การปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี จะไม่บังเกิดขึ้น ตราบใดที่บุคลากรของท่านยังไม่พร้อม

ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) มีฉายานามที่สำคัญด้วยกัน 2 ฉายานาม  หนึ่งในฉายานามของท่าน คือ "อัลมุนตะซัร" (ผู้ถูกรอคอย) ที่ท่านอิมามะฮ์ดี (อ) ถูกเรียกว่า "ผู้ถูกรอคอย" เพราะมวลมนุษยชาติรอคอยการมาปรากฏกายของท่าน ในขณะเดียวกันท่านก็เป็น "อัลมุนตะซีร" (ผู้รอคอย) ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) เป็นผู้ที่รอคอยให้บุคคลากรของท่านพร้อมต่อการปรากฏกายของท่าน ประหนึ่งว่าถ้าบุคคลากรของท่านไม่พร้อม ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ก็ไม่มาปรากฏกาย มวลมนุษยชาติรอคอยท่านมาปรากฏกาย ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ก็รอบุคคลากรของท่านที่พร้อมต่อการปรากฏกายของท่าน ต่างคนต่างรอกันอยู่อย่างนี้ เพราะสถานะแห่งการรอคอย และการถูกรอคอยต่างก็รอคอยความพร้อมของกันและกัน  แต่เราจะต้องพึงตระหนักว่าท่านอิมามพร้อมอย่างแท้จริงอยู่แล้ว เพียงแต่มวลมนุษยชาติพร้อมแล้วหรือยัง? มนุษย์ทุกคนจึงต้องพึงสำนึกไว้จงดีว่า จงรักษาเกียรติและเตรียมตัวให้มีความพร้อมตามเงื่อนไขและองค์ประกอบในการรอคอยท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) อยู่เสมอ 
ดังนั้น สัญญาอันนี้จะเกิดขึ้นเมื่อบุคลากรโดยตรงของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผนวกกับมนุษยชาติจำนวนหนึ่งทั้งระดับแม่ทัพนายกองที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตามรายงานที่ว่า "เมื่อบุคลากรแห่งมนุษยชาติมีองค์ประกอบตามเงื่อนไขที่กำหนดครบ 313 คน ซึ่ง 50 คนในจำนวนนั้นเป็นสตรี การปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ) ก็จะบังเกิดขึ้น 
ฉนั้นเหตุผลหนึ่งที่ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)ยังไม่มาปรากฏกาย คือ บุคลากรของท่านยังไม่พร้อมต่างหาก
สุนทรวลี ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี