บทเรียนและอุทาหรณ์แห่งอาชูรอ ตอนที่ 1 หัวข้อ เกียรติยศอันแท้จริง

บทเรียนและอุทาหรณ์แห่งอาชูรอ ตอนที่ 1 หัวข้อ เกียรติยศอันแท้จริง

 

     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแผ่นดินกัรบาลา  ในปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 61 ในวันที่ 10 ของเดือนมุฮัรรอม ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งการปฏิวัติ เป็นเดือนที่เลือดมีชัยชนะเหนือคมดาบ เป็นเดือนแห่งการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับอิมามฮุเซน  แม้อาชูรอจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินหนึ่ง ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านกาลเวลามาถึงหนึ่งพันสามร้อยแปดสิบสองปี แต่ผลสะท้อนที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้นกลับมิได้ถูกจำกัดด้วยกับเงื่อนไขของกาลเวลาหรือสถานที่แต่อย่างใด แม้เวลาจะผ่านพ้นไปแต่เรื่องราวของอาชูรอกลับยิ่งถูกรู้จักเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีมุมมองและแง่มุมต่างๆที่กว้างขวางและได้รับการอรรถาธิบายขยายความมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

        อาชูรอเปรียบดังสถาบันการศึกษาทางอุดมการณ์ระดับสูง ที่มีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาร่วมเรียนหลากหลาย  ทั้งต่างอายุ  ต่างสีผิว  ต่างชาติพันธุ์ หรือแม้แต่ต่างศาสนา เป็นการปลูกถ่ายพันธุกรรมแห่งอุดมการณ์จากรุ่นสู่รุ่น อาทิ เรื่องความเสียสละ,เรื่องความอดทน ,เรื่องความกล้าหาญ,เรื่องความซื่อสัตย์และความจริงใจ  การปฏิเสธต่อแนวคิดแบบเผ่าพันธุ์นิยมหรือชาตินิยม, ความยึดมั่นในอุดมการณ์, การต่อสู้กับผู้ปกครองที่อธรรม ,การปกป้องและพิทักษ์ศาสนา,การเปิดโปงศัตรูที่แฝงอยู่ในอิสลาม, การปกป้องผู้ที่เป็นอิมามผู้นำซึ่งเป็นตัวแทนของท่านศาสดา   

      อาชูรอมีบทเรียนสำคัญทางจิตวิญญาณในขณะที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบมากมาย เช่น การเตาบะฮ์  การดุอาอ์ , อิคลาส , การขออภัยโทษ , เกียรติยศ  , การเป็นชะฮีดและการสวามิภักดิ์อย่างสิ้นเชิงต่อพระเจ้า  อีกทั้งยังมีอุทาหรณ์มากมายเมื่อเรานำบทเรียนจากอาชูรอไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต  อาชูรอจึงมิใช่เพียงแค่การเรียนรู้จากบทเรียนเพื่อให้ผ่านพ้นไปในแต่ละปี หากแต่เรายังต้องทำความรู้จักให้ได้อย่างแท้จริงว่าสาส์นที่อิมามต้องการส่งถึงเราคืออะไร? เป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร? เพื่อยกระดับความรู้และพัฒนาจิตวิญญานให้สูงขึ้น

    ซึ่งบทเรียนที่จะกล่าวถึงเป็นบทเรียนแรกในค่ำคืนแรกของเดือนมุฮัรรอม  คือ " บทเรียนแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี " ความหมายของคำว่าเกียรติยศในภาษาไทยโดยทั่วไปเราจะเข้าใจความหมายของคำว่าเกียรติยศไปในเรื่องของความมีชื่อเสียง มีอำนาจ  มีคนนับหน้าถือตา  มีความภาคภูมิใจในการได้อยู่ในสถาบันหรือองค์กรต่างๆ เช่น การจบการศึกษาและได้รับเกียรติบัตรจากสถาบันชั้นนำของประเทศ  การได้ประกอบอาชีพที่ได้รับการยกย่องจากสังคม   การได้รับใช้ประเทศชาติในนามทีมชาติผ่านการเล่นกีฬา  ซึ่งต่างจากในวัฒนธรรมอิสลาม ที่คำว่าเกียรติยศ หมายถึง การขวางกั้น,การหยุดยั้งไปสู่ความพ่ายแพ้  ,การหยุดยั้งไปสู่ความอัปยศ และในการที่จะรู้จักและเข้าใจความหมายของคำๆหนึ่งได้อย่างลึกซึ้งนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักคำที่มีความหมายตรงกันข้ามเพื่อที่จะสื่อไปให้ถึงความหมายของคำๆนั้นได้อย่างแท้จริง  คำว่า"เกียรติยศ"มีคำว่า"อัปยศ"เป็นคำตรงกันข้าม ฉะนั้นเกียรติยศที่แท้จริงก็คือการไม่เข้าไปสู่ความอัปยศ  เพราะความอัปยศคือความต่ำต้อยคือความพ่ายแพ้และคือความน่าละอาย

