เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

เมื่อท่านอิมามมะฮ์ดี( อ.ญ.) ปรากฎกาย[ซุฮูร]ผู้รอคอยท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า "ผู้ประกาศตนเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม"

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

เมื่อท่านอิมามมะฮ์ดี( อ.ญ.) ปรากฎกาย[ซุฮูร]ผู้รอคอยท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า "ผู้ประกาศตนเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม"

 

ข้าพเจ้า จะขอทำความเข้าใจกับสมาชิกทุกท่านด้วยภาษาที่เรียบง่าย เช่นนี้ว่า

[1]- ความศรัทธาต่ออิมามมะฮ์ดี อ. และการรู้จักท่านอิมาม อ. ก่อนการปรากฎกาย
กล่าวคือ จงสร้างความตักวา และความมีอิหม่านที่เข้มแข็งต่อองค์อัลลอฮ์ให้เกิดขึ้นในหัวใจให้จงได้ก่อนการปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี อ. และจงเรียนรู้ซีฟัตและคุณลักษณะต่างๆของท่านอิมามมะฮ์ซูมให้ถ่องแท้ เมื่อนั้นแหละจะไม่มีผู้แอบอ้างจอมปลอมมาหลอกพวกท่านได้

อิมามศอดิก อ. กล่าวว่า  :
"บุคคลที่ยอมรับในความสัตย์จริงของอิมาม เขาคือผู้ที่มีความศรัทธาที่มั่นคงมาก่อนแล้ว"

เมื่อเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และเรียนรู้ถึงคุณลักษณะที่จำเป็นต่างๆของผู้เป็นอิมามในฐานะตัวแทนของพระองค์แล้ว เขาก็ไม่ต้องหวาดหวั่นสิ่งใดแล้ว เพราะเมื่อถึงเวลานั้น พระองค์จะเปิดหัวใจของเขา และทำให้เขาได้ประจักษ์ชัดว่า นั้นคือ อิมามมะฮ์ดี อ. ดังที่พระองค์ทรงแจ้งข่าวดีแก่ผู้ที่เพียรพยายามเพื่อพระองค์ว่า พระองค์จะชี้หนทางแก่เขาเอง เมื่อถึงเวลานั้น

وَالَّذِينَ جَاهَدُوا فِينَا لَنَهْدِيَنَّهُمْ سُبُلَنَا

และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเร

 ฉะนั้นหน้าที่ของศรัทธาชน ณ ตอนนี้ หาใช่เวลาที่จะถามว่า เราจะรู้จักอิมาม อ. ได้อย่างไรเมื่อท่านปรากฏกาย แต่ต้องถามว่า วันนี้เรารู้จักอิมาม อ. แห่งยุคสมัยของตน แล้วหรือยัง ?

مَنْ ماتَ وَ لَمْ يَعْرِفْ إمامَ زَمانِهِ ماتَ مَيْتَةً جاهِلِيَّةً

“ผู้ใดที่ตายลงโดยที่เขาไม่รู้จักอิมามแห่งยุคสมัยของเขา เขาได้ตายในสภาพญาฮิลียะฮ์”(ยุคโฉดเขลาก่อนอิสลาม)

[2]- ท่านอิมามมะฮ์ดี อ. ปรากฎกายเพื่อการปฏิวัติโลกไม่ใช่มาในฐานะนักดาอีฮ์(นักเผยแพร่)ทั่วไปที่มักชอบแอบอ้าง
ท่านอิมามมะฮ์ดี อ. มาพร้อมกับคำประกาศที่กึกก้องกังวาลไปทั่วโลก และจะไม่มีผู้ใดที่จะไม่ได้ยินคำประกาศนี้ของท่าน แม้พวกเขาจะอยู่ในหุบเขาที่ห่างไหล ก็ตาม

ดังนั้น เมื่อท่านปรากฎกาย การปฏิวัติโลกของท่านก็จะเกิดขึ้น กลุ่มมหาอำนาจและซาตานตัวใหญ่ก็จะเริ่มต่อต้าน เมื่อนั้นแหละสงครามโลกก็จะอุบัติขึ้นและมันก็จะจบลงด้วยการพิชิตโลกทั้งผองของท่านอิมามมะฮ์ดี อ. แล้วจะมีอะไรให้หลงเหลือความสงสัยอีกเล่า ว่า "ท่านไม่ใช่อิมามมะฮ์ดี อ."  พระองค์อัลลอฮ์ทรงตรัสความจริงของการพิชิตโลกไว้ในซูเราะห์อัลนัศร์ อายะที่ 1-2 ว่า

« إِذَا جَاء نَصْرُ اللَّهِ وَالْفَتْحُ   وَرَأَيْتَ النَّاسَ يَدْخُلُونَ فِي دِينِ اللَّهِ أَفْوَاجًا»

เมื่อความช่วยเหลือของอัลลอฮ์ และการพิชิตได้มาถึง เจ้าก็จะได้เห็นประชาชนทยอยกันเข้ามาในศาสนาของอัลลอฮ์เป็นกลุ่ม ๆ เป็นกลุ่มๆ

(ฉะนั้นอย่ากลัวไปเลยว่าเราจะแยกแยะอิมามไม่ได้ว่าใช่ท่านหรือไม่ แต่จงกลัวว่า เราจะได้เป็นทหารของท่านหรือไม่ เพราะความศรัทธาที่อ่อนแอของเรา)

[3]- การปรากฎกายขออิมามมะฮ์ดี อ. จะมาพร้อมกับเครื่องหมายต่าง ๆ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้คนว่า นั้นคือ ท่านอิมามมะฮ์ดี อ. จริงๆ ไม่ใช่ผู้แอบอ้างตน
ฉะนั้น การกล่าวอ้างการปรากฏกาย (ซุฮูร) ก่อนการเกิดขึ้นของสัญญาณเหล่านี้คือเรื่องโกหกและเป็นสิ่งมดเท็จ ตัวอย่างรายงานฮะดีษในสัญญาที่แน่นอนมีดังนี้

ท่านอิมามซัจญาด อ. กล่าวว่า :
"แท้จริงเรื่อง (การมา) ของกออิม (อิมามมะฮ์ดี) เป็นสิ่งที่แน่นอนจากอัลลอฮ์ และเรื่อง (การมา) ของซุฟยานี ก็เป็นสิ่งที่จะเกิดแน่นอนจากอัลลอฮ์ และกออิมจะไม่ปรากฏตัวนอกจากมาพร้อมกับซุฟยานี”

ท่านอิมามซอดิก อ. กล่าวว่า :
“การปรากฏตัว (และการยืนหยัดขึ้น) ของบุคคลสามคนคือ คูรอซานี ซุฟยานี และยะมานี จะเกิดขึ้นในปีเดียวกัน ในเดือนเดียวกัน ในวันเดียวกัน

ท่านอิมามอะลี อ. กล่าวว่า
“และบุรุษผู้หนึ่งจากครอบครัว (อะฮ์ลุลบัยต์) ของฉันจะปรากฏตัวขึ้นในแผ่นดินฮะรัม (กะอ์บะฮ์) เมื่อข่าว (การปรากฏตัวของเขา) ไปถึงซุฟยานี เขาจะส่งทหารกองทัพหนึ่งของตนไปยังเขา ดังนั้นเขาจะทำสงครามกับทหารเหล่านั้น และเมื่อนั้นตัวซุฟยานีเองจะออกเดินทางไปพร้อมกับผู้ร่วมทางของตนเพื่อทำสงครามกับเขา จนกระทั่งเมื่อผ่านแผ่นดิน (ที่มีชื่อว่า) “บัยดาอ์” ธรณีจะสูบพวกเขา โดยที่จะไม่มีคนใดจากพวกเขารอดชีวิตไปได้ นอกจากเพียงคนเดียวที่จะแจ้งข่าวเกี่ยวกับพวกเขา”

[4]- เมื่ออิมามมะฮ์ดี อ. ปรากฎกาย ท่านนบีอีซา อ. ก็จะกลับมาอีกครั้งเพื่อเชื่อเหลือในภาระกิจของท่านอิมามมะฮ์ดี เมื่อนั้นแหละทั้งคริสและอิสลามรวมถึงมนุษย์ที่มีหัวใจเป็นธรรม และรักความยุติธรรม รังเกียจการกดขี่ ก็จะทยอยเข้าสัตยาบันต่อท่านอิมามมะฮ์ดี อ. เมื่อเป็นเช่นนี้จะมีอะไรให้สงสัยอีกว่า "ท่านไม่ใช่อิมามมะฮ์ดี"
แต่หากเป็นตัวปลอม หรือผู้แอบอ้าง จะผ่านไปกี่ปี  ปีแล้วปีเล่า ก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด อาจจะมีกระแสบ้าง แต่สักพักก็จะเงียบหายไป ดั่งที่เราเห็นมาตลอดในหน้าประวัติศาสตร์ แม้แต่ปัจจุบันที่ประจักษ์ชัด เช่น ลัทธิบาไฮ ของบะฮาอุลลอฮ์ (พ.ศ 2360-2435) หรือลัทธิยะมานีปลอม ของอะห์มัด กอเฎียะ (ในปี ค.ศ. 1999) ที่ไม่สามารถสร้างเเรงกระเพื่อมได้มากมายนัก และในที่สุดก็จะหายไปกับสายลม ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะมัน "ปลอม"

 บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม