การกินอาหารกับผลลัพธ์ต่อจิตวิญญาณ ตอนที่ 2

เป็นที่ชัดเจนว่าทุกๆการกระทำของมนุษย์
จะส่งผลในแง่บวกและแง่ลบ ต่อหัวใจของเขาโดยตรง
 และเช่นเดียวกัน อาหารถือเป็นปัจจัยหลัก
อีกประการหนึ่ง ที่จะเป็นตัวสร้างรัศมีเเก่หัวใจของมนุษย์
และในทางกลับกัน อาจนำมาซึ่งความมืดบอดของหัวใจได้ด้วยเช่นกัน
อาหารที่ดีจะทำให้มนุษย์ได้รับเตาฟีกต่างๆจากพระองค์(ซบ)และจะมีผลต่อการทำอามัลอิบาดัตของเขาอีกด้วย
เช่น
อาหารที่ฮะลาลและสะอาด(ปราศจากนะญิส)เป็นตัวป้องกันไม่ให้หัวใจของมนุษย์ตกเป็นทาสของชัยฎอนได้ง่าย
 : ฮะดิษเกี่ยวกับเรื่องนี้
อมีรุลมุอฺมินีนอะลี(อ.)ได้เขียน(จดหมาย)
ถึงอุษมานอิบนิฮะนีฟ ใจความดังนี้..
เจ้าจงนำสิ่งที่ไม่ฮะลาลออกจากปากของเจ้าเสีย
قال : امیرالمؤمنین  (علیه السّلام)
«... فما اشْتَبه علیْکَ عِلْمه فَالْفِظهُ... .»

 และสำหรับบุคคลที่ขัดเกลาจิตวิญญาณเพื่อแสวงหาความใกล้ชิดต่อพระองค์อัลลอฮ์(ซบ.)มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เขาจะต้องให้ความสำคัญกับอาหารที่เขาจะเลือกรับประทานเป็นพิเศษ
และสิ่งนี้ถือเป็นหนึ่งในภาระกิจของผู้ที่รอคอย
ท่านอิมามมะฮฺดี(อญ.)
ที่ถูกระบุไว้ในบทดุอาอิมามมะฮฺดี(อญ.)ในภารกิจที่แปดว่า
طَهِّرْ بُطُونَنا مِنَ الْحَرامِ وَالشُّبْهَةِ
"ขอให้พระองค์(ซบ.)ทรงทำให้ท้องของเรา
สะอาดปราศจากสิ่งที่เป็นฮะร่าม และอาหารที่คลุมเครือ(น่าสงสัย)ด้วยเถิด"
ในประโยคนี้ท่านอิมามมะฮฺดี(อญ.)
ได้กล่าวถึงสองสิ่ง ที่เราจะต้องทำให้ท้องห่างไกลจากมัน

1.สิ่งที่เป็นฮะร่าม : ต้องห้าม
ซึ่งฮะร่ามณ.ตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นอาหารต่างๆที่พระองค์(ซบ.)ไม่อนุมัติให้เรารับประทานเข้าไป
เช่น สิ่งที่เป็นนะญิสทั้งหลาย หมู สุนัข สุรา หอย ปูฯลฯ
หรือไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย
หรือเงินทองที่ได้มาจากการฉ่อโกงผู้อื่น
และการประกอบอาชีพที่ผิดหลักการศาสนาก็ตาม
สิ่งเหล่านี้ จะส่งผลให้หัวใจของมนุษย์มืดบอด
แม้เเต่การลุกขึ้นในการทำอามัลอิบาดะฮ์สำหรับเขา
ก็จะดูเป็นเรื่องยากลำบากไปซะหมดทุกอย่าง
และมันจะนำมนุษย์ไปสู่การทำบาปและขัดขืนต่อการทำตามคำสั่งของพระองค์(ซบ.)ในที่สุด

2.อาหารที่เป็นชุบฮะฮ์ : สิ่งที่คลุมเครือ
สิ่งที่คลุมเครือ ณ.ตรงนี้คือ
ไม่มั่นใจว่า ฮาลาลหรือฮาร่าม เกิดความสงสัยขึ้น
เช่น
ไก่ร้านนี้เขาเชือดตามหลักการอิสลามหรือเปล่า?
อาหารร้านนี้มีผู้ช่วยเป็นกาเฟรในการล้างจานหรือปรุงอาหารหรือเปล่า?
อาชีพนี้ขัดต่อหลักการศาสนาหรือเปล่า?
 ถ้าเกิดข้อสงสัยขึ้น
ควรสร้างความกระจ่างชัดหรือไม่ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการกินและใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นเสีย
ดั่งที่อัลกุรอานได้กล่าวไว้
ซูเราะฮ์อะบะสะ/24
فَلْيَنظُرِ الْإِنسَانُ إِلَىٰ طَعَامِهِ
มนุษย์จงพิจารณาดูอาหารของเขาซิ

"เรื่องเล่า"
รายงานจากอบูบะซีรเล่าว่า
ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งมาเข้าพบท่านอิมามมุฮัมมัดบาเก็ร(อ.)
ชายผู้นั้นพูดขึ้นว่า : ฉันอ่อนแอในการทำอามัลอิบาดะฮ์เป็นอย่างมากและแทบจะไม่ได้รับเตาฟีกในการประกอบอามัลที่เป็นมุสตะฮับเลยเฉกเช่นการถือศีลอดมุสตะฮับ
(เขาพูดต่อว่า)
"ฉันหวังว่านอกจากสิ่งที่ฮะลาลฉันจะไม่กินสิ่งอื่นที่นอกจากนี้เข้าไป"
ท่านอิมามมุฮัมมัดบาเก็ร(อ.)ได้กล่าวตอบว่า
«أیُّ الْإجتهاد أفْضلُ من عفَّه بَطْنٍ و فرْجٍ؟»
จะมีการพยายามใดเหล่าที่จะประเสริฐยิ่ง
ไปกว่าการพยายามปกป้องท้อง(ให้ห่างไกล)จากสิ่งที่ฮะร่าม

ขอขอบคุณ ข้อมูล Almahdiyah Student Club Thailand