เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

การกล่าวตักบีร-เราะตุลอิฮ์รอม ในนมาซ

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

การกล่าวตักบีร-เราะตุลอิฮ์รอม ในนมาซ

 

ผู้เดินทางไปประกอบพิธีหัจญ์ณ บัยตุ้ลลอฮฺ นั้น ประโยคแรกที่เป็นวาญิบต้องกล่าวคือ .... ลับบัยก์ ซึ่งหลังจากกล่าวประโยคนี้แล้ว เท่ากับเป็นการเริ่มเข้าสู่พิธีหัจญ์ และสิ่งที่ต้องระวังต่อมาคือ ต้องหลีกเลี่ยงการกระทำที่ต้องห้าม ๒๔ ประเภท ซึ่งถ้ากระทำถือว่าเป็นหะราม และต้องเสียกัฟฟาเราะฮฺ (ซึ่งรายละเอียดมีกล่าวไว้ในขั้นตอนพิธีการประกอบหัจญ์)

นมาซเช่นกัน เริ่มต้นด้วยกับการกล่าวว่า (الله اكبر ) อัลลอฮุอักบัรฺ (อัลลอฮฺทรงมหาใหญ่) เมื่อกล่าวคำนี้แล้ว ภารกิจบางประเภทถือเป็นหะรามสำหรับเขาทันที เช่น การกิน การดื่ม การพูดคุย การหัวเราะ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเรียกตักบีรฺแรกของนมาซว่า ตักบีรอตุ้ลอิหฺรอม หมายถึงหลังจากตักบีรฺนี้แล้ว อริยาบทต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากนามซถือเป็นหะราม (ต้องห้าม)

บรรฮุจญาต (ผู้แสวงบุญทั้งหลาย) ในระหว่างทางไม่ว่าเขาจะหยุดและนั่งพักที่ไหน เขาจะกล่าว "ลับบัยก์” ซ้ำเสมอ ซึ่งถือว่าเป็นมุสตะฮับ (สิ่งที่ดีงาม) นมาซเช่นกัน ไม่ว่าท่านจะก้ม ยืน นั่ง หรือลุกขึ้น เป็นมุสตะฮับให้กล่าวว่า “อัลลอฮุอักบัรฺ”

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺคือ คำพูดแรกที่เป็นวาญิบในตอนเช้าตรู่

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺคือ คำพูดแรกที่ทารกแรกเกิดทุกคนต้องสำเนียกฟัง (เป็นมุสตะฮับให้อะซานที่หูขวาและอิกอมะฮฺที่หูข้างซ้าย) และเป็นคำพูดสุดท้ายที่คนตายทุกคนต้องฟัง (นมาซมัยยิต) หลังจากนั้นจึงนำเอาร่างไปฝัง

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺเป็นคำพูดเดียวที่เป็นทั้งวาญิบและมุสตะฮับที่ต้องกล่าวในนมาซ

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺถือเป็นระหัสยะของมุสลิมทุกคนที่ต้องกล่าว (อะซาน)

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺเป็นคำกล่าว ( ذكر ) ที่กล่าวมากที่สุดในนมาซ โดยกล่าวตั้งแต่เริ่มนมาซ กล่าวในนมาซ และกล่าวซิกรฺหลังนมาซ ซึ่งเมื่อนับจำนวนดูแล้วจะพบว่า มุสลิมคนหนึ่งเขาต้องกล่าวอัลลอฮุอักบัรฺ (الله اكبر) เฉพาะในนมาซที่เป็นวาญิบประจำวัน ประมาณ ๓๖๐ ครั้งด้วยกัน กล่าวคือ

๑. อะซานสำหรับนมาซ ๕ เวลา แต่ละอะซานต้องกล่าวตักบีร ๖ ครั้งด้วยกัน (๖*๕) = ๓๐

๒.อิกอมะฮฺสำหรับนมาซ ๕ เวลา แต่ละอิกอมะฮฺต้องกล่าวตักบีรฺ ๔ ครั้ง (๔*๕)= ๒๐

๓. ก่อนทำตักบีรอตุ้ลอิหฺรอมทุกนมาซ เป็นมุสตะฮับให้ยกมือตักบีรฺ ๖ ครั้ง (๖*๕)=๓๐

๔.ตักบีรอตุ้ลอิหฺรอมทุกนมาซ ๕ ครั้ง ๕

๕.ก่อนทำรุกูอฺทุกระกะอัตของนมาซให้ทำตักบีรฺ รวมทั้งสิ้น ๑๗ ครั้ง

๖.นมาซทุกระกะอัตจะมีสองสัจญะดะฮฺ และทุก ๆ สัจญะดะฮฺให้ทำตักบีรฺ ๒ ครั้ง ก่อนและหลังสัจญะดะฮฺ (๔*๑๗)= ๖๘

๗. นมาซทุก ๆ นมาซเป็นมุสตะฮับให้อ่านกุนูต ๑ ครั้ง และก่อนกุนูตให้ทำตักบีรฺเท่ากับ ๕ ครั้ง

๘. ก่อนจบนมาซทั้งห้าเวลา ให้ทำตักบีรฺ ๓ ครั้ง (๓*๕) = ๑๕

๙. หลังนมาซทั้งห้าเวลา ให้ทำตัสบีห์ซะฮฺรอ โดยอ่านอัลลอฮุอักบัรฺ ๓๔ ครั้ง (๕×๓๔) = ๑๗๐

อนึ่ง ถ้ารวมตักบีรฺหลังกุนูต ของนมาซประจำวันอีก ๕ ครั้งจะเท่ากับ ๓๖๕ ครั้งพอดี

แต่น่าเสียดายว่า จนถึงบัดนี้ เรายังมิได้กล่าวตักบีรฺ ด้วยความจริงใจสักครั้งเดียว ถ้ามุสลิมทุกคนพร้อมใจกันกล่าวอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر )(อัลลอฮฺทรงมหาใหญ่) ด้วยความจริงใจ ด้วยอีมาน และด้วยความตั้งใจที่สมบูรณ์ วันละ ๓๖๕ ครั้งทุกวัน แล้วยังจะมีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินอิสลามอีกเล่า เป็นที่แน่นอนเสียเหลือเกินว่า อาวุธที่ร้ายแรงที่สุด คือพลังอีมานของผู้ศรัทธาและเสียงเปล่งร้องว่าอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر) และเสียงนี้เมื่อมันดังก้องพร้อมกันทั่วทุกมุมโลก อำนาจของฏอฆูตทั้งหลายจะพังพินาศลงทันที เพราะเป็นการประกาศว่า ไม่มีอำนาจอื่นใด ยิ่งใหญ่เกินกว่าอำนาจของอัลลอฮฺ (ซบ.) และไม่มีคำพูดใดเป็นสัจธรรมยิ่งไปกว่าคำว่า อัลลอฮุอกบัรฺ(الله اكبر)

ตักบีรฺในนมาซต่าง ๆ

-นมาซอีด ฟิฎรฺ และอีดกุรบานถือว่าการตักบีรฺ คือสัญลักษณ์ของนมาซ

-นมาซอายาต (เมื่อเกิดภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง) ทุก ๆ ระกะอัตจะมี ๕ รุกูอฺ และทุก ๆ รุกูอฺต้องเริ่มต้นด้วยตักบีรฺ

นมาซมัยยิต มี ๕ ตักบีรฺ เช่นกัน (*บางมัซฮับมี ๔ ตักบีรฺ)

จะกล่าวตักบีรฺอย่างไรในนมาซ

อิสลามจะเน้นย้ำถึงมารยาทของการปฏิบัติในทุกกิจการงาน แม้กระทั่งการกล่าวอัลลอฮุอักบัรฺ (الله اكبر) เช่นกันได้มีมารยาทของการกล่าวประโยคนี้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนอาทิเช่น

๑. ขณะที่กล่าวอัลลอฮุอักบัรฺในยกฝ่ามือทั้งสองเสมอที่ติ่งหู (แบบมือออก) และเมื่อฝ่ามือทั้งสองเสมอติ่งหูเสียงตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ ต้องจบพอดี

ท่านอิมามริฎอ (อ.) กล่าวว่า “การยกมือขึ้นขณะตักบีรฺมีผลต่อการสำรวมจิตใจ และการตั้งใจไปยังอัลลอฮฺ (ซบ.) (วะซาอิ้ลชีอะฮฺ เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๗๒๗)

๒. ขณะกล่าวตักบีรฺ มือที่แบออกควรให้นิ้วมือประชิดติดกันและยกขึ้นสูง

๓. ฝ่ามือต้องแบตรงกับกิบละฮฺ

ริวายะฮฺกล่าวว่า “การยกมือขึ้นสูงขณะทำการตักบีรฺ ถือเป็นเครื่องประดับของนมาซ” (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๘๔ หน้าที่ ๓๕๑)

ความหมายของตักบีรฺ

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺหมายถึง อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงประเสริฐกว่าและดีกว่ามวลสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งที่อยู่ในจินตนาการและความรู้สึก

الله اكبر อัลลอฮุอักบัรฺหมายถึง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงประเสริฐกว่าและดีกว่าทุกคำพูดที่มาอรรถธิบายคุณลักษณะและคุณสมบัติของพระองค์

ท่านอิมามศอดิก (อ.) กล่าวว่า “เมื่อท่านได้กล่าวตักบีรฺ จงรู้ไว้เถิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเล็กหมด ยกเว้นพระองค์” (สิรฺรุสเศาะลาฮฺ หน้าที่ ๗๘)

และเมื่อปากของเราได้เปล่งเสียงตักบีรฺออกมาว่าอัลลอฮุอักบัรฺالله اكبر แต่จิตใจของเรากับผูกพันอยู่กับสิ่งอื่น ถือว่าเป็นการโกหกและหลอกลวง และด้วยเหตุนี้พระองค์จึงนำเอาความหวานชื่นในการระลึกถึงพระองค์ออกไปจากเขา

ตักบีรฺกับวัฒนธรรมอิสลาม

การตักบีรฺ الله اكبر มิได้ถูกกล่าวเฉพาะเวลานมาซเท่านั้น แต่ทว่ามีมากมายหลายสถานภาพที่ต้องกล่าวตักบีรฺ ด้วยเหตุนี้จึงเห็นว่าในยุคแรกเริ่มอิสลาม บางครั้งบรรดามุสลิมได้กล่าวตักบีรฺอย่างมีความสุข และบางครั้งก็แฝงไว้ด้วยความขมขื่นสุดที่จะบรรยาย ซึ่งจะขอกล่าวถึงบางสถานการณ์ดังต่อไปนี้

๑. ในสงครามคอนดัก ขณะที่บรรดามุสลิมกำลังขุดสนามเพลาะอยู่นั้น ได้ขุดไปโดนหินขนาดใหญ่ ทำให้เครื่องมือบางอย่างแตกและหักลง ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้เดินเข้ามาและช่วยทุบหินก้อนนั้นจนแตก บรรดามุสลิมต่างพากันตักบีรฺว่าอัลลอฮุอักบัรฺ (الله اكبر) ขณะนั้นเองท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวว่า “ฉันได้มองเห็นการล่มสลายของปราสาทราชวังแห่งกรุงโรม และอิหร่าน จากประกายไฟที่กระเด็นออกมาจากก้อนหินนั้น” (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๑๙๐)

๒.ท่านอิมามอะลี (อ.) ขณะทำสงครามศิฟฟีน คราใดที่ท่านได้ฆ่าศัตรูตายท่านจะตักบีรฺเสียงดังว่า อัลลอฮุอักบัรฺ ซึ่งบรรดามุสลิมได้เฝ้านับจำนวนเสียงตักบีรฺของท่านทำให้รู้ว่าท่านได้ฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปเป็นจำนวนเท่าไร (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๓๒ หน้าที่ ๖๐)

๓. ค่ำคืนที่ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) ถูกนำตัวไปส่งที่บ้านของท่านอิมามอะลี (อ.) (ในฐานะเจ้าสาว) ได้มีมะลาอิกะฮฺ จำนวน ๗๐,๐๐๐ องค์ ลงมาและส่งเสียงตักบีรฺไปตลอดทาง” (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๔๓ หน้าที่ ๑๐๔)

๔. ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวตักบีรฺแก่ ญินาซะฮฺ ของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติอะสัดมารดาของท่านอิมามอะลี (อ.) จำนวน ๔๐ ครั้ง และกล่าวแก่ญินาซะฮฺ ของท่านฮัมซะฮฺ ผู้ซึ่งเป็นลุงสุดที่รักของท่าน จำนวน ๗๐ ครั้ง (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๓๕ หน้าที่ ๗๐ และเล่มที่ ๒๐ หน้า ๖๓)

๕. เป็นมุสตะฮับให้กล่าวตักบีรฺ ขณะขว้างเสาหินในพิธีหัจญ์

๖. การทำตัสบีห์ ท่านหญิงซะฮฺรอ นั้นมีผลบุญเท่ากับการทำนมาซมุสตะฮับ ๑,๐๐๐ ระกะอัต และในตัสบีห์นั้นให้กล่าวตักบีรฺ ๓๔ ครั้ง (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๑๕ หน้าที่ ๒๔๘)

๗.ขณะที่ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้ถือกำเนิดขึ้นมา คำแรกที่ท่านกล่าวคืออัลลอฮุอักบัรฺ (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๑๕ หน้า ๒๗๓)

๘. เมื่อกองทัพมุสลิมได้ยึดมักกะฮฺคืนจากมุชริกีนได้ ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้เดินเข้ามาในมัสญิด อัลหะรอมและได้ชี้ไปที่หินดำ (ญิจรุ้ลอัสวัด) พร้อมกับตักบีรฺว่าอัลลอฮุอักบัรฺ (الله اكبر) หลังจากนั้นบรรดามุสลิมได้ทำการตักบีรฺตาม ทำให้บรรดามุชริกีนเกิดความหวาดกลัวอย่างหนัก (ตับสีรนิมูเนะฮฺ เล่มที่ ๒๗ หน้าที่ ๔๐๗)

๙. ริวายะฮฺกล่าวว่า คราใดที่ท่านพบกับความประหลาดใจ หรือตกใจอย่างแรงจงกล่าวว่า อัลลลอฮุอักบัรฺ (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๙๒ หน้าที่ ๑๒๗)

๑๐ในสงครามอุฮุด ทหารฝ่ายศัตรูได้มาร้องตะโกนท้าทาย แบบดูถูกเหยียดหยาม ให้ฝ่ายมุสลิมส่งนักรบไปต่อสู้กับเขา ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) จึงได้ส่งท่านอิมามอะลี (อ.) ออกไปซึ่งขณะที่ท่านอิมาม (อ.) ได้ฟันศัตรู ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) กับบรรดาทหารมุสลิมได้ส่งเสียงตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر) พร้อมกัน (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๑๒๖)

๑๑. ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวกับท่านอิมามอะลี (อ.) ว่า เมื่อใดที่ท่านเห็นดวงจันทร์ของเดือนใหม่ หรือ ส่องกระจก หรือประสบกับปัญหา ให้กล่าวตักบีรฺอัลลลอฮุอักบัรฺ ( الله اكبر ) ๓ ครั้ง (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๙๒ หน้าที่ ๑๔๕)

๑๒. ท่านซัยดฺ บุตรของท่านอิมามสัจญาด (อ.) ได้ลุกขึ้นต่อต้านราชวงศ์ บนีอุมัยยะฮฺ ซึ่ง คำขวัญที่ท่านใช้คืออัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر ) (กิตาบ ซัยดฺ บินอะลี หน้าที่ ๑๘๖)

๑๓. ในสงครามบะดัร ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้รอฟังข่าวว่าเมื่อไหร่แม่ทัพของฝ่ายศัตรูนามว่า นูฟิล จะถูกสังหาร ทันทีที่ท่านได้รับข่าวว่า ท่านอิมามอะลี ได้สังหาร นูฟิล แล้ว ท่านได้ตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر )(บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๑๙ หน้าที่ ๒๘๑)

๑๔. ขณะที่ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้มาสู่ขอท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวว่า รอเดี๋ยวให้ฉันบอกฟาฏิมะฮฺ ก่อน เพื่อเธอจะได้ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้แจ้งเรื่องราวให้เธอทราบถึงเจตนารมณ์ของท่านอิมามอะลี (อ.) แต่เธอมิได้กล่าวตอบ ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) จึงกล่าวว่าอัลลอฮุอักบัร (الله اكبر) การนิ่งเงียบของเธอ คือ การตอบตกลง (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๔๓ หน้า ๙๓)

๑๕. การทำสงครามกับพวก คอวาริจญ์ เมื่อแม่ทัพของพวกเขาถูกสังหาร ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้ตักบีรฺ และลงสัจญะดะฮฺ และประชาชนทั้งหมดได้ทำการตักบีรฺตาม (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๔๑ หน้าที่ ๓๔๑)

๑๖. ได้มีพวกยะฮูดีกลุ่มหนึ่งเข้ารับอิสลามและพูดกับท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ว่า บรรดาศาสดาก่อนหน้าท่านต่างมีตัวแทนทั้งสิ้น และตัวแทนของท่านล่ะเป็นใคร ขณะนั้นอายะฮฺ วิลายะฮฺ ได้ถูกประทานลงมาว่า “อันที่จริงผู้ปกครองของพวกท่านคือ อัลลอฮฺ (ซบ.) และศาสดาของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งดำรงนมาซ และจ่ายซะกาตในขณะทำการรุกูอฺ” (มาอิดะฮฺ/ ๕๕) ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวกับพวกเขาว่า พวกท่านจงไปมัสญิดซิและพวกท่านจะได้รู้ว่าตัวแทนของฉันเป็นใคร เมื่อพวกเขาได้มาถึงมัสญิด จึงพบว่าท่านอิมามอะลี (อ.) กำลังทำรุกูอฺและได้บริจาคแหวนที่กำลังสวมใส่ให้กับขอทานคนหนึ่ง ซึ่งขอทานคนนั้นดีใจมาก ในช่วงนั้นท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر) (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๓๕ หน้าที่ ๑๘๓)

๑๗. ท่านอิมามอะลี (อ.) ขณะทำการพิพากษาเมื่อท่านรู้ตัวคนผิดท่านจะตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر ) (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มี่ ๔๐ หน้าที่ ๒๖๐)

๑๘. การกล่าวตักบีรฺ الله اكبر ขณะเข้าสู่หะรัม (สถานฝังศพ) ของบรรดาอิมามมะอฺศูม (อ.) ได้ถูกแนะนำไว้อย่างมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนอ่านซิยารัต ญามิอะฮฺ กะบีรฺ ให้กล่าวตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر )๑๐๐ ครั้ง ท่านมัรฮูม อัลลามะฮฺ มัจลิส ได้กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะต้องการมิให้พวกท่านมีความคิดเลยเถิดเกี่ยวกับอิมาม (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๙๙)

๑๙. ท่านมัยษัม ตัมมารฺ ได้ปกป้องบรรดาอหฺลุลบัยตฺ (อ.) จนเป็นเหตุทำให้ อิบนุซิยาด สั่งแขวนคอท่านและแทงด้วยหอก ในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนเป็นชะฮาดัต ท่านได้กล่าวตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر ) และเลือดได้ไหลออกมาจากปากของท่าน (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๑๒๕)

๒๐. ขณะที่ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) เสด็จมิอฺรอจญ์ ทุกชั้นฟ้าที่ผ่านไปท่านกล่าวตักบีรฺ الله اكبر (บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ ๘๖ หน้าที่ ๒๐๗)

๒๑. ขณะที่มะลาอิกะฮฺ ญิบรออีล อยู่กับท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้เดินทางเข้ามา ญิบรออีลได้กล่าวกับท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ว่า โอ้ มุฮัมมัด ฉันขอสาบานกับพระผู้อภิบาลผู้ทรงแต่งตั้งให้ท่านให้เป็นศาสดาว่า บรรดาชาวฟ้าทั้งหลายต่างรู้ว่าอะลีคนนี้ดีกว่าชาวดินเสียอีก ทุกครั้งในสงครามที่เขากล่าวตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر ) พวกเราเหล่าบรรดามาลาอิกะฮฺ ก็กล่าวพร้อมกับเขาด้วย (บิฮารุ้ลอันวารฺ เล่มที่ ๓๙ หน้าที่ ๙๘)

๒๒. ในสงครามคัยบัร เมื่อกองทัพมุสลิมได้บุกเข้าไปจนถึงใจกลางกองทัพของฝ่ายศัตรู และได้ส่งเสียงตักบีรฺอัลลอฮุอักบัรฺ( الله اكبر ) พร้อมกัน ทำให้กองทัพของยะฮูดีวิ่งหนีกันแตกกระเจิง (พียอมบะรี วะฮุกูมัต หน้าที่ ๑๔๖

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม