เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ศัตรูที่ร้ายกว่าชัยฏอนคือนัฟซู ตอนที่ 3

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ศัตรูที่ร้ายกว่าชัยฏอนคือนัฟซู ตอนที่ 3


ต้องตื่นรู้จากการหลับใหล...ก่อนที่จะทำสงครามกับนัฟซู

 

 أَلَا بِذِكْرِ اللَّهِ تَطْمَئِنُّ الْقُلُوبُ
” พึงทราบเถิด! ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์เท่านั้นทำให้จิตใจสงบมั่น "    

                                ซูเราะฮ์ อัร-เราะอฺด์ โองการที่ 28
 

       ดังที่เคยกล่าวไปแล้วว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดนั่นก็คือนักสู้ของเราเองอารมณ์ใฝ่ต่ำและแรงปรารถนาด้านมืดของตัวเราเอง คือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด การที่จะต่อสู้กับมันนั้นคือการทำสงครามอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นการที่ญิฮาดในหนทางของพระองค์ มีผู้คนมากมายที่ผ่านสมรภูมินี้ผู้ที่ถูกสังหารในหนทางแห่งการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ในสถานภาพของชะฮีดเช่นกัน

ผู้ที่ทำสงครามใหญ่กับนัฟซูมีอยู่ 3 จำพวก คือ
1.พวกที่พ่ายแพ้ราบคาบโดนจับเป็นเชลยของนัฟซู
 - บุคคลจำพวกนี้เป็นบุคคลที่น่าละอาย คือยอมแพ้ยอมศิโรราบให้กับศัตรู เป็นเชลยของนัฟซู

2.พวกที่ต่อสู้ได้รับชัยชนะเหนือศัตรู
 - คนในกลุ่มนี้คือสุดยอดของนักรบเพราะการต่อสู้กับตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าถึงระดับขั้นที่เอาชนะได้แสดงว่าเขาคือผู้ที่ไปถึงยังเป้าหมายที่สูงส่งในหนทางของพระองค์แล้ว

3.พวกที่เป็นส่วนใหญ่ของสังคม
 - ในบางเวลาแม้จะมีเสียงกระซิบกระซาบภายนอกจากชัยฏอนและต้องต่อสู้กับนัฟซูภายในตนเอง แพ้บ้างชนะบ้างแต่ก็สู้ไม่ถอย อดทนและไม่เคยยอมแพ้แบบศิโรราบ แบบพวกที่หนึ่ง  การตายของบุคคลในประเภทนี้อยู่ในฐานะชะฮีดเช่นกัน

      บันไดขั้นแรกในการสู้กับนัฟซูก็คือ "ยักฆ์เซาะฮ์ "
หมายถึง  การตื่นรู้  คือถ้าเรายังไม่ตื่นเราจะออกไปสู้ได้อย่างไรการตื่นในที่นี้มิใช่การตื่นจากการนอนแต่เป็นการตื่นจากการหลับใหลภายในจิตใจ ในขณะที่เราทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เรากินข้าว เราไปซื้อของ เราเดินเหินไปได้ทั่ว แต่สติของเรายังไม่ตื่น ตาของเราลืมแต่สมาธิของเรายังหลับอยู่ การที่จะต่อสู้ในสงครามนี้ต้องหูตัวเองให้ตื่นต้องรู้ก่อนว่าทำไมยังหลับไหล  บางครั้งการจะเข้าใจในสิ่งหนึ่งให้ดีขึ้นได้ต้องเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่ตรงข้ามกับมันคือ เราจะสามารถรู้จักสิ่งได้จากสิ่งตรงกันข้าม ต้องใช้สิ่งตรงกันข้ามในกับการอธิบาย "หากเราต้องการรู้จักการตื่นรู้ให้แจ่มชัด ก็ต้องรู้จักการหลับไหลให้ดี" บางคนการหลับไหลของเขาอยู่ในระดับที่ลึกมากคือไม่ต้องการหาความจริงไม่ต้องการแสวงหาสัจธรรมอะไรเลยคนประเภทนี้จะไปต่อสู้กับนัฟซูได้อย่างไร แสดงว่าชัยฏอนพาดำดิ่งไปลึกมาก บรรดาปราชญ์แห่งจิตวิญญาณระดับสูงเชื่อว่ายักฆ์เซาะฮ์(การตื่นรู้) คือความเมตตาของอัลลอฮ์(ซ.บ.) ว่าเป็นความเมตตาจากเบื้องบนเป็นสิ่งที่คงมอบให้ผู้ที่จะปลุกให้เราตื่นจากการหลับใหลถึงพระองค์

      ในบทมุนาญาตชะบานิยะห์ เป็นดุอาอ์ที่อิมาม(อ.) ทุกท่านเคยอ่านรำพัน "โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระผงไม่มีพลังหรืออยู่ที่จะออกมาจากการฝ่าฝืนและละเมิดต่อพระองค์(คือจมอยู่กับบาปทั้งมวล) นอกเสียจากว่าพระองค์จะเป็นผู้ปลุกให้ข้าพระองค์ตื่นในสภาพที่หลงรักพระองค์  ซึ่งในบทดุอาอ์นี้ได้สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า การตื่นรู้มาจากความเมตตาของพระองค์แล้วหากใครได้รับมา นั่นคือก้าวแรกที่มั่นคงในการต่อสู้กับศัตรูที่มีนามว่า"นัฟซู"

             

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม