เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ทำไมอิสลามห้ามกินหมู

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

สลามครับเชค

เชคช่วยอธิบายเรื่องทำไมอิสลามห้ามกินหมูอย่างละเอียดด้วยครับ

~~~~~~~~~~~~~~~~~•

อัสลามุอะลัยกุมฯครับ

# ล่าช้าในคำตอบจากประเด็นที่ถามต้องขอมะอัฟด้วยครับ.

# ทำไมมุสลิมไม่กินหมู?!

# ตอบ  คำถามนี้สามารถหาคำตอบได้จากหลายภาคส่วนครับ เช่น

# 1- "วิทยาศาสตร์การแพทย์" จากการวิจัยได้ข้อสรุปว่า การกินเนื้อหมูมีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายสูงมากๆ ในเนื้อหมูมีไขมัน มีพยาธิหลายชนิด บางชนิดจะส่งผลให้ร่างกายของมนุษย์เกิดความบกพร่องสูงมากๆ

หมูกินทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอาหาร รวมถึงสิ่งสกปรก แม้แต่มูลของมันเอง มูลของคู่ในคอก  

สัตว์ที่กินสิ่งสกปรก มันคือแหล่งเพาะเชื้อโรค เมื่อเป็นเช่นนั้น แน่นอนที่สุดมันย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกายมนุษย์.

# 2- "จิตวิทยาศาสตร์" ธรรมชาติของหมูเป็นสัตว์ที่ไร้ยางอายที่สุด! ผลวิจัยชี้ว่าด้วยอุปนิสัยของหมู เมื่อตัวผู้ผสมพันธ์กับคู่ของมันแล้ว  มันก็จะส่งต่อให้ตัวผู้ตัวอื่นหรือมันจะชักชวนให้ตัวผู้ตัวอื่นมาผสมพันธ์กับคู่ของมัน เพราะมันมีความสุขกับพฤติกรรมแบบนั้น

ผลวิจัยยังชี้อีกว่า หมูตัวผู้ตัวใดไม่มาผสมพันธ์กับคู่ของมัน หมูตัวผู้เจ้าของคู่จะไม่ผูกมิตรสัมพันด้วย  ฉะนั้นคนที่กินเนื้อหมู ย่อมจะได้รับผลกระทบจากอุปนิสัยของหมู มีลักษณะนิสัยคล้ายกับหมูอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งบัญญัติอิสลามมีเป้าหมายเพื่อการขัดเกลาจิตวิญญานของมนุษย์สู่การเป็นมนุษย์ที่บริสุทธิ์จึงสั่งห้ามกินเนื้อหมู เพราะมันคือตัวทำลายความบริสุทธิ์ของมนุษย์

# 3- "พระมหากรุณาธิคุณ" หมายถึง สิ่งใดที่พระองค์ทรงอนุมัติสิ่งนั้นคือสิ่งที่ให้คุณค่าหรือคุณประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์ สิ่งใดที่พระองค์ทรงห้ามสิ่งนั้นคือโทษสำหรับสุขภาพต่อร่างกายและจิตวิญญานของมนุษย์เช่นกัน นี้คือสิ่งที่มุสลิมทุกคนเชื่อและศรัทธา

เพราะด้วยปรัชญาแห่งความกรุณาธิคุณอันสูงส่งของพระองค์อัลลอห์ และด้วยพระประสงค์แห่งการอภิบาลไร้ซึ่งข้อบกพร่องใดๆจากพระองค์ พระผู้อภิบาลย่อมไม่ประสงค์ให้ผู้อยู่ในอภิบาลต้องขาดตกบกพร่องแม้เพียงที่จะคิดเทียบเท่าเศษถุลีดิน.

# 4- "โองการและฮะดิษ"

إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةَ وَالدَّمَ وَلَحْمَ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ بِهِ لِغَيْرِ اللَّهِ ...  (بقره : ۱۷۳)

ความว่า "อันแท้จริงการที่พระองค์ทรงห้ามสำหรับพวกเจ้านั้นคือ
สัตว์ตายเอง(ซากสัตว์) และเลือด และเนื้อสุกร(หมู) และสัตว์ที่ถูกเชือดโดยไม่ได้เอ่ยนามของอัลลอห์..ฯ" (อัล-บะกอเราะห์ / 173)

โองการข้างต้นแสดงให้เห็นถึงสถานะภาพของเนื้อหมู ว่ามีสถานะภาพเดียวกับสัตว์ตายเอง(ซากสัตว์) เลือด หรือสัตว์ที่ไม่ได้เอ่ยนามของพระองค์อัลลอห์ขณะเชือด ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาน

คนส่วนมาก(จะมุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม)อาจทราบถึงผลข้างเคียงของการกินเนื้อสัตว์ที่ตายเอง(ซากสัตว์) ทราบถึงอันตรายต่อสุขภาพจากการกินเลือด  แต่พวกเขาอาจไม่ทราบผลที่จะตามมาของการกินเนื้อหมู!

ฉะนั้นโองการข้างต้นได้จัดวางสถานะให้ทุกคนประจักษ์ชัดเจนว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นมีสถานะภาพเหมือนกัน เสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายและจิตวิญญานของมนุษย์เหมือนกัน

เมื่อใครคนหนึ่งไม่กินเลือดหรือซากสัตว์ เพราะมันคือแหล่งเพาะเชื้อโรค เขาก็ย่อมจะเข้าใจได้เช่นกันว่า หมูก็คือแหล่งเพาะเชื้อโรค (*ตรรกะทางปัญญาที่สามารถยกอ้างได้)

ท่านอิม่ามญะฟัร อัศ-ศอดิก(อ)กล่าวว่า :

"สัตว์ตายเอง(ซากสัตว์)มีผลทำให้ร่างกายอ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรง ไร้ผู้สืบทอดตระกูล(เป็นหมัน)และยังทำให้เสียชีวิตอย่างไร้สาเหตุโดยไม่ทันตั้งตัว

- การกินเลือด ส่งผลให้จิตใจกระด้างกระเดื่อง (ใจหิน)

- การกินเนื้อหมูทำให้เกิดโรคภัย ความบกพร่องต่างๆต่อสุขภาพร่างกาย.."

จากเหตุผลที่กล่าวมานี้ ชี้ให้เราเห็นว่า อิสลามคือศาสนาที่สมบูรณ์แบบ มีมาเพื่อพัฒนามนุษยชาติ โดยเฉพาะพัฒนาจิตและวิญญาของมนุษย์ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องบนพื้นฐานดังเดิมจากพระเจ้า(ฟิตร็อต)

เฉพาะผู้มีจิตและวิญญานอันบริสุทธิ์(ผู้มีตักวา)เท่านั้น คือผู้ที่จะสามารถสัมผัสทุกๆคุณลักษณะแห่งความโปรดปรานอันไร้ที่สิ้นสุด(สรวงสวรรค์)ของพระองค์อัลลอห์ในโลกหน้าได้

ซึ่งจริงๆแล้วการที่พระองค์ทรงตรัสสั่งเป็นข้อบัญญัติบังคับให้มนุษยชาติดำรงอยู่ในคุณธรรมความดีและออกห่างจากการกระทำความชั่วและสิ่งเลวร้ายต่างๆ ก็เพราะนั่นคือพระประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อปวงบ่าวทั้งมวลดังโองการที่ว่า.

"وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ"

"ข้ามิได้สร้างมนุษย์และญินมาเพื่อการใด เว้นแต่เพื่อพวกเขาจะภักดี(ต่อข้า)" (อัซ-ซาริยาต / 56)

การเชื่อฟังภักดีต่อพระองค์คือการสร้างความพร้อมให้กับตนเอง เพื่อผู้เป็นบ่าวจะได้สัมผัสกับซิฟาตกะมาลิยะห์(คุณลักษณะอันสมบูรณ์แบบไร้ที่สิ้นสุด)ของพระองค์อัลลอห์ ซุบฮ์ฯ ในโลกอาคิเราะห์นั้นเองครับ

-----------------------------------------
اللهم صل علی محمد و آل محمد و عجل فرجهم.

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม