ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ) ตอนที่ 4

ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ) ตอนที่ 4

 

#คำถาม #สาเหตุหลักที่บอกว่าอิมามมะฮ์ดียังไม่ออกมาคือ  #เพราะอิมามมะฮ์ดีกลัวว่า #ตัวเองจะถูกสังหาร
#ทำไมเป็นผู้นำจึงต้องกลัวถูกฆ่า #ทำไมจึงไม่มีความกล้าหาญ

#คำตอบ

การที่อิมามมะฮ์ดี กลัวว่าตัวเองจะถูกสังหาร นั่นเป็นเพราะ
อิมามมะฮ์ดีคือ ผู้ถือสาส์นคนสุดท้ายของอัลลอฮ์  
คือผู้พิทักษ์สาส์นของอัลลอฮ์ อันพิสุทธิ์
และคืออิม่ามคนสุดท้ายด้วย

#ขอให้เราย้อนกลับไปดูชีวประวัตินบีมูซา  นบีมูซาได้หลบหนีไปจากบะนีอิสรออีล ซึ่งเป็นประชาชาติและพวกพ้องของท่านเป็นเวลาหลายสิบปี ถามว่าเรื่องนี้มีจริงไหม

คำตอบคื่อเรื่องจริง และการหนีเอาตัวรอดนี้คือซุนนะหนึ่งที่อิมามมะฮ์ดีดำเนินตามนบีมูซา(อ) ดังที่กุรอ่านกล่าวว่า

فَأَصْبَحَ فِي الْمَدِينَةِ خَائِفًا يَتَرَقَّبُ

เมื่อเข้ามาอยู่ในเมือง เขา(มูซา)กลัวว่าจะเกิดภัยแก่เขา  บทที่ 28 : 18
และ
فَخَرَجَ مِنْهَا خَائِفًا يَتَرَقَّبُ قَالَ رَبِّ نَجِّنِي مِنَ الْقَوْمِ الظَّالِمِينَ

ดังนั้น เขา(มูซา)จึงออกจากเมืองนั้นในสภาพหวาดกลัวว่าจะเกิดภัย เขากล่าวว่า “ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากหมู่ผู้อธรรมด้วยเถิด

บทที่ 28 : 21  

#ถามว่า  #จะมีมุสลิมคนใดกล้าตำหนินบีมูซา ที่ท่านหวาดกลัวการถูกฆ่าและท่านได้หลบหนีออกไปจากอียิปต์ไหม  แน่นอนใครตำหนินบีมูซา คนนั้นคือกาเฟ็ร

#คำถาม เมื่ออิมามมะฮ์ดีกลัวตายจึงหลบซ่อนตัว ดังนั้นความกลัวตายของอิมามมะฮ์ดีจึงไม่มีวันที่เขาจะออกมาปรากฏตัวตลอดกาล

#คำตอบ แล้วนบีมูซากลัวตายไหม ท่านกลัวจึงหนีออกไปจากอียิปต์
แต่ในที่สุดนบีมูซาก็กลับมายังประชาชาติของท่านใช่ไหม
 
ดังนั้นการตำหนิอิมามมะฮ์ดีที่หลบภัยคือการตำหนินบีมูซาที่หลบหนีฟิรอูนนั่นเอง

#ถามว่า  บรรดานบี มีนบีท่านใดบ้าง ที่หลบหนีผู้คนเพราะกลัวตาย
เราลองย้อนไปดูชีวประวัตินบีมุฮัมมัด(ศ) ท่านก็หลบหนีไปอยู่ในถ้ำ

เมื่อนบีมุฮัมมัด(ศ)รู้ข่าวว่าพวกกุเรช วางแผนจะฆ่าท่านแน่นอน
ท่านจึงหลบหนีออกจากบ้านตอนกลางคืน ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำสามวัน

เมื่อนบีเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงออกเดินทางต่อไปอย่างระมัดระวัง จนมาถึงตำบลกุบาในวันที่ 2 เราะบีอุลเอาวัล ค.ศ .622

#จะมีมุสลิมคนใดกล้าพูดว่า  #นบีมุฮัมมัดขี้ขลาดตาขาวหนีตายไปหลบตัวในถ้ำ

#ทำไมท่านนบีจึงไปหลบซ่อนในถ้ำ

#คำตอบคือ #ปกป้องรักษาชีวิตของตัวเองให้พ้นจากการถูกสังหาร

#ท่านนบีหลบหนีการลอบสังหารไปอยู่ในถ้ำ คือ ซุนนะห์หนึ่งของคอตะมุนอัมบิยาอ์

#อิม่ามมะฮ์ดีหลบหนีจากการสังหารไปจากสายตาผู้คน คือ การตามซุนนะห์นบีมุฮัมมัด(ศ) นบีคนสุดท้ายของโลก

ฉะนั้นเรื่องหลบหนีซ่อนตัวของท่านนบีหรืออิม่ามไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ที่แปลกคือ มีผู้คนไม่เข้าใจชีวประวัติเอาลิยาอ์ของอัลลออ์มาตำหนิ

พวกเขาพยายามตำหนิอิม่าม ก็เหมือนพยายามตำหนินบีที่หลบหนีการตามล่าสังหารนั้นเอง

#หากท่านกล่าวว่า  การกลัวตายไม่ใช่อุปนิสัยของอะฮ์ลุลบัยต์นบี  
เพราะชีอะฮ์มักจะกล่าวถึงความกล้าหาญของอิม่ามฮูเซน(อ)
ความกล้าหาญของอิม่ามอาลี(อ)ในการสังหารแม่ทัพมัรฮับ

ฉะนั้นทำไมอิม่ามมะฮ์ดี(อ)จึงไม่ปรากฏตัว
ทำไมจึงหลบซ่อน ทำไมจึงกลัวตายล่ะเพราะนี่ไม่ใช่นิสัยของอะฮ์ลุลบัยต์(อ) ???

แน่นอนคำถามของคนเหล่านี้ มุ่งประเด็นที่จะดูหมิ่นเหยียดหยามอิม่ามมะฮ์ดี

โปรดทราบว่า #คำถามสร้างความคลุมเครือแบบนี้มิใช่พึ่งมีมาแต่มีมานมนานแล้ว  เรามาฟังคำตอบสำหรับเรื่องนี้กัน

เชคตูซีย์ ได้ให้คำตอบว่า  

إن قيل : إليس آباؤُه عليهم السلام كانوا ظاهرين ولم يخافوا ولاصاروا بحيث لايصل إليهم أحد ؟

#หากแย้งว่า บรรพบุรุษของอิม่ามมะฮ์ดี(อ)มิใช่เป็นนักต่อสู้ดอกหรือ

พวกเขาไม่เคยหวาดกลัวความตายและไม่เคยเป็น ซึ่งไม่มีใครไปถึงพวกเขาได้ด้วย ???

คำตอบ

قلنا : آباؤه عليهم السلام حالُهم بخلاف حاله ، لانه كان المعلوم من حال آبائه لسلاطين الوقت وغيرهم أنهم لايرون الخروج عليهم

สถานภาพและสถานะการณ์บรรพบุรุษของอิม่ามมะฮ์ดี(อ)นั้นแตกต่างกับอิม่ามมะฮ์ดี

เพราะเป็นรู้ดีว่า ความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษของอิม่ามมะฮ์ดีสำหรับบรรดาผู้ปกครองของยุคนั้นและยุคอิม่ามท่านอื่นๆ  บรรดาอิม่าม(อ)ไม่มีความคิดว่าจะออกมาต่อต้านพวกผู้ปกครองเหล่านั้น

ولايعتقدون أنهم يقومون بالسيف ويزيلون الدول ، بل كان المعلوم من حالهم أنهم ينتظرون مهديا لهم ، وليس يضر السلطان اعتقاد من يعتقد إمامتهم إذا أمنوهم على مملكتهم ( ولم يخافوا جانبهم

บรรดาอิม่ามไม่มีอะกีดะฮ์ว่าพวกเขาต้องลุกขึ้นจับดาบมาต่อสู้เพื่อขจัดรัฐ(ของพวกผู้ปกครอง)

ยิ่งกว่านั้นเป็นที่รู้ดีว่า  สถานะภาพของบรรดาอิม่ามนั้นคือพวกเขาก็รอคอยการมาของอัลมะฮ์ดีของพวกเขา

 

มันจึงไม่เป็นอันตรายใดต่อผู้ปกครอง ต่อความเชื่ออขงผู้ที่เชื่อศรัทธาความเป็นอิมามัตของพวกเขา
ฉะนั้นพวกผู้ปกครอง(ในยุคก่อนอิม่ามมะฮ์ดีเกิด)จึงไว้วางใจบรรดาอิม่ามในอาณาจักรของพวกเขา และไม่หวาดระแวงการที่มีบรรดาอิม่ามอยู่เคียงข้างพวกเขา

وليس كذلك صاحب الزمان عليه السلام ، لان المعلوم منه أنه يقوم بالسيف ويزيل الممالك

#แต่อิม่ามมะฮ์ดี(อ)ไม่ใช่เป็นแบบนั้น เพราะต่างรู้ดีว่า ท่านจะลุกขึ้นจับดาบ(ปฏิวัติ)และขจัดอาณาจักร(ที่อธรรมกดขี่)ต่างๆ

ويقهر كل سلطان ويبسط العدل ويميت الجور ، فمن هذه صفته يخاف جانبه  ويتقي فورته

อิม่ามมะฮ์ดีจะปราบซุลตอนทั้งหมด จะแผ่ขยายความยุติธรรม จะทำให้การกดขี่มลายตายไป ดังนั้นจากคุณลักษณะของอิม่ามมะฮ์ดี ทำให้ผู้ปกครองต้องหวาดกลัวเขาและหาทางป้องกันโดยจัดการกับเขาอย่างรุนแรงและเฉียบขาด

فيتتبع ويرصد ، ويوضع العيون عليه ، ويعني به خوفا من وثبته وريبة  من تمكنه فيخاف حينئذ ويحوج إلى التحرز والاستظهار، بأن يخفى شخصه عن كل من لايأمنه من ولي وعدو إلى وقت خروجه

#ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องเฝ้าติดตาม คอยสอดส่องและวางสายลับไว้คอยสืบหาตัวอิม่ามมะฮ์ดี  

นั่นหมายถึงอิม่ามมะฮ์ดีต้องระวังการจู่โจมของผู้ปกครองและระแวงผู้ที่อาจเป็นไปได้
ท่านจึงหวาดกลัวและจำต้องระวังระไวและต้องตระเตรียมความพร้อมโดยการหลบซ่อนตัวเองให้พ้นจากทุกคนที่ไม่ปลอดภัยสำหรับท่านไม่ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรูก็ตาม จนกว่าจะถึงเวลาที่จะปรากฏตัว(สู่ประชาชนตามพระประสงค์ของอัลลอฮ์)

กิตาบ อัลฆ็อยบะฮ์ ของเชคตูซีย์  หน้า 200