    ด้านความหมายในมุมมองทางศาสนาของคำว่าเกียรติยศ โดยหลักการแล้วการกระทำใดๆก็ตามที่เรียกได้ว่ามีเกียรติต้องอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า และผู้ที่จะมอบเกียรติยศหรือมอบความอัปยศให้แก่เราก็คืออัลลอฮ์เพียงเท่านั้น  หากพ้นไปจากพื้นฐานความเชื่อเหล่านี้แล้วไซร้ นั่นคือความมีเกียรติยศที่จอมปลอมหาใช่เกียรติยศที่แท้จริงไม่  ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่มักจะยังหลงระเริงอยู่กับความหมายของคำว่าเกียรติยศในทางที่มุ่งไปในเรื่องของโลกวัตถุมากกว่าเรื่องทางจิตวิญญาน   โดยเกียรติยศที่แท้จริงตามความเชื่อของอิสลามนั้น ถูกกล่าวถึงอยู่ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานในซูเราะฮ์ มูนาฟิกูน : โองการที่ 8 "ส่วนความมีเกียรตินั้นเป็นของอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์และบรรดาผู้ศรัทธาแต่ว่าพวกมุนาฟิกีนนั้นหารู้ไม่"  นอกจากนี้พระองค์ยังตรัสอีกว่า: ใครก็ตามที่ปรารถนาความมีเกียรติ ความมีเกียรตินั้นเป็นของอัลลอฮ์ทั้งสิ้น(ซูเราะฮ์ฟาฏิร/10) และในซูเราะฮ์อาลิอิมรอน โองการที่ 26 "พระองค์จะทรงประทานเกียรติยศแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงให้ความต่ำต้อยแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ความดีทั้งหลายนั้นอยู่ที่พระหัตถ์ของพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง "

   
    เช่นเดียวกับอิมามฮุเซน ผู้ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับความอัปยศและต่ำต้อยมาตลอดช่วงชีวิต ผู้ที่ถ่ายทอดและสอนบทเรียนของความมีเกียรติยศอันแท้จริงให้กับเหล่าบรรดาผู้ศรัทธาผ่านเหตุการณ์ที่ต่างกรรมต่างวาระกัน  โดยยึดหลักการจากคำสอนในคัมภีร์อัลกุรอาน และเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างคมดาบกับความอัปยศ  อิมามฮุเซนคือผู้ที่เลือกคมดาบ แม้จะรู้ว่าผลสรุปสุดท้ายต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง

ซึ่งแสดงออกให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยว แน่วแน่และมั่นคงในหลักการ  ดังคำกล่าวนึงจากอิมามที่เราจะได้ยินเสมอในทุกปีของช่วงเดือนมุฮัรรอมคือ " ฉันไม่เห็นความตายคือสิ่งอื่นใด นอกเสียจากความผาสุก แต่การมีชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อธรรมคือความอัปยศ "

      หากเรากำลังตามหาความหมายของคำว่าเกียรติยศ  ความหมายนั้นศาสนาได้มอบไม้บรรทัดเพื่อเป็นมาตรวัดเอาไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว ว่าเกียรติยศจอมปลอมและเกียรติยศที่แท้จริงต่างกันเช่นไร  และถ้าหากเรารู้จักคำว่าเกียรติยศที่แท้จริง  ไม่ว่าเราจะได้พบเจอกับเรื่องราวใดๆก็ตาม เราจะสามารถคัดกรองและแยกออกได้ว่าสิ่งที่ผ่านเข้ามานั้น สิ่งไหนคือการพยายามบิดเบือน และสิ่งไหนคือหลักการ และเมื่อเราค้นพบกุญแจที่สามารถไขประตูไปสู่เกียรติยศที่แท้จริงได้แล้ว ชีวิตของเราจะห่างไกลจากความอัปยศและความต่ำต้อยทั้งปวงได้อย่างแน่นอน

มัจลิสค่ำคืนที่ 1 เดือนมุฮัรรอม ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 1443

ฮูซัยนียะฮ์ซัยยิดุชชุฮาดาอ์
บรรยาย เชคกอซิม อัสการี