“อัยยามุลฟาฏิมิยะฮ์” รำลึกถึงประมุขสตรีแห่งสากลจักรวาล [ตอนที่ 2]

������บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

________________

[เนื้อหาต่อจากตอนที่ 1] ••• ถ้าเราตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้าในแบบฉบับของบรรดาอะฮ์ลุลเบต(อ.)นั้น เราก็จะพบว่า การรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ อัซซะฮ์รอ (อ.) มิได้แตกต่างกับการรำลึกถึงท่านอิมามฮูเซน(อ.)มากนัก อาจจะน้อยกว่าท่านอิมามฮูเซน(อ.) ซึ่งก็เป็นความประสงค์ของบรรดาอะฮ์ลุลเบต(อ.) ทว่าถึงจะน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้น้อยไป จนกระทั่งเห็นความแตกต่างได้

เพราะบรรดาอาอิมมะฮ์ และทุกๆอิมามนั้น เมื่อมีโอกาสที่จะทำให้มนุษย์หรือผู้ที่ศรัทธาในแนวทางแห่งอะห์ลุลเบตได้หวนรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ก็จะใช้โอกาสนั้นนำเสนอสิ่งเหล่านี้ทันที ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ยิ่งรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) มากเท่าใด ก็จะยิ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตมากเท่านั้น

ท่านอิมามหลายท่านได้กล่าวไว้ว่า เมื่อสาวกของท่านได้หายหน้าหายตาไปเป็นเวลาหลายวัน เมื่อมาพบเจอกับสาวกคนนั้นก็ได้ถามว่า:
“ทำไมเจ้าหายไปไหนมา ทำไมฉันไม่เห็นหน้าเจ้าหลายวัน”
สาวกคนนั้นก็ได้ตอบว่า.. “พอดีภรรยาของฉันได้คลอดบุตร ฉันจึงวุ่นอยู่ในบ้าน หลายวันจึงไม่ได้มารับใช้ท่าน ไม่ได้มาพบเจอกับท่าน”
เมื่อท่านอิมามได้ยินในคำตอบนั้น ก็ถามต่อว่า: “อัลลอฮ(ซบ.)ประทานบุตรหญิงหรือบุตรชายให้กับเจ้า”
สาวกคนนั้นก็บอกว่า “อัลฮัมดุลิลละฮ์ อัลลอฮ(ซบ.) ประทานบุตรีให้กับฉัน”
เมื่อถามว่า “แล้วเจ้าเรียกบุตรีของเจ้าว่าอะไร ตั้งชื่อเขาว่าอะไร”
สาวกคนนั้นบอกว่า “ฉันได้ตั้งชื่อเขาว่า ฟาฏิมะฮ์”

ทั้งนี้ มีริวายัตต่างกรรมต่างวาระ ที่ให้ความสำคัญในการรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) อาทิ บางริวายัตจากท่านอิมามญะฟัร อัศศอดิก(อ) บางริวายัตจากท่านอิมามบาเกร(อ)และท่านอิมามอื่นๆ

โดยในบางริวายัต อิมามญะฟัร(อ) กำลังจะหยิบอินทผลัมเข้าไปในปาก เมื่อสาวกของท่านบอกว่า…ฉันได้ตั้งชื่อบุตรีของฉันว่า ‘ฟาฏิมะฮ์’ อินทผลัมนั้นก็ตกจากมือของท่านอิมาม แล้วท่านก็อุทานขึ้นมาว่า… “ฟาฏิมะฮ์ ฟาฏิมะฮ์ ฟาฏิมะฮ์”

แล้วก็ท่านก็เริ่มหลั่งน้ำตา ซึ่งแน่นอน บรรดาสาวกผู้ใกล้ชิดก็จะรู้ว่า ทำไมท่านอิมามได้หลั่งน้ำตา… ทำไมอินทผลัมนั้นได้ตกลงมาจากมือของท่านอิมาม…

เมื่อหลังจากท่านอิมามร้องไห้ ท่านอิมามก็ได้สั่งเสียกับสาวกว่า…
“จงดูแลเด็กน้อยคนนี้ให้ดี จงอย่าทุบตีนาง จงอย่าพูดคำหยาบกับนาง”

เมื่อสาวกได้ถามว่า “ทำไมท่านถึงได้สั่งเสียถึงขนาดนี้?” บรรดาอาอิมมะฮ์(อ)ก็จะบอกว่า “เพราะเจ้าของชื่อนี้นั้น ได้ถูกประณาม ถูกทุบตี ถูกรังแกมามากแล้ว”

ซึ่งเรื่องราวในลักษณะนี้มีอยู่ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ของบรรดาอาอิมมะฮ์(อ) เพื่อจะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ให้มีอยู่ตลอดเวลา และเป็นเหตุผลหนึ่งที่บรรดาอาอิมมะฮ์(อ.) ให้รำลึกถึง.. กล่าวคือ

1.ความสำคัญของการรำลึกท่านอิมามฮูเซน(อ.)
2.ความสำคัญของการรำลึกท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.)

โดยเฉพาะรำลึกถึงเรื่องราวต่างๆ รำลึกถึงมูศีบัตต่างๆที่ท่านหญิง(อ.)ได้เผชิญมาในตลอดชีวิต

ดังนั้น จะต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ เพราะเนื้อหาของสตรีผู้นี้ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก เหมือนกับที่ได้บอกพวกเราไปแล้วว่า…
������“ การรู้จักท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)คือ การรู้จักศาสนา ”

ถ้าจะเข้าไปในรายละเอียด การรู้จักตรงนี้ไม่ใช่เพียงแต่รู้เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ ว่าท่านเป็นอย่างไร? ถือกำเนิดมาอย่างไร? มีวีรกรรมใดมาบ้าง?

➡️คำว่า ‘รู้จัก’ คำว่า มี ‘มะรีฟัต’ คือ การที่เรานั้นร้อยชีวิตจิตวิญญาณ อุดมการณ์ของเรา ไปในวิถีทางเดียวกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ซึ่งวิถีชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) นั้นเป็นแบบอย่างได้ ทั้งบุรุษและสตรี

วิถีชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) เป็นวิถีชีวิตที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ มีเรื่องราวที่เป็น فضیلت (ความประเสริฐ) เกินสติปัญญาของมนุษย์ ที่จะไปถึงเรื่องราวต่างๆเหล่านั้นได้

ลองพิจาณาดูว่า… สตรีผู้นี้ มีความยิ่งใหญ่ขนาดไหน ?

������ จากหลักฐานต่างๆที่มีอยู่ในตำรา ยืนยันว่า… ทั้งอัลลอฮ์(ซบ.)ทั้งรอซูลและบรรดาอะอิมมะฮ์(อ)นั้นได้พูดถึงความยิ่งใหญ่ของสตรีผู้นี้ไว้อย่างมากมาย ซึ่งแน่นอน ด้วยความประเสริฐ ด้วยความยิ่งใหญ่ทั้งหมด เราไม่สามารถสรุปลงได้แค่เพียงมัจญลิสเดียว ที่จะทำให้เรารู้จักท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ได้อย่างสมบูรณ์

อัล-กุรอานจำนวนมากได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของสตรีผู้นี้ คืนนี้จะขอยกเพียงหนึ่งตัวอย่าง หนึ่งโองการ หนึ่งอายัต ที่มวลอุมมะฮอิสลามมีทัศนะ มีมติเป็นเอกฉันท์

‘เอกฉันท์’ หมายถึง จำนวนมาก
‘เอกฉันท์’ไม่ได้แปลว่า ทุกคน แต่หมายถึง จำนวนมากของอุมมะฮ์อิสลาม ทั้งอาเล็มอุลามาอฺอาลิซุนนะฮ์/อาเล็มอุลามาอฺชีอะฮ์ มีมติเป็นเอกฉันท์ มีทัศนะเดียวกัน นั่นก็คือโองการ “อัลเกาษัร” ที่เราได้เริ่มอ่านกันในค่ำคืนนี้

ก่อนที่สตรีผู้นี้จะถือกำเนิดขึ้นมาในโลกนี้ พระองค์อัลลอฮ์(ซบ.)ได้แจ้งให้ท่านนบีมูฮัมมัด(ซล.)ทราบล่วงหน้าด้วยฉายาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งหนึ่งที่เราจะประทานให้กับเจ้า ซึ่งจะเป็นความดีที่ล้นเหลือ ความดีที่ไม่สามารถที่จะนับได้ครบ

‘อัลเกาษัร’ หมายถึง ความดีที่ไม่มีวันหมด ความดีที่ล้นเหลือและมหาศาล ความดีที่ไม่มีใครสามารถที่จะนับได้ครบ เป็นความจำเริญที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ดังนั้น เรื่องราวของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) จึงไม่มีวันสิ้นสุด เพราะก่อนที่อัลลอฮ(ซบ) จะประทานท่านหญิงนั้น พระองค์ได้บอกสถานภาพของท่านหญิงให้ท่านนบีทราบไว้ล่วงหน้าแล้ว และได้บอกกับอุมมะฮ์อิสลามว่า “إِنَّا أَعْطَيْنَاكَ الْكَوْثَرَ” เราจะประทาน “الْكَوْثَر”ให้กับเจ้า เจ้าไม่ต้องโศกเศร้า ไม่ต้องเสียใจในสิ่งต่างๆ ไม่ต้องโศกเศร้าที่เจ้าไม่มีบุตรชายหรือมีมาแล้ว ซึ่งอัลลอฮ(ซบ.)ทรงเอากลับคืนไปทั้งหมด

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ อัลลอฮ(ซบ.)ไม่ต้องการให้คนหนึ่งคนใดในโลก มีสิทธิประกาศว่า
‘ ฉันคือบุตรแห่งมูฮัมหมัด ‘ นอกจากท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)
เสมือนกับพระองค์ต้องการจะบอกกับท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ)ว่า…
‘..เจ้าได้สิ่งนี้ไปแล้วนั้น เหมือนกับเจ้าได้ทุกสิ่งทุกอย่าง..’

▪️อัลลอฮ์(ซบ.)ได้ปฐมบทการประกาศความดีของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ด้วย “อัลเกาษัร”

หลังจากนั้นความเป็น “อัลเกาษัร”ของท่านหญิงก็ถูกนับใน พระมหาคัมภีร์อัลกรุอานจำนวนมากว่าทำไมนางจึงถูกเรียกว่า “อัลเกาษัร”ในทัศนะของอัลลอฮ(ซบ.)

ดังนั้นอัลกรุอานจำนวนมาก จึงได้ถูกประทานลงมาใน ( شأن )

‘ชะนฺ’ของนาง ก็คือในสถานภาพของท่านหญิง ซึ่งบรรดาอาอิมมะฮ(อ)เป็นผู้ยืนยันสิ่งนี้

**หมายเหตุ ( شأن ) = สาเหตุการประทานลงมาของแต่ละโองการ**

▪️อีกหนึ่งตัวอย่าง

‎ “ولله الأسماء الحسنى فادعوه بها”

และสำหรับอัลลอฮ์(ซบ.)นั้นมีพระนามที่สวยงามต่างๆ จงเรียกร้อง… จงขอ… จงเรียกหาพระองค์ ด้วยพระนามต่างๆเหล่านั้น

เมื่อสาวกผู้ใกล้ชิด สาวกชั้นใน ได้ถามกับบรรดาอะอิมมะฮ์(อ)ว่า จริงๆแล้ว “الأسماء الحسنى”ที่อัลลอฮ(ซบ.)ให้เราเรียกหาพระองค์ด้วยพระนามต่างๆเหล่านั้น มันคือพระนามอะไรกันแน่??

แน่นอนในภาพรวม ในบางริวายัต บรรดาอาอิมมะฮ์ ก็จะบอกว่า… “ (الأسماء الحسنى) คือ เราบรรดาอะฮ์ลุลเบต(อ)”
อะฮ์ลุลเบต คือ พระนามอันสวยงามของอัลลอฮ(ซบ.) และในบางวาระ เมื่อสาวกชั้นในที่ใกล้ชิดเข้าไปอีก บรรดาอาอิมมะฮ์ ก็จะอธิบายโองการ ณ ที่สูงสุดของ “الأسماء الحسنى”ของอัลลอฮ(ซบ.) ว่าคือ ‘ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)’ •••

[โปรดติดตามต่อนต่อไป]