ประสูติบุตรแห่งกะอฺบะฮ์ ตอนที่ 3

ประสูติบุตรแห่งกะอฺบะฮ์ ตอนที่ 3

 

������บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี เนื่องในค่ำคืนที่ 13 รอญับ ฮ.ศ. 1443 วันคล้ายวันประสูติท่านอมีรุลมุอฺมีนีน อิมามอะลี อิบนิอบีฏอลิบ(อ)
_______
[เนื้อหาต่อจากตอนที่แล้ว]

••• อนึ่ง เราจะมาตามรอยฮาดิษ บางฮาดิษ สัก 5-6 ฮาดิษ ที่พูดถึงความประเสริฐของอิมามอะลี(อ)ในค่ำคืนนี้

เริ่มที่ฮาดิษบทที่ 1 ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) กล่าวว่า...

เบื้องต้น ให้เราเก็บเอาไว้นะ เรื่องที่ท่านอิมามอะลี(อ) เกิดในใจกลางกะอฺบะฮ์ เรื่องที่อัลลอฮ์ (ซ.บ) ไม่ให้นบีอีซา(อ) เกิดในมัสยิดุลอักศอ แต่อัลลอฮ์(ซ.บ) เลือกให้อิมามอะลี(อ) เกิดในมัสยิดุลฮะรอม คืออะไร? ... บ่งบอกถึงอะไร? ยิ่งใหญ่อย่างไร? สำคัญแบบไหน? กำแพงอัลกะอฺบะฮ์จึงแตกแยกออกมา ให้เด็กทารกน้อยคนนี้ ไปคลอดในนั้นถึง 4 วัน ใน 4 วัน อยู่ในนั้นกินอะไร? — ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บินตีอะซัด (ซ) เล่าหมดทุกอย่าง แต่เราจะข้ามไปก่อน

❇️ [กลับมาที่] ฮาดิษบทที่ 1: ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) กล่าวว่า:

‎لَوْلا أَنْ تَقُولَ فیک طَوائِفُ مِنْ أُمتی ما قالَتِ النصاری فی عیسَی بْنِ مَرْیمَ، لَقُلْتُ فیک قَوْلاً لاتَمُر بِمَلَأٍ مِنَ الناسِ إِلا أَخَذُوا الترابَ مِنْ تَحْتِ قَدَمَیک یلْتَمِسوُنَ بِذلِک الْبَرَکةَ

ท่านนบี(ศ) พูดกับอิมามอะลี (อ) ความว่า:
— ‘โอ้อะลีเอ๋ย! ถ้าฉันมิกลัวว่า อุมมัตของฉันจะพูด [ถึงเจ้า] เหมือนกับชาวคริสเตียนทั้งหลาย ที่พูดถึงนบีอีซา (อ) รูฮุลลอฮ์.. — กล่าวคือ การที่พวกเขากล่าวว่า นบีอีซาเป็นบุตรของพระเจ้า และไม่ใช่แค่นั้น ...  ثَالِثُ ثَلَاثَةٍ  หมายความว่า เป็นหนึ่งภาค ของพระผู้มีพระภาคเจ้า —

นบี(ศ) ของเรากล่าวว่า: ถ้าฉันไม่กลัวว่า พวกมุสลิมจำนวนหนึ่งจะพูดแบบนี้แล้ว... لَقُلْتُ فیک...ฉันจะพูดให้อุมมัตของฉันฟัง...  قَوْلاً ... ซึ่งผมแปลเอง หมายถึงเรื่องหนึ่ง หรือ บางเรื่อง

‘ฉันจะบอกกับอุมมัตของฉันในบางเรื่อง โดยหลังจากที่พวกเขาได้ยินแล้ว.... لاتَمُر بِمَلَأٍ مِنَ الناسِ ...จะไม่มีมนุษยชาติคนใด ที่สามารถเดินผ่านไปได้... إِلا أَخَذُوا الترابَ مِنْ تَحْتِ قَدَمَیک یلْتَمِسوُنَ بِذلِک الْبَرَکةَ
นอกเสียจากว่า จะต้องหยิบฝุ่น ดิน ทราย จากรอยเท้าที่เจ้าเดิน ไม่ว่าเจ้าจะเดินไปไหน อุมมัตของฉันจะนำดิน หรือ รอยที่เจ้าเหยียบเอาไว้ ทำการตะบัรรุก’

������ "โอ้อะลีเอ๋ย! ถ้าฉันมิกลัวว่า ประชาชาติของฉันจะพูด[ถึงเจ้า] เหมือนกับชาวคริสเตียน ที่กล่าวกับอีซาบุตรของมัรยัม (ที่พวกเขากล่าวว่า นบีอีซาเป็นบุตรของอัลลอฮ์ ซ.บ.) ฉันจะกล่าวบางเรื่องให้อุมมัตของฉันฟัง และมนุษย์ชาติทุกๆคน จะมิสามารถเดินผ่านไปได้ นอกจาก จะต้องหยิบทราย ดิน หรือโคลนที่เจ้าเหยียบขึ้นมาตะบัรรุก”������

นบี(ศ)ใช้คำว่า  إِلا أَخَذُوا الترابَ مِنْ تَحْتِ قَدَمَیک یلْتَمِسوُنَ بِذلِک الْبَرَکةَ
— หมายถึง จะนำ ‘ดิน’ ไม่ใช่ตัวอิมามอะลี(อ) แต่เป็นดินที่อิมามอะลี(อ) เหยียบ มาตะบัรรุก

[ในบริบทนี้ ท่านซัยยิดได้ทำท่าทางประกอบเพื่ออธิบายการ ‘ตะบัรรุก’ คือ การนำสิ่งหนึ่งมาจุมพิต หรือลูบ เช่น ลูบไปยังใบหน้า ลูบบนศีรษะ หรือ ลูบไปที่ดวงตา เป็นต้น]

อันที่จริงแล้ว ฮาดิษในลักษณะนี้ มีเป็นจำนวนมาก แต่ขอนำเสนอเพียงฮาดิษเดียว ซึ่งนบี(ศ) ก็ไม่ได้พูด ไม่ได้บอกถึงเรื่องดังกล่าวนั้น ที่หากพูดแล้ว มนุษย์จะแย่งหยิบดินที่อะลี(อ)เหยียบ มาตะบัรรุก

ดังนั้น เราจะมาดูกันต่อ โดยหยิบเอาเรื่องที่นบี(ศ)พูดกันดีกว่า ซึ่งจะไม่เข้าไปในเกณฑ์ของฮาดิษบทแรก เพราะนบี(ศ)ได้พูดออกมา

อย่างไรก็ดี สรุปความในส่วนของฮาดิษบทแรกนี้ ท่านนบี(ศ)ได้บอกกับอิมามอะลี(อ)ว่า:  

’ฉันมีคำพูด ที่ฉันจะบอกกับอุมมัตของฉัน แต่ฉันกลัวว่า ถ้าบอกคำนี้แล้ว พวกเขาจะพูดถึงเจ้า เหมือนที่ชาวคริสเตียนพูดถึงนบีอีซา(อ) ที่พูดว่า »» นบีอีซา(อ) เป็นบุตรของอัลลอฮฺ (ซ.บ) นบีอีซา เป็นภาคหนึ่งของอัลลอฮฺ(ซ.บ) นบีอีซา(อ) คือ พระเจ้าในภาคพื้นดิน นบีอีซา(อ) ที่มาเดินในโลกนี้ คือ พระเจ้าองค์หนึ่งในภาคพื้นดิน *Trinity* คือ 3 in 1 ดังนั้น นบีอีซา(อ) จึงเป็นหนึ่งในสามของผู้เป็นเจ้า ««

ดังนั้น สมมติ หากท่านนบี(ศ)บอกคำๆนี้ [ที่ท่านไม่ได้บอก] อุมมัตอิสลามก็จะถือว่า อิมามอะลี(อ) คือ พระเจ้า/ บุตรของพระเจ้า [เฉกเช่น กรณีของชาวคริสต์ ที่กล่าวถึงนบีอีซา] ท่านนบี(ศ) ของเรา จึงไม่บอกคำๆนั้น นั่นเอง

ทีนี้ เราจะเดินหน้าต่ออีกสักเล็ก น้อย และมาดูสิ่งที่นบี(ศ)ได้บอกเอาไว้เกี่ยวกับอิมามอะลี(อ)

❇️ ฮะดิษบทที่ 2 ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ได้กล่าวกับศอฮาบะฮ์ท่านหนึ่งว่า:

‎لا یجوز أحدٌ الصراط إلّا من کَتَبَ له علیٌّ الجواز

ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ผ่านสะพานซิรอตในวันกิยามัตไปได้  ...
 
— ซึ่งใครจะขึ้นสวรรค์จะต้องผ่านสะพานซิรอตอลมุสตะกีม  จะนมาซก็ต้องเดินสะพานซิรอต  ไม่นมาซก็ต้องเดินผ่านสะพานซิรอต  และหากไม่นมาซ ก็จะตกใต้เบื้องล่างสะพาน คือนรก  [เป็นต้น]—

นบี(ศ) กล่าวว่า: ไม่มีใครจะถูกอนุญาตให้ผ่านซิรอตได้  ‎... إلّا من کَتَبَ له علیٌّ الجواز... เว้นแต่  คนนั้นจะได้รับพาสปอร์ตจากอะลี  (อ) — อันนี้แปลเป็นไทย   جواز คือ  ‘ใบผ่านทาง’  ในภาษาอาหรับ เรียกพาสปอร์ตว่า  جواز [หมายความว่า] ใครที่อิมามอะลี(อ) ไม่เขียนใบผ่านทางให้กับเขา  เขาก็จะไม่มีวัน ข้ามผ่านสะพานซิรอตไปได้

ในค่ำคืนนี้  ให้เรารู้เพิ่มอีกสักเล็กน้อยว่า  อะลี  อิบนิ อะบีฏอลิบ(อ) คือใคร? เพราะอะไรจึงเกิดในกะบะฮ์?

ถ้าจะตัฟซีรเพิ่มเติม คือ ใครจะไปนรก  ใครจะไปสวรรค์ต้องรับตั๋วที่อิมามอะลี(อ)   ไม่มีตั๋วของอะลี (อ)ไม่มีใครไปสวรรค์ได้

อันนี้คือฮะดิษที่นบีบอก  แต่มีอีกอันที่นบีไม่ได้บอก  ไม่กล้าบอกไม่กล้าพูด  อะไรเดี๋ยวค่อยว่ากัน•••

‎الّلهُمَّ صَلِّ عَلَی مُحَمَّدٍ وَ آلِ مُحَمَّدٍ و عَجّل فَرَجَهم

[โปรดติดตามตอนต่อไป]