดาศัตรูอิสลามต้องการทำลายล้างท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ซึ่งความจริงแล้วการทำลายนบีมีก่อนหน้าที่ท่านจะถือกำเนิด เหมือนกับการสรรเสริญ ศอลาวาต ก็มีมาก่อนหน้าที่ท่านจะมาถือกำเนิดในโลกนี้

ข้อเท็จจริง การตามล้างตามฆ่าไม่ให้ศาสดาองค์นี้ลงมาจุติ ในประวัติศาสตร์ได้บันทึก ถึงการเข้ามาอพยพของยะฮูด ชาวยิวและชาวนัศรอนี ทั้งชาวยิวและชาวคริสต์ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเส้นทางของแผ่นดินฮิญาซ (ระหว่างเส้นทางมะดีนะฮ์ –มักกะฮ์  และมะดีนะฮ์-ซีเรีย   ซึ่งพบแต่เดิมนั้นอยู่ทางดินแดน “คานาอัน” ไปทางปาเลสไตน์)  แต่ที่อพยพเข้ามานั้น เป็นเพราะรู้คำพยากรณ์ว่า จะมีศาสดาองค์สุดท้ายถือกำเนิดมา

ด้วยเหตุนี้ ทุกๆศาสนาซึ่งมีก่อนหน้านี้ จำเป็นต้องสิ้นสุดลง เพราะพวกเขารู้สัญลักษณ์ รวมทั้งรู้ถึงรายละเอียดของศาสดาองค์ต่อมา และในบรรดาบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในแผ่นดินฮิญาซ  มีอยู่ 2 กลุ่ม โดยมีเป้าหมายต่างกัน คือ

1.กลุ่มแรก เข้ามาเพื่อที่จะดับแสง “นูร” ของศาสดาองค์ใหม่

2. กลุ่มที่สอง เข้ามาเพื่อที่จะรอรับสาสน์ และยอมรับในศาสดาองค์นี้   

ทว่าไม่ว่ามนุษย์มีการสร้างป้อมปราการ ตั้งแต่แผ่นดินซีเรีย แผ่นดินชาม จนถึงเมืองมะดีนะฮ์  ซึ่งในแต่ละแผ่นดินก็จะมีป้อมปราการต่างๆ โดยเฉพาะการรอคอยของพวกยะฮูดี จำนวนมาก รอเพื่อเตรียมการฆ่าศาสดาองค์นี้  

แน่นอน พวกเขารู้รายละเอียดทั้งหมดว่า ศาสดาองค์นี้จะมาจากเผ่ากุเรชและจะมาจากเชื้อสายของใคร อยู่ในไขสันหลังของใคร สืบเชื้อสายมาจากผู้ใด  

ประวัติศาสตร์บันทึกว่า มีการตามล้างตามล่า มีการลอบสังหารเชื้อสายต้นตระกูลของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการที่จะดับแสงอันนี้  เพราะไม่ให้นูรอันนี้ปรากฏตัว  

นี่คือ กลุ่มที่รอคอยท่านศาสดา เพื่อจะมาดับแสงท่านศาสดามูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) ซึ่งหากทุกคนศึกษาเรื่องราวของท่าน  หลังจากการปรากฏตัว  เราก็เห็นแล้วว่า  เป็นศาสดาองค์เดียว ในการเผยแผ่สาสน์ของเอกองค์อัลลอฮ(ซบ) ที่ต้องเผชิญกับสงครามอย่างมากมาย

สิบปีหลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ทำสงคราม  ในยุคสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)เกิดสงครามมากถึงแปดสิบครั้ง โดยมีเป้าหมายและพยายามที่จะดับนูรอันนี้   และสิ่งนี้มันมีมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แต่ก็มีคำสัญญาหนึ่งจากอัลลอฮ์(ซบ)ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน  ยืนยันการคงอยู่อย่างต่อเนื่องของนูรและสาสน์อันนี้  ๒ โองการด้วยกัน ซึ่งใจความหลักจะมีความคล้ายกัน แต่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย

โองการแรก  ซูเราะฮฺเตาบะฮฺ โองการที่ ๓๒

‎يُرِيدُونَ أَن يُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَيَأْبَى اللَّهُ إِلَّا أَن يُتِمَّ نُورَهُ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ

ความว่า “พวกเขาต้องการเพื่อจะดับแสงของอัลลอฮ์ด้วยปากของพวกเขา และอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงยินยอม นอกจากจะทรงให้แสงของพระองค์สมบูรณ์เท่านั้น และแม้ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะชิงชังก็ตาม

คำอธิบาย : เขาพยายาม(ยุรีดู)เหมือนกัน คือ ตลอดเวลา ต้องการที่จะดับนูรของอัลลอฮฺ(ซบ) นูรุลลอฮ์
คำว่า “นูร” หมายถึงศาสดา

 “นูร” หมายถึง ความศรัทธาในอิสลาม

“นูร” หมายถึง คำสั่งสอนของอิสลาม

บ่งชี้ว่า บรรดาศัตรูต้องการที่จะดับแสงของพระองค์ต่างๆเหล่านี้  และนี่คือนูรของอัลลอฮ์  คำสั่งสอนในศาสนาคือนูรของอัลลอฮ์ สาสน์ของนบี คือนูรของอัลลอฮ์ ความศรัทธาคือนูรของอัลลอฮ์   ตัวของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ก็คือนูรของอัลลอฮ์

และในโองการนี้เลือกใช้คำว่า (อัย ยุฏ ฟิอู) ต้องการที่จะดับแสงของอัลลอฮ์ และ อัลลอฮ์(ซบ) แน่นอนไม่มีวันยอมให้พวกเขาดับนูรของพระองค์ อัลลอฮฺจะไม่ยอมให้พวกเขาดับแสงของพระองค์    ในขณะที่พวกเขาพยายามจะดับแสง แต่ในขณะเดียวกันนั้น อัลลอฮ์(ซบ) ก็ทำให้แสงอันนี้นั้นเจิดจรัสขึ้น  ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้น

และความจริงแล้ว ไม่มีใครสามารถที่จะดับแสงรัศมีของอัลลอฮ์(ซบ) คำสั่งสอนของมุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ศาสนาของมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ไม่มีใครสามารถที่จะดับแสงอันนี้ได้

นี่คือสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮ์(ซบ)ยืนยันในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน แล้วสิ่งนี้มันก็เกิดขึ้น ในเวลาเพียงไม่นานนัก นบีได้เปลี่ยนแผ่นดินอันนั้นเป็นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ เป็นแผ่นดินแห่งอารยะธรรม เป็นแผ่นดินวัฒนธรรมที่สูงส่งนำสู่วัฒนธรรมให้กับชาวโลก

และข้อพิสูจน์ ด้วยระยะเวลาไม่นานนัก นูรรัศมีส่องประกายมาถึงทั่วโลก ถึงแม้ว่าในโลกนั้น ได้มีความพยายามที่จะดับแสง และหลังจากการจากไปของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อล)ก็ยังมีคนที่จะดับแสงนี้อีกเช่นกัน โดยพวกเขาพยายามบิดเบือนคำสอนในศาสนาในรูปแบบต่างๆ  แต่ในที่สุด เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนูรของมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)นั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวของท่านนบีเพียงผู้เดียว แต่อยู่ที่บรรดาอะอิมมะฮ์ และอยู่ในบุคคลที่เป็นสาวกที่แท้จริง และอยู่ที่บรรดาทายาทที่แท้จริงของท่านด้วย

ยุคหนึ่ง สมัยหนึ่ง กลุ่มแรกที่ฉายแสงอันนี้ ก็คือบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์(อ) ซึ่งมีฮะดิษกำกับและยืนยันอย่างมากมาย

ตวอย่าง ฮะดิษ

 (อะนา วะอาลียุน มินนู ริน วะฮิด)  
 “ฉันกับอะลี มาจากนูรอันเดียวกัน”     

 (อะนา วะอะลียุน มินซะญารอตินวาฮิด)
“ฉันกับอะลี มาจากต้นไม้ต้นเดียวกัน”  

 ความจริงแล้ว ฮะดิษแบบนี้มีมากมาย แม้แต่ในสายรายงานของพี่น้องอะฮ์ลิซซุนนะห์ก็มีบันทึกไว้  ทว่าที่ยกมาเป็นตัวอย่างนี้ เพื่อชี้ให้เห็นถึงการเป็นนูรอันเดียวกัน

และในบางครั้งก็ถูกอธิบายในรูปแบบลักษณะอื่นๆ เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้คือสิ่งเดียวกัน

ตวอย่าง ฮะดิษ  

 (ฮุเซน นุม มินนี วะอะนา มิน ฮุเซน)
“ฮุเซนมาจากฉัน และฉันมาจากฮุเซน"

เป้าหมายเพื่อให้เห็นถึงการเป็นฮากีกัตเดียวกันกับนูรท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)

ทว่าหลังจากท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้จากไป ทั้งนี้ไม่ได้จากไปในแบบที่มนุษย์เข้าใจ แต่เป็นการจากไปเพียงสรีระของรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)เท่านั้น  แต่นูรของท่านยังคงอยู่บนโลก และไม่มีใครที่จะดับนูรอันนี้ได้  มันยังส่องประกายอยู่เสมอ  

ในการชี้ว่า มนุษย์อาจทำได้เพียงเบียดบัง อาจจะบดบัง  อาจจะกดดันเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลา วันหนึ่งนูรนี้ต้องระเบิดขึ้นมา มันก็ต้องฉายแสงขึ้นมา มันก็ต้องเจิดจรัสรัศมีขึ้นมา เพื่อชี้นำมวลมนุษยชาติ และมันไม่มีใครสามารถที่จะหยุดกระแสของนูรอันนี้ได้

นัยยะข้างต้นนี้ หมายถึง กระแสของการชี้นำมวลมนุษยชาติเข้าสู่อิสลาม  ยิ่งวันเวลาผ่านไปความแก่กล้าของนูรอันนี้ก็ยิ่งมากขึ้น วันเวลาหนึ่ง พี่น้องลองคิดดู ว่า เมืองมักกะฮ์ เมืองมาดีนะฮ์อยู่ตรงไหน  เมืองไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย อยู่ที่ไหน แต่วันนี้นูรแห่งความศรัทธาของท่าน นบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ) นูรแห่งความศรัทธาในศาสนาที่ท่านนำมา ในคำสั่งสอนที่ท่านนำมานั้นได้มาถึงยังแผ่นดินทั่วโลกแล้ว

แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น ถ้าเราจะมองทางด้านทิศตะวันออก เพราะญี่ปุ่นเป็นดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์อุไท โดยเดิมนั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นเป็นที่แรกในโลกนี้ก็คือ ที่ประเทศญี่ปุ่น

และในญี่ปุ่นวันนี้   เรามีมุสลิมชาวญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้น และ แสงรัศมีนี้ก็ฉายแสงถึงยัง แอฟริกา  และแอฟริกา คือ แหล่งสุดท้ายที่ดวงอาทิตย์จะตก ซึ่งมองตามภูมิศาสตร์อีกมุมหนึ่ง แน่นอนในแอฟริกาคือ แผ่นดินอันยิ่งใหญ่ที่มีคนจำนวนมากหันเข้ารับศาสนาอิสลาม  

ดงนั้น ทุกวันนี้ ที่เกิดเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย ทั้งในทิศตะวันตกในยุโรป ในสวีเดน ในเยอรมัน ในเดนมาร์ก ในอิตาลี หรือในที่ไหนก็แล้วแต่ ที่กำลังเขียนหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าในการดูหมิ่นอิสลามทั้งหมด เพราะเขากลัวกระแสคำสั่งสอนของศาสดาองค์นี้ เขาพยายามที่จะดับแสงอันนี้ คำสั่งสอนที่เป็นนูร  

เหตุผลหนึ่งที่อัลลอฮ์(ซบ)บอกว่ามันคือ แสงรัศมี   เพราะมันเป็นสสาร เมื่อมนุษย์ได้สัมผัส เมื่อมนุษย์ได้เข้าใจ เมื่อมนุษย์ได้เห็นก็รู้เลยว่านี้คือสิ่งถูกต้อง

นี่คือสิ่งที่มวลมนุษยชาติรอคอย

ดังนั้นการกระทำทุกอย่างทั้งหมดของเหล่ามาร เหล่าซาตานของศัตรูศาสนาเพื่อที่จะดับแสงอันนี้ และรูปแบบต่างๆก็เพื่อที่จะดับแสงอันนี้ เพื่อที่จะดับแสงของอัลลอฮ์(ซบ) เพื่อจะดับแสงนี้ให้ดับลงให้ได้ จะทำทุกวิถีทาง แต่งเติมแต่งร้ายให้ท่านศาสดา ให้ร้ายคำสั่งสอนในอิสลาม

และวิธีการสุดท้าย คือ เอาศาสนาออกไปจากการเมือง แบ่งแยกศาสนจักรกับอาณาจักรให้ออกจากกันเพราะเขารู้แล้วว่า เมื่อใดก็ตามที่ศาสนจักรกับอาณาจักรแบ่งแยกออกจากกันได้ เมื่อนั้นศาสนาไม่อาจมีบทบาท มีอำนาจอย่างแท้จริงขึ้นมาในโลกนี้•••

‎اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وآلِ مُحَمَّدٍ وعَجِّلْ فَرَجَه

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม