ประสูติบุตรแห่งกะอฺบะฮ์ ตอนที่ 5

 

������บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี เนื่องในค่ำคืนที่ 13 รอญับ ฮ.ศ. 1443 วันคล้ายวันประสูติท่านอมีรุลมุอฺมีนีน อิมามอะลี อิบนิอบีฏอลิบ(อ)
_______
[เนื้อหาต่อจากตอนที่แล้ว]

••• ทำไมวะซีคนนี้ [ท่านอิมามอะลี อ.] จึงได้รับสิทธิพิเศษอันประเสริฐสุด?

รูฮุลลอฮ์(อ) จะมาถือกำเนิดในโลกนี้   พูดได้ตั้งแต่อยู่ในเปล  จะมาทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่  สามารถชุบชีวิตที่ตายแล้วให้ฟื้นด้วยการเป่า คนตายก็จะฟื้นขึ้นมา แล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงมุอฺญิซาดอื่นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น คนตายเหล่านั้น เป็นคนตายธรรมดาหรือไม่?? คนตายเหล่านั้นไม่ใช่คนเพิ่งตายเมื่อวาน มุอฺญิซาดของท่านนบีอีซา(อ) ไม่ใช่การชุบชีวิตคนตายเมื่อวาน  ในบางริวายัตบอกว่า  เป็นคนตายที่กระดูกเป็นผุยผงไปแล้ว  ท่านนบีอีซา(อ)ไปเป่าที่หลุมศพ ศพนั้นก็ฟื้นกลับขึ้นมามีชีวิตใหม่  

ท่านยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้ ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีสิทธิ์เกิดในมัสยิดุลอักศอ  ซึ่งมัสยิดุลอักศอ [มีความสำคัญ] อยู่ในเกรด  3  ลำดับเหรียญทองแดง หากจะให้เหรียญ  แต่อะลี(อ)กลับต้องไปเกิดในมัสยิดุลฮารอม  ไม่ต้องไปจินตนาการ  อนึ่ง ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้บอก [กับอิมาม อะลี อ.] ว่า

ما عرفک حق معرفتک غیر الله و غیری
‘ไม่มีใครที่จะรู้จักเจ้าได้  นอกจากฉันและอัลลอฮ์(ซบ) เท่านั้น ‘

ไม่ต้องคิดให้มาก  แต่เราจงมีความภูมิใจว่า เรายอมรับ  และเรามีความรักกับมหาบุรุษท่านนี้

อะไรคือความยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮ์(ซบ) มอบให้กับบุรุษผู้นี้?

ฮะดิษบทหนึ่งจากท่านอิมามอะลี(อ)  และจากท่านนบี(ศ็อลฯ)ผสมกัน  ฮะดิษบทนี้ท่านนบี(ศ็อลฯ)พูดกับท่านอิมามอะลี(อ) โดยตรง  

‘ยาอะลี  โอ้อะลีเอ๋ย ...’ — ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นคำตอบว่า หนึ่งเหตุผลที่เป็นความยิ่งใหญ่  เหตุผลที่อัลลอฮ์(ซบ) ให้เกียรติอย่างที่สุดกับท่านอิมามอะลี  อิบนิ  อบีฏอลิบ(อ)  — ท่านนบี(ศ็อลฯ) กล่าวว่า:

 یا علیّ، ستقاتل بعدی القاسطین و المارقین و الناکثین
ยาอะลี  เจ้าจะต้องทำสงคราม  เจ้าจะต้องต่อสู้  เจ้าจะต้องทำศึกหลังจากฉัน กับ  3  พวก  
1. พวกนากิซีน
2. พวกกอซิฏีน
3. พวกมาริกีน

ฮะดิษที่  2 รายงานในลักษณะเดียวกัน แต่อิมามอะลี(อ) เป็นผู้พูดในสงครามนะระวอน  รายงานจากซอฮาบะฮ์คนหนึ่ง

นะระวอน  คือชื่อลำธารแม่น้ำ  พวกคอวาริจตั้งกระโจมอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ  แม่น้ำนะระวอนในอิรัก  หลังจากก่อกวน ปั่นป่วนเป็นเรื่องราวอะไรมากมาย  ต่อต้านการปกครองของอิมามอะลี (อ) อิมามอะลี(อ) ก็ปล่อยพวกเขา  อิมามอะลี(อ)ก็เป็นนักประชาธิปไตยเหมือนกัน  

บางทีอิมามอะลี(อ) กำลังอ่านคุตบะฮ์ในมัสยิดกูฟะฮ์  มันลุกขึ้นยืนกลางวงเลย —
لا حکم الا بالله !
ตะโกนขึ้นมากลางวงเลย  เหมือนกับพวก3กีบสมัยนี้ไม่มีผิด นึกอยากตะโกนอะไร ก็ตะโกนออกมา ไม่สนใจใครเลย  นับวัน ก็ยิ่งกละขละ  นับวันก็ยิ่งสกปรกมากขึ้น  ท่านอิมามอะลี(อ) จะตัดคอยังได้เลย  มันตะโกนว่า  ‘ไม่มีการปกครองใด นอกจากการปกครองของอัลลอฮ์ (อ)’ — อิมามอะลี(อ) ก็ตอบแบบนักประชาธิปไตย...

کلمة الحق و یراد بها الباطل
‘ใช่  ปกครองแบบนั้นถูก  เป็นคำพูดที่เป็นสัจธรรม  แต่เจ้าพูดด้วยเจตนาที่เป็นโมฆะ  เจตนารมย์ของการพูดนั้นมันบาฏิล ‘ — บาฏิลตรงไหน?  

ท่านกำลังจะบอกว่า การปกครอง  ณ  อัลลอฮ์(ซ.บ)  แสดงว่าโลกนี้ไม่มีตัวแทนของอัลลอฮ์(ซ.บ) อยู่กระนั้นหรือ?  [หามิได้] — ‘ทว่า มี  ฉันนี่ คือตัวแทนของอัลลอฮ์ (ซ.บ)’

การบอกว่า ไม่มีการปกครองใดนอกจากอัลลออฮ์ (ซ.บ) กาลีมะฮ์นี้ คือบาฏิล  อิมามอะลี(อ) ตอบเพียงเท่านี้ ก็ฮึกเหิมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันได้ใช้ทุกวิถีทาง [เพื่อต่อต้าน]  และเลยเถิด  โดยใครที่ผ่านเข้ามาในเมืองกูฟะห์  พวกนี้จะตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ตรงฝั่งหนึ่งของแม่น้ำนะระวอน  และจับสังหาร ใครก็ตามที่ชอบอิมามอะลี (อ) และข่าวก็มาถึงอิมามอะลี(อ)

จนกระทั่งวันหนึ่ง  มีพวกหนึ่งมา  มีสามี  ภรรยา และลูกน้อยอยู่ในครรภ์  มันจับได้ และถามว่า ‘เจ้าเป็นพวกของอะลีหรือไม่ ‘ — สามีภรรยาคู่นั้นก็ตอบว่า ‘แน่นอน เราเป็นชีอะฮ์ของอะลี  อิบนิ  อะบีฏอลิบ (อ) มันจึงได้สังหารสามี และมันสังหารแม่  และได้ผ่าท้อง เอาเด็กมาฆ่าด้วย  หมายความว่า เด็กคนใด ที่จะเกิดมา และเป็นชีอะฮ์ของอะลี(อ) จะต้องไม่เกิดมาดูโลก  ข่าวนี้ไปถึงท่านอิมามอะลี(อ) ว่า พวกคอวาริจเหิมเกริมถึงขนาดนี้แล้ว  อิมามอะลี(อ) จึงขึ้นบนหลังม้า...

อิตมอมมุลฮุญัต  กล่าวคือ จบแล้ว  ข้อพิสูจน์ต่างๆนั้นสมบูรณ์แล้ว  จำนวนมันในวันนั้น ผมจำตัวเลขได้ไม่แม่น  แต่รู้ว่าเป็นจำนวนหมื่น  ไม่รู้ว่ามากเป็น2หมื่น  แต่จำนวนหมื่นแน่นอน  ท่านอิมามอะลี(อ) ขึ้นบนหลังม้า พร้อมกับกองทัพเข้าไปฆ่าทั้งหมด
เมื่ออะลี(อ) ขึ้นบนหลังม้า  เมื่อดาบซุลฟิกอร์ดถูกชักออก ได้สังหารทั้งหมด  เหลือไว้เพียงประมาณ  7-9 คนเท่านั้นเอง  อิมามอะลี(อ) กวาดเกลี้ยงเลย  จึงกลายเป็นสงครามนะระวอน  จากชื่อแม่น้ำ  ซึ่งในสงครามนั้น ซอฮาบะฮ์รายงาน  อิมามอะลี(อ) กล่าวว่า:

أمرني رسول اللّه صلى اللّه عليه و آله بقتال الناكثين طلحة و الزبير ، و القاسطين معاوية و، أهل الشام و المارقين و هم أهل النهروان

แท้จริงรอซูลรุลลอฮ์ได้สั่งฉัน ว่า  — ‘หลังจากฉัน เจ้าจะได้ทำสงครามกับบุคคล  3 จำพวก  3 จำพวกนี้ คือบุคคลที่อ้างตัวเป็นมุสลิม’

ก่อนหน้าท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)  ทุกศาสดาที่นำศาสนามาเผยแพร่  นำคัมภีร์ของอัลลอฮ์(ซ.บ) มาเผยแพร่  นำสัจธรรมมาเผยแพร่  หลังจากการเผยแพร่ของศาสดานั้น  ทุกศาสนา ทุกคำสั่งสอนจะถูกบิดเบือนจนหาสัจธรรมไม่ได้ในศาสนานั้นๆ  เช่น กรณีของท่านนบีมูซา (อ) แค่นบีมูซา(อ) ขึ้นไปบนเขาซีนายเป็นเวลา  40  วัน  บนีอิสรออีลที่เคยกราบไหว้อัลลอฮ์(อ) ก็ไหว้ลูกวัวแล้ว  นี่คือความหมาย  แต่คำสั่งสอน คัมภีร์ และสัจธรรมที่ท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ) นำมานั้น ยังอยู่คงเดิม  ยังบริสุทธิ์เหมือนเดิม  

ภาษาอาหรับเรียก ‘ซะอฺมัต’ — ความเสียสละ — การต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยของท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ) ไม่ได้สูญเปล่า สัจธรรมอันบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ยังอยู่เหมือนเดิม  เพราะมีผู้ปกปักษ์พิทักษ์สัจธรรมอันบริสุทธิ์นี้อยู่  นั่นก็คืออะลี  อิบนิ  อะบีฏอลิบ(อ)

3  พวกที่จะทำลายคำสั่งสอนของศาสนา  เราเรียกว่า ศัตรูจากภายในศาสนาของอัลลอฮ์(ซ.บ)   นาซิกี น กอซิฏี น มาริกีน  เรามาทำความรู้จักพวกเขากันสักเล็กน้อย•••

[โปรดติดตามตอนต่อไป]

الّلهُمَّ صَلِّ عَلَی مُحَمَّدٍ وَ آلِ مُحَمَّدٍ و عَجّل فَرَجَهم