ความอดทนในมุมมองของท่านอิมามอะลี ตอนที่ 3

เราพูดถึงเรื่องความอดทนทั้งสามประเภทไปแล้ว ลองมาดูโองการนี้กันว่าจัดอยู่ในประเภทไหนของความอดทน
 رَبَّنَا أَفْرِغْ عَلَيْنَا صَبْرًا وَتَوَفَّنَا مُسْلِمِينَ
พระผู้อภิบาลของเหล่าข้าพระองค์ได้โปรดหลั่งความอดทนแก่เหล่าข้าพระองค์(ให้ได้รับฐานันดรของผู้มีความอดนทนเป็นเลิศ)และได้โปรดเอาชีวิตเหล่าข้าพระองค์ไปในฐานะมุสลิม(ผู้ยอมสวามิภักดิ์) (อัลกุรอานบทอัลอะอ์รอฟ โองการที่ 126)
เป็นโองการที่เกี่ยวกับเรื่องมายากลของฟิรอูนในยุคท่านศาสดามูซา (อ.) เมื่อเหล่านักมายากลมากันพร้อมก็ได้เริ่มการประลองกัน ท่านศาสดามูซา (อ.) ให้พวกเขาเริ่มก่อน พวกเขาก็ได้แสดงให้ปรากฏงูขึ้นท่านศาสดามูซาก็โยนไม้เท้าไปกระทั่งเป็นงูใหญ่ฆ่างูของพวกนั้นตาย เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลต่อคนที่ดูเหตุการณ์เปลี่ยนมาอยู่กับศาสดามูซา (อ.) ทำให้ฟิรอูนโกรธเป็นอย่างมาก
قالَ فِرْعَوْنُ آمَنْتُمْ بِهِ قَبْلَ أَنْ آذَنَ لَكُمْ إِنَّ هَذَا لَمَكْرٌ مَكَرْتُمُوهُ فِي الْمَدِينَةِ لِتُخْرِجُوا مِنْهَا أَهْلَهَا فَسَوْفَ تَعْلَمُونَ ﴿۱۲۳﴾
 لَأُقَطِّعَنَّ أَيْدِيَكُمْ وَأَرْجُلَكُمْ مِنْ خِلَافٍ ثُمَّ لَأُصَلِّبَنَّكُمْ أَجْمَعِينَ ﴿۱۲۴﴾
قَالُوا إِنَّا إِلَى رَبِّنَا مُنْقَلِبُونَ ﴿۱۲۵﴾
وَمَا تَنْقِمُ مِنَّا إِلَّا أَنْ آمَنَّا بِآيَاتِ رَبِّنَا لَمَّا جَاءَتْنَا رَبَّنَا أَفْرِغْ عَلَيْنَا صَبْرًا وَتَوَفَّنَا مُسْلِمِينَ ﴿۱۲۶﴾
(อัลกุรอานซูเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ)
“ความอดทน” ในโองการนี้ หมายถึง การอดทนในการภักดีต่อพระเจ้า การเป็นบ่าวที่ดีต่อพระองค์นั้นมีอุปสรรคขวางกั้น ต้องใช้ความอดทน
وَقَالَ الْمَلَأُ مِنْ قَوْمِ فِرْعَوْنَ أَتَذَرُ مُوسَى وَقَوْمَهُ لِيُفْسِدُوا فِي الْأَرْضِ وَيَذَرَكَ وَآلِهَتَكَ قَالَ سَنُقَتِّلُ أَبْنَاءَهُمْ وَنَسْتَحْيِي نِسَاءَهُمْ وَإِنَّا فَوْقَهُمْ قَاهِرُونَ ﴿۱۲۷﴾
 قَالَ مُوسَى لِقَوْمِهِ اسْتَعِينُوا بِاللَّهِ وَاصْبِرُوا إِنَّ الْأَرْضَ لِلَّهِ يُورِثُهَا مَنْ يَشَاءُ مِنْ عِبَادِهِ وَالْعَاقِبَةُ لِلْمُتَّقِينَ ﴿۱۲۸﴾
ฟิรอูนย่อมไม่ปล่อยไว้แน่นอน ตรงนี้ท่านศาสดามูซา (อ.) บอกว่าให้อดทนและขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์(ซบ.) หากต้องการเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์ ย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย และต้องจ่ายมันด้วยการอดทนและขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ต้องใช้ความอดทนทั้งในการภักดีต่อพระองค์ การไม่ทำบาปและความทุกข์โศก
(ผมได้ดูคลิปหนึ่งเกี่ยวกับแม่น้ำไนล์ ในบริเวณที่มีปาฏิหาริย์ทะแลแยกเกิดขึ้นในยุคศาสดามูซา (อ.) ล่าสุดนักโบราณคดีได้พบว่าฝั่งหนึ่งของอ่าวเอลัตมีสีฟ้าจางเป็นแนวยาวทอดไปอีกฝั่งหนึ่งของอ่าว จึงได้ทำการค้นหาคำตอบโดยนักประดาน้ำหลายต่อหลายครั้งก็ค้นพบว่าใต้ทะลนั้นมีเส้นทางที่ทอดยาวไปอีกฝั่งหนึ่งของอ่าวใต้ท้องทะเลลึก และยังค้นพบกระดูกซึ่งต่อมาได้ทำการพิสูจน์ว่าเป็นกระดูกของม้า และยังพบล้อสองล้อ ที่ล้อหนึ่งมีขนปกคลุมส่วนอีกล้อหนึ่งหุ้มด้วยทองคำ ซึ่งต่อมานักจิตรกรอียิปต์โบราณก็ยืนยันว่าเป็นของฟิรอูน และนักโบราณคดียังค้นพบเสาอีกสองเสาที่อยู่สองฝั่งของอ่าวที่มีตัวอักษรจารึกอยู่ ซึ่งเป็นเสาในยุคท่านศาสดาสุไลมานเพื่อเป็นรักษาร่องรอยปาฏิหาริย์ทะเลแยกไว้ และค้นพบศพของฟิรอูนที่อยู่ในยุคของศาสดามูซา ซึ่งสร้างความฮือฮาและน่าทึ่งอย่างมากแม้ว่านักโบราณคดีจะเป็นชาวฝรั่งเศสและเป็นคริสต์ก็ตามแต่เรื่องนี้ก็ได้ถูกตีแผ่และนำเสนอออกไปทั่วโลก)

มีอีกโองการหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับศาสดามูซา (อ.) จากหลายๆ โองการเกี่ยวกับท่านนั้นจะเห็นได้ว่าท่านศาสดาเป็นคนที่พูดกับอัลลอฮ์ (ซบ.) ในลักษณะตรงไปตรงมา ซึ่งไม่มีศาสดาท่านใดกล้าพูดอย่างศาสดามูซา (อ.) มีในรายงานว่า ฝนไม่ตกประชาชนลำบาก ก็ได้เชิญท่านมาขอดุอา ท่านได้เริ่มด้วยคุณลักษณะของพระองค์ จากนั้นก็พูดว่า โอ้อัลลอฮ์ ฝนไม่ตก เมฆมันไม่เชื่อฟังพระองค์ ลมก็ไม่พัด เป็นคำพูดที่น่าทึ่งมากท่านพูดกับพระเจ้าแบบนี้ ในโองการก็เช่นกัน
وَاخْتَارَ مُوسَى قَوْمَهُ سَبْعِينَ رَجُلًا لِمِيقَاتِنَا فَلَمَّا أَخَذَتْهُمُ الرَّجْفَةُ قَالَ رَبِّ لَوْ شِئْتَ أَهْلَكْتَهُمْ مِنْ قَبْلُ وَإِيَّايَ أَتُهْلِكُنَا بِمَا فَعَلَ السُّفَهَاءُ مِنَّا إِنْ هِيَ إِلَّا فِتْنَتُكَ تُضِلُّ بِهَا مَنْ تَشَاءُ وَتَهْدِي مَنْ تَشَاءُ أَنْتَ وَلِيُّنَا فَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا وَأَنْتَ خَيْرُ الْغَافِرِينَ ﴿۱۵۵﴾
“และมูซาได้คัดเลือกกลุ่มชนของเขามาเจ็ดสิบคน เพื่อ(ไปยัง)ที่นัดหมายของเรา เมื่อแผ่นดินไหว(อย่างรุนแรง)ได้คร่าชีวิตพวกเขาไป เขากล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของเหล่าข้าพระองค์ หากพระองค์ทรงปรารถนาก็คงทำลายพวกเขาและข้าพระองค์ไปก่อนหน้านี้แล้ว พระองค์จะทรงทำลายล้างพวกเราเนื่องจากสิ่งที่พวกโง่เขลาเบาปัญญาในหมู่พวกเราได้กระทำไปเช่นนั้นหรือ?  นี่ไม่ใช่อื่นใด นอกจากการทดสอบพระองค์จะทำให้ผู้ที่พระองค์ปรารถนาให้หลงผิด(กับสิ่งทดสอบ)นั้น
และจะทรงชี้นำทางผู้ที่พระองค์ทรงปรารถนาด้วยสิ่งนั้น  พระองค์นั้นคือผู้ทรงคุ้มครองดูแลเหล่าข้าพระองค์ ฉะนั้นได้โปรดอภัยโทษและเมตตาแก่พวกเรา พระองค์คือผู้ทรงให้อภัยโทษที่ดีที่สุด ”
(ซูเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ)
ลองอ่านและใคร่ครวญโองการนี้จะเห็นว่าท่านศาสดามูซา (อ.) ได้กล่าวกับพระองค์อย่างไร ซึ่งมีเฉพาะท่านเท่านั้นที่กล้าพูดกับพระเจ้าเช่นนี้
ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือเราในวันเวลาที่ยิ่งใหญ่นี้ ทรงโปรดเก็บอิบาดัตที่น้อยนิดของเราไว้ในวันกิยามัต กุรอานที่เราได้อ่านไปขอมอบให้แก่ญาติมิตรที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ทรงมอบสิ่งที่ดีงามแก่เราด้วยเถิด

สรุปคำตักเตือนเชคสิคอวะตีหลังนมาซซุฮ์ร เดือนรอมฎอน
ถอดความโดย IM. PCR เชคอิมรอน พิชัยรัตน์