ประสูติอิมามมะฮ์ดี(อ.) มหาบุรุษ ผู้ปลดปล่อย ที่ทุกศาสนารอคอย [ตอนที่ 1]

ธารธรรม เนื่องในวันคล้ายวันประสูติท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้มาโปรดโลกที่ถูกสัญญา ขอแสดงความยินดียังบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ.) และมนุษยชาติผู้ถวิลหาความยุติธรรมทุกคน

บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี มัจลิสค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน 1443 [17 มีนาคม 2565]
______________________
••• อัลฮัมดูลิลลาฮฺ ก่อนอื่นขอชุโกรในเนียะมัต และเตาฟิกทั้งหมด ที่เอกองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้ประทานให้กับพวกเราทุกๆคน และโดยเฉพาะเนียะมัตที่ได้มีชีวิต จนถึงในค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ค่ำคืนนี้
ในอิสลาม มีค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ 2 ค่ำคืน ซึ่งทั้งสองค่ำคืนนี้ ในริวายัต ตามสายรายงาน ก็ชี้ว่า อันที่จริงแล้ว อยู่ในสถานภาพเดียวกัน
ค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอิสลาม คือ ค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺ ซึ่งท่านอิมามญะอฺฟัร อัศศอดิก (อ) ได้กล่าวไว้ว่า:
‘ลัยละตุลก็อดรฺ แห่งเดือนรอมฎอนนั้น เอกองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ประทานให้เป็นของขวัญแก่ท่านนบีมูฮำหมัด(ศ็อลฯ)’
โดยเราก็ได้รับประโยชน์จากของขวัญที่อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้ประทานให้กับท่านนบีของเรา(ศ็อลฯ) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล
ถัดมา ในส่วนของค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ค่ำคืนที่ 2 ท่านอิมามญะอฺฟัร อัศศอดิก (อ.) ได้บอกว่า
‘และของขวัญ ที่เป็นลัยละตุลก็อดรฺ สำหรับเรา อะฮฺลุลบัยตฺนั้น คือ ค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน’
กล่าวคือ นิสฟูชะอฺบาน ก็เป็นค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺจริงๆ แต่เป็นค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺ ที่เป็นของขวัญ ที่อัลลอฮฺ (ซ.บ) มอบให้แก่บรรดาอะฮ์ลุลบัยตฺ(อ.)
ขณะที่เราก็ได้ใช้ประโยชน์จากค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺ แห่งนิสฟูชะอฺบานเช่นเดียวกัน
อนึ่ง มีตำรับตำราเขียนไว้อย่างมากมายว่า ค่ำคืนนี้ มีผลบุญอย่างมากมาย มีความประเสริฐ ความยิ่งใหญ่ เหมือนกับค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺในเดือนรอมฎอน
ดังนั้น ในค่ำคืนนี้ และในวันพรุ่งนี้ จึงมีอามั้ลต่างๆ มากมาย ซึ่งหากใครต้องการจะเลือกปฏิบัติอามั้ลใด ก็สามารถไปดูได้ในหนังสือ…
[หลังจากการบรรยายส่วนนี้ ท่านฮุจญฺตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ได้แนะนำอามั้ล 3 ประการ ที่มีผลบุญเป็นอย่างมาก และท่านมีความเห็นว่า ทุกคนสามารถกระทำได้ ทั้งนี้ ทางทีมงานเว็ปไซต์ syedsulaiman. com จะขอนำเสนออามั้ลดังกล่าว ในรูปแบบของการสรุปในเบื้องต้น และจะนำเกร็ดความรู้อย่างสมบูรณ์ตามที่ท่านอธิบาย มานำเสนออีกครั้งในโอกาสหน้า อินชาอัลลอฮ์ อามั้ลทั้ง 3 ได้แก่
1. การอ่านซอลาวาตชะฮฺบานียะฮ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ท่านอิมามมะฮฺดี (อ.) และแสดงความยินดีแก่บรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ
2. การซิยารัตท่านอิมามฮูเซน (อ.) ด้วยหัวใจบริสุทธิ์
3. การอ่านซูเราะฮ์ยาซีน 3 จบ เพื่อเพิ่มพูนริสกี เพื่อให้มีอายุยืนนาน และเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ตามคำแนะนำของเอาลิยา อะรีฟแห่งยุคสมัย ท่านอยาตุลลอฮ์เคชมีรี ]
_______________
ความยิ่งใหญ่ของค่ำคืนนี้ เทียบเท่ากับค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺ
ลัยละตุลก็อดรฺ เป็นคืนแห่งการลงมาของอัลกุรอาน ขณะที่บุคคล ซึ่งถือกำเนิดในค่ำคืนนี้นั้น เป็นผู้ที่ทำให้อัลกุรอานกลับมามีชีวิตชีวา อย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง
วันนี้ คำสั่งอย่างมากมากในอัลกุรอานนั้น ถูกทอดทิ้งต่อหน้าต่อตามุสลิมเป็นจำนวนมาก
วันนี้ ถ้าเราติดตามสถานการณ์ เราจะเห็นว่า มีการกระทำหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เกิดขึ้น โดยปราศจากการสนใจใยดีต่ออัลกุรอานเลย และไม่แคร์ต่อสายตามุสลิม
แต่ทว่า การกลับมาของมหาบุรุษผู้นี้ จะเป็นการนำอัลกุรอานมาปกครองโลกทุกประการ
หากพี่น้องพิจารณาแล้วจะเห็น ยกตัวอย่าง เช่น อัลกุรอานห้ามการทำซินา แต่วันนี้ ซินาเต็มโลก ไม่ใช่แค่เต็มบ้านเต็มเมือง แต่เต็มโลก
อัลกุรอานห้ามการดื่มเหล้า แต่ปัจจุบันนี้ มนุษย์โลกเกือบจะดื่มเหล้าแทนน้ำ
นี่คือ ความหมายของสิ่งที่กำลังกล่าวถึง ซึ่งเราจะยกเป็นตัวอย่างพอสังเขป
อัลกุรอานห้ามนำยะฮูดี และนัศรอนีมาเป็นพวกพ้อง แต่วันนี้ พวกมุสลิมเอง พวกอุลามาเอง กำลังหาหลักฐานมาสนับสนุนการเป็นมิตรกับยาฮูดี และนัศรอนี
นี่คือหนึ่งเหตุผลว่า ทำไมค่ำคืนนี้จึงเป็นค่ำคืนลัยละติลก็อดรฺ
กล่าวคือ ผู้ที่จะกลับมาคืนชีวิตให้กับอัลกุรอาน —โดยอัลกุรอาน ไม่ได้มีเพียงเรื่องแค่นี้ที่ยังไม่ได้ถูกปฏิบัติ
— “มหาบุรุษผู้ถูกรอคอย” จะกลับมาพร้อมกับคำสั่ง และการปฏิบัติที่สมบูรณ์ จะมอบชีวิตให้แก่อัลกุรอานอีกครั้งหนึ่ง
นี่คือหนึ่งในเหตุผล หนึ่งในความยิ่งใหญ่ของค่ำคืนนี้ ของวันนี้ๆ ของเรื่องราวที่เกี่ยวกับผู้ที่ถือกำเนิดมาในค่ำคืนนี้
������เรื่องราวของมหาบุรุษผู้นี้ ยิ่งใหญ่สักขนาดไหน? พี่น้องทราบไหมว่า ยิ่งใหญ่สักเพียงใด?
….ไม่มีนบีองค์ใด ที่ลงมาในโลกนี้ และไม่ได้พบ ความคิด แนวทาง คำสั่งสอน หรือมาพูดถึงมหาบุรุษผู้นี้..
ทุกนบี ทั้ง 124,000 องค์ ที่ถูกส่งลงมา สำหรับทุกคนนั้น อัลลอฮ์ (ซ.บ) ตรัสว่า ‘ต้องแจ้งประชาชาติ ต้องบอกข่าวดีแก่ประชาชาติว่า..
วันหนึ่ง จะมีมหาบุรุษคนหนึ่งมาปรากฏในโลกนี้
เพื่อมาเติมเต็ม “ความยุติธรรม” หรือ มาเติมเต็ม สันติภาพ ความสุข ความสงบ ตามแต่ละภาษาจะใช้นิยาม
กล่าวคือ ทุกๆศาสดาจะต้องมาบอกข่าวนี้
ดังนั้น เรื่องราวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จึงถูกพูดมาตั้งแต่สมัยนบีอาดัม(อ.) จนถึงท่านนบีมูฮำหมัด(ศ็อลฯ)
ถึงกระนั้น สำหรับการแจ้งข่าวดีนี้ โดยผ่านทุกศาสดา เพียงพอหรือไม่?
[ตอบ] — ไม่เพียงพอ ยังรวมถึงทุกคัมภีร์ด้วย ผมไม่ทราบว่า อันที่จริงแล้ว คัมภีร์มีทั้งหมดกี่เล่ม เพียงแต่ชัดเจนว่า ทุกคัมภีร์ที่ถูกประทานลงมาในโลกนี้ พูดถึงการปรากฏตัวของมหาบุรุษผู้นี้
…ทุกศาสดา ทุกคัมภีร์ ทุกศาสนา ทุกชนชาติ!!!..
บางครั้ง เราอาจจะหาหลักฐานได้ไม่เพียงพอ แต่ยืนยันว่า ทุกชนชาติพูดถึงอิมามมะฮ์ดี(อ.)
ไม่มีศาสดาองค์ใด ที่จะไม่บอกการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ซึ่งอันนี้ เรามีฮาดิษของเรายืนยัน ทุกคนต้องพูดถึงอย่างแน่นอนว่า
วันหนึ่ง โลกนี้จะต้องถูกเติมเต็มด้วยความยุติธรรม
วันหนึ่ง เราจะอยู่โลกนี้อย่างมีความผาสุก
วันหนึ่ง โลกนี้จะไม่มีการกดขี่
วันหนึ่ง มนุษย์จะไม่เบียดเบียนกัน
วันหนึ่ง อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้แต่สัตว์ก็จะไม่เบียดเบียนกัน
ผมมีหลักฐาน ถึงขั้นที่บอกว่า แม้แต่สิงห์สาราสัตว์ จำพวกที่กินเนื้อสัตว์ ก็จะเป็นมังสวิรัตน์ กล่าวคือ เป็นวันที่เสือกินหญ้า อันเป็นการบรรยายให้เห็นถึงความสงบสุขในวันนั้น
ตรงนี้ ที่บอกว่าทุกๆศาสดา ได้บอกเรื่องราวของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ.) เอาไว้ ตามขอบเขตของสติปัญญา หรือ ความเข้าใจได้ของคนในยุคนั้น
ดังนั้น เมื่อบอกว่า ทุกศาสดา พูดถึงเรื่องอิมามมะฮ์ดี (อ.) หมด
— นี่คือประการแรก
โดยมีประโยคต่อมา คือ ‘และทุกๆประชาชาติ อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้ส่งศาสดาไปแล้ว’ ยืนยันในซูเราะฮฺ อัลนะฮ์ลฺ
โองการที่ 36
‎وَلَقَدْ بَعَثْنَا فِي كُلِّ أُمَّةٍ رَّسُولًا
“และโดยแน่นอน เราได้ส่ง/ ได้เบียะษะฮ์ รอซูล ไปยังทุกๆประชาชาติ” – เป็นการยืนยันในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า ทุกๆประชาชาติ ได้รับศาสดา
หมายความว่าอย่างไร? เมื่อในฮาดิษบอกว่า ทุกๆนบี พูดเรื่องอิมามมะฮ์ดี [และอัลกุรอานตรัสว่า อัลลอฮ์(ซ.บ) ทรงส่งศาสดาไปยังทุกๆประชาชาติ]
บทสรุป คือ ทุกประชาชาติ รู้เรื่องราวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ! นั่นเอง•••
[โปรดติดตามตอนต่อไป อินชาอัลลอฮ์]
‎اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم