การตักลีดต่อฟะกีฮ์ คือ ซุนนะห์แห่งอะฮ์ลุลบัยต์

การตักลีดต่อฟะกีฮ์ คือ ซุนนะห์แห่งอะฮ์ลุลบัยต์

นิยามของ ตักลีด

ตักลีด หมายถึง การปฏิบัติตาม การติดตาม ส่วนความหมายตามหลักปฏิบัติศาสนกิจของอิสลาม หมายถึง การนำกฎเกณฑ์ที่มัรญิอ์ตักลีด อธิบายไว้มาปฏิบัติ โดยทั่วไปแล้วไม่อนุญาตให้ ตักลีด เรื่องที่เกี่ยวกับหลักความเชื่อของศาสนา ส่วนในเรื่องหลักปฏิบัติศาสนกิจนั้นจำเป็นต้องตักลีดตามผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ

 มีคำถามเข้ามาว่า "ในอิสลามอนุญาตให้ปฏิบัติตาม(ตักลีด) คำวินิจฉัยของผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนบัญญัติ (มัรญิฮ์/ฟะกิฮ์) หรือไม่ ?

คำตอบ

การสอบถามของ "ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ" (ญาเฮล) ต่อ "ผู้ที่มีความชำนาญการ" (อาลิม) คือ วิถีประชา (ซิร่อตุล อุก่อละอียะฮ์) เช่น เมื่อท่านป่วยไม่สบาย สติปัญญาก็จะบอกว่าให้ไปหาหมอ เมื่อต้องการจะสร้างบ้านสักหลักหนึ่งปัญญาก็จะชี้แนะว่า ให้ไปปรึกษาวิศวกรช่างออกแบบบ้าน  ถามว่า เมื่อไม่สบายแล้วไปหาหมอ จะมีใครกล้าถามไหมว่า  "มีหลักฐานทางศาสนาหรือไม่ที่ระบุว่าต้องไปหาหมอ เมื่อไม่สบาย ?"
และแน่นอนว่าหากมีใครถามหาหลักฐานจากท่าน ท่านก็คงคิดว่า เขาเป็นบ้าไปแล้วกระมัง

ฉะนั้น ในทำนองเดียวกันนี้เองสำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนิติบัญญัติอิสลาม หากตัวเราไม่มีความสามารถที่จะแยกแยะ(วินิจฉัยบนพื้นฐานของอัลกุรอ่านและฮะดิษ) จำเป็นที่เราจะต้องย้อนกลับไปหามุจญ์ตะฮิด ญามิอุชชะรออิฏ เพื่อขอคำปรึกษาหารือจากท่าน

ที่สำคัญพระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ได้ห้ามวิถีนี้ไว้แต่ประการใด อีกทั้งยังสนับสนุนและรับรองไว้อีกด้วย
ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า

فَاسْأَلُوا أَهْلَ الذِّكْرِ إِن كُنتُمْ لَا تَعْلَمُونَ

 “พวกเจ้าจงถามผู้รู้(อะฮ์ลุซ-ซิกริ) หากพวกเจ้าไม่รู้”

หากถามว่าในมุมของฮะดิษมีริวายะฮ์จากอะฮ์ลุลบัยต์นบี มายืนยันความถูกต้องต่อการ "ตักลีด" หรือไม่ แน่นอนว่า คำตอบ "มีครับ"

ท่านอิมามศอดิก อ. ได้รับสั่งต่อ อะบาน บิน ตะลิบ ให้เขาได้ไปนั่งในมัสยิดมะดีนะห์ เพื่อวินิจฉัยปัญหาศาสนา(อิจติฮาต)แล้วออกคำฟัตวา(ตัดสินชี้ขาดปัญหาศาสนา)ต่อประชาชน

یا أبان اجْلِسْ فِی مَسْجِدِ الْمَدِینَةِ وَ أَفْتِ النَّاسَ فَإِنِّی أُحِبُّ أَنْ یُرَى فِی شِیعَتِی مِثْلُکَ

โอ้อะบานเอ๋ย ! เจ้าจงไปนั่งในมัสยิดมะดีนะห์ และจงออกคำฟัตวา(ในเรื่องศาสนบัญญัติ)ต่อประชาชนเถิด เพราะแท้ที่จริงแล้วเรา(อะฮ์ลุลบัยต์)รักและปราถนาที่จะให้ผู้ปฏิบัติตามเราได้เป็นเหมือนดั่งเช่นท่าน(เป็นผู้รู้/ฟะกิฮ์/มุจตะฮิด)
บันทึกหนังสือวะศ่ออิลุช ชีอะห์ เล่ม 17 หน้า 315

عَنْ عَلِيِّ بْنِ الْمُسَيَّبِ الْهَمْدَانِيِّ قَالَ: قُلْتُ لِلرِّضَا ع شُقَّتِي بَعِيدَةٌ وَ لَسْتُ أَصِلُ إِلَيْكَ فِي كُلِّ وَقْتٍ- فَمِمَّنْ آخُذُ مَعَالِمَ دِينِي- قَالَ مِنْ زَكَرِيَّا بْنِ آدَمَ الْقُمِّيِّ- الْمَأْمُونِ عَلَى الدِّينِ وَ الدُّنْيَا

ท่านอะลี บิน มุสัยยับ ฮะเมฮ์ดานี่ ได้รายงานว่า ฉันได้ถามท่านอิมามริฏอ อ. ว่า ฉันอาศัยอยู่สถานที่ซึ่งห่างไกลไปจากท่านมาก และไม่สามารถมาหาท่านได้เสมอ ฉะนั้นในปัญหาศาสนาฉันควรปฎิบัติตัวอย่างไรขอรับ ?
ท่านอิมามริฎอ อ. ตอบว่า "จงไปถามปัญหาศาสนาจากซักการียา บินอาดัม อัลกุมมีฮ์ เพราะเขาคือผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อศาสนา และทางโลก

 หากการออกคำวินิจฉัยโดยผู้รู้ โดยฟะกิฮ์ ไม่เป็นที่อนุญาติในอิสลาม แน่นอนว่า ท่านอิมามศอดิก อ. ก็คงไม่รับสั่งให้ อะบาน บิน สะลิบ ไปนั่งในมัสยิดมะดีนะห์เพื่อออกคำวินิจฉัยให้ประชาชนทั่วไปหรอกนะ..

และเช่นกันหากการตักลีดตามผู้รู้/ฟะกิฮ์ไม่เป็นที่อนุญาติในอิสลามท่านอิมามริฎอ อ. คงไม่รับสั่งให้ อะลี บิน มุสัยยับ ไปถามปัญหาที่สงสัยกับ ฟะกิฮ์ซักการียา บิน อาดัม อัลกุมมีอ์ หรือนะ จริงไหม...?

و اجلس لهم العصرین فافت المستفتی و علّم الجاهل و ذاکر العالم

ท่านอิมามอะลี อ. ได้ส่งสาส์นไปยังเจ้าเมืองมักกะในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งคอลิฟะฮ์ว่า "ในช่วงระหว่างเวลานมาซซุฮ์ริ และอัศริ ให้เจ้าได้ไปนั่งในมัสยิดเพื่อที่จะได้ออกคำฟัตวาให้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อที่จะได้สอนสั่งพวกเขาในสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ และจงเเจ้งเตือนผู้รู้(ฟะกิฮ์)ทั้งหลายในเรื่องนี้ด้วย

นี้ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ยืนยันสัจธรรมว่า "การตักลีด" คือแนวทางที่อะฮ์ลุลบัยต์นบีได้กำชับไว้สำหรับประชาชนทั่วไป....

สุดท้ายก็หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่งสำหรับกลุ่มคนที่มักอ้างว่า "ไม่อนุญาตให้ตักลีดตามมัรญิอ์" นะ


บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