ศัตรูที่ร้ายกว่าชัยฏอนคือนัฟซู ตอนที่ 7

ศัตรูที่ร้ายกว่าชัยฏอนคือนัฟซู ตอนที่ 7


พลังขับเคลื่อนภายในของมนุษย์

สิ่งที่นัฟซูใช้บัญชาการกองทัพทั้งเจ็ด

 

 أَلَا بِذِكْرِ اللَّهِ تَطْمَئِنُّ الْقُلُوبُ
” พึงทราบเถิด! ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์เท่านั้นทำให้จิตใจสงบมั่น "    

                                ซูเราะฮ์ อัร-เราะอฺด์ โองการที่ 28

 
         ในทุกๆสงครามจะมีผู้บัญชาการคอยสั่งการให้บรรดาเหล่าพลทหารออกไปปฏิบัติการต่อสู้กับข้าศึกในสมรภูมิเพื่อชัยชนะอยู่เสมอ ในสงครามใหญ่ที่เราต้องต่อสู้กับนัฟซูศัตรูภายในใจของเราก็เช่นเดียวกัน           ความหมายของนัฟซูในมุมกว้างคือ แรงปรารถนาความต้องการ ความอยาก ที่อยู่ในจิตใจที่พร้อมจะปะทุออกมาด้วยกับการกระทำภายนอกผ่านกองทัพทั้ง 7 ( ตา หู ปาก มือ เท้า ท้อง อวัยวะเบื้องล่าง ) สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจต่อไปอีกก็คือและนัฟซูใช้อะไรเป็นพลังขับเคลื่อนกองทัพทั้ง 7 ในการที่จะสำแดงออกมาไม่ว่าจะในด้านบวกและด้านลบ กองทัพทั้ง 7 จึงเปรียบเสมือนทหารแนวหน้าที่ผู้บัญชาการสั่งให้ออกไปรบก็ต้องไป ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้บัญชาการที่ว่าเป็นใคร ถ้าอยู่ภายใต้การชี้นำจากสติปัญญาที่ดีก็ย่อมทำในสิ่งที่ดี แต่ถ้าถูกครอบงำด้วยนัฟซูประเภทอัมมาเราะฮ์ (ที่คอยสั่งการให้ไปสู่แรงปรารถนาด้านลบ) ก็ย่อมพาไปสู่ด้านมืดของมนุษย์

     นักปราชญ์ระดับสูงในด้านอัคคลาส (จริยศาสตร์) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า มนุษย์ยังมีพลังขับเคลื่อนด้านลึกภายในอีกสามพลังที่แสดงออกมาสู่ภายนอกในรูปแบบของการกระทำที่สามารถนำไปใช้ในมุมบวกหรือลบก็ได้ มันคือพลังที่ใช้เพื่อขับเคลื่อนกองทัพทั้ง 7 ให้ออกไปปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็นการกระทำในด้านบวกหรือลบ คือ 1. วาฮิมะฮ์ - ความรู้สึกนึกคิด เช่น ความรัก ความเกลียด อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้หากเรานำไปใช้ถูกที่ถูกทางมันจะเกิดคุณประโยชน์มากมาย แต่หากเรานำไปใช้ในทางที่เลวร้าย ผลสะท้อนก็จะกลับสู่ตัวเราเอง

 2. ชะฮ์วียะฮ์ หรือ ชะฮ์วัต - ความต้องการที่ใช้ตอบสนองร่างกายของเรา เช่น การกินเรื่องเพศ  มนุษย์ที่หมกมุ่นอยู่ในเรื่องของการกินต้องหาของที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด แพงที่สุด ไกลแค่ไหนก็ต้องไป  เพื่อการโอ้อวดกลายเป็นว่าเราเป็นทาสทางด้านความอยากกิน  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เรามุ่งไปสู่เรื่องของดุนยามากเสียจนกลายเป็นอุปสรรคในการไปสู่ความใกล้ชิดยังพระองค์ ไม่ต่างจากเรื่องเพศ ตัณหาราคะ ที่ถูกใช้ไปในทุกสังคม ทุกองค์กรมีเรื่องการใช้เรื่องเพศเพื่อให้กลุ่มตนได้รับผลประโยชน์ตั้งแต่การใช้สายลับหรือนกต่อในแวดวงการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับชาติ จนถึงระดับโลก การใช้สรีระร่างกายของสตรีเพศเพื่อการโฆษณามีบุรุษมากมายที่ก้าวพลาดในชีวิตด้วยเรื่องสตรีเพศ ตั้งแต่กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตจนถึงบุรุษเพศชายทั่วไป มุมลบของความต้องการเหล่านี้สามารถพาเราดำดิ่งสู่ความมืดมนต่ำต้อยในชีวิตได้ มีมนุษย์มากมายที่ติดอยู่กับเรื่องของตัณหาราคะและส่วนใหญ่ของการละเมิดฝ่าฝืนต่อพระเจ้าก็มาจากเรื่องนี้

3. ฆอซอบียะฮ์ - ฆอฎอบ ( ความโกรธ โมโห โทสะ )
ศาสนาโดยส่วนใหญ่ได้กล่าวย้ำถึงแง่ลบของมัน  ดังที่ประโยคที่เราได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า" ซึ่งพลังแห่งโทสะความโกรธและความโมโหเหล่านี้จะพาเราออกห่างจากความสงบมั่นในใจเพราะมันพาเราออกนอกหนทางมันจะพาเราไปสู่ความเป็นสัตว์ดุร้าย ดังที่เราจะได้เห็นในภาพข่าวการทำร้ายร่างกาย การใช้อาวุธในการเข่นฆ่ากัน บางเหตุการณ์ก็มาด้วยกับโทรศัพท์ชั่ววูบเพียงชั่วขณะแต่ถึงกับต้องติดคุกติดตะรางหมดอนาคต  ในศาสนาอิสลามมีมุมมองว่า"การใช้โทสะนั้นเป็นกุญแจแห่งความชั่วร้ายทั้งมวล" มีการแนะนำให้ใช้การวูฎูอ์ในการดับโทสะในเบื้องต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังสามารถใช้โทสะในมุมบวกได้คือ การใช้อารมณ์โทสะในการปกป้องเราจากศัตรู ปกป้องดินแดน ปกป้องประเทศ และปกป้องศาสนา ในศาสนาอิสลามไม่ได้ต่อต้านพลังเหล่านี้หรือให้ควบคุมโดยดับมันทิ้งอย่างสิ้นเชิงแต่มีทางออกให้กับมันพลังเหล่านี้อยู่ด้านในของมนุษย์ย่อมต้องถูกนำมาใช้แต่ต้องใช้อย่างมีขอบเขตจำกัดและอยู่ในบทบัญญัติของพระองค์มิใช่ปล่อยให้ใช้อย่างอิสระเสรี " โทสะเหมือนหินร้อนของชัยฏอน ที่คอยสุมไฟอยู่ในหัวใจ ,  อิมามบาเกร(อ.) "

       ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงบทนำที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในของเราซึ่งสามารถทำให้เราผาสุกได้ และสามารถนำความวิบัติมาให้เราได้เช่นกัน  พลังที่ซ่อนอยู่ภายในของเรานี้สามารถทำให้กองทัพทั้ง7 ของเราเป็นทหารแห่งพระเจ้าได้และก็ยังสามารถทำให้มันเป็นกองทัพของชัยฏอนมารร้ายได้เช่นกัน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าสติปัญญาหรือนัฟซู ผู้ใดจะเป็นผู้ควบคุมศูนย์บัญชาการกองทัพภายในจิตใจของเรา .............