เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอน 17

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

วิเคราะห์เรื่องราวของอิมามมะฮ์ดี ตอน 17
3. อิทธิพลของอิมามอะลีฮาดีในสังคมของคนตระกูลอะละวีย์
บรรดาบุคคลระดับหัวหน้าของตระกูลอะละวีย์ต่างพร้อมใจกันยกย่องให้เกียรติอิมามอะลีฮาดีย์(อิม่ามที่10)และยอมรับถึงการเป็นประมุขผู้นำของตระกูล อีกทั้งยอมรับว่าอิม่ามมีความสูงส่ง ซึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นเราจะขอกล่าวเพียงสองท่าน
1. เซดบุตรอิมามมูซากาซิม เป็นผู้อาวุโสที่สุดคนหนึ่ง เสียชีวิตปีฮ.ศ. 247  มีฐานะเป็นลุงของอิมามอะลีฮาดี
ครั้งหนึ่ง อุมัร บิน อัลฟะร็อจญ์ มายืนที่ประตูบ้านอิมาม เขาใช้เวลาในการขออนุญาตต่ออิม่ามเป็นเวลานาน ทั้งนี้ก็เพราะให้เกียรติแก่ท่าน และอิมามก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องธุระของเขา แล้วอิม่ามได้อนุญาต
เมื่อเขาเข้ามาหาอิมาม ในขณะที่อิม่ามกำลังอยู่ในที่ชุมนุม ปรากฏว่า
เซด บุตรอิมามมูซากาซิม(อิม่ามที่7) ได้นั่งต่อหน้าอิม่ามอย่างให้เกียรติ ให้การยกย่องและยอมรับในตำแหน่งอิมามผู้นำ
ในวันที่สอง เซดได้รับเกียรติให้เข้าในที่ชุมนุมของอิมาม และอิมามยังไม่มา เซดก็อยู่ตรงด้านหน้าของสถานที่ชุมนุม แล้วไม่นานอิมามอะลีฮาดีได้เดินเข้ามา ครั้นเมื่อเซดเห็นอิม่าม เขาก็รีบลุกออกจากที่นั่งของตัวเอง แล้วจัดให้อิม่ามนั่งตรงที่ของเขา แล้วตัวเองก็นั่งข้างๆอย่างมีมารยาททั้งๆที่อิมามอะลีฮาดีมีอายุน้อยกว่า และเซดเองก็อาวุโสกว่า
2. อับดุลอะซีม บุตรอับดุลลอฮ์  บุตรอาลี บุตรฮาซัน บุตรเซด #บุตรอิม่ามฮาซัน เสียชีวิตปีฮ.ศ. 252  
ในหมู่ตระกูลอะละวีย์นั้นมีเชื้อสายแยกย่อยออกมาสองตระกูลคือตระกูลฮาซานีและตระกูลฮูซัยนี
ในตระกูลฮาซานี มีบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งคือซัยยิดอับดุลอะซีม อัลฮาซานี อันเป็นที่เคารพนับถือมากที่สุดของตระกูลอะละวีย์
ซัยยิดอับดุลอะซีมต้องการแสดงให้คนตระกูลอะละวีย์เข้าใจอย่างถูกต้องว่า แม้ท่านจะมีความรู้มากที่สุดในยุคนั้นแต่ผู้มีฐานะเป็นอิม่ามผู้นำแห่งยุคของท่านคือ อิม่ามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10) ด้วยเหตุนี้ซัยยิดอับดุลอะซีมจึงเข้ามาพบอิม่ามเพื่อขอให้อิม่ามชี้นำสั่งสอนถึงความเชื่อและการปฏิบัติของท่านว่าถูกต้องไหม ดังรายงานที่ถูกบันทึกไว้ดังนี้
อับดุลอะซีมบินอับดุลลอฮ์อัลฮาซานีได้เล่าว่า
ฉันได้เข้ามาพบซัยยิดของฉันคืออิม่ามอะลี บินมุฮัมมัด อัลฮาดี (อิม่ามที่10)  เมื่อเขามองเห็นฉัน เขาได้กล่าวกับฉันว่า
مَرْحَبًا بِكَ يَاأَبَا الْقَاسِمِ أَنْتَ وَلِيُّنَا حَقًّا
โอ้อบุลกอซิม ยินดีต้อนรับ ท่านคือผู้ที่มีวิลายัตต่อเราอย่างแท้จริง  
อับดุลอะซีมเล่าว่า  ฉันได้กล่าวกับอิม่าม(อะลีฮาดี)ว่า
يَا بْنَ رَسُوْلَ اللهِ إِنِّيْ اُرِيْدُ أَن أَعْرِضَ عَلَيْكَ دِيْنِيْ، فَإِنْ كَانَ مَرْضِيًّا أَثْبُتُ عَلَيْهِ حَتَّى أَلْقَى اللهَ عَزَّوَجَلَّ
โอ้บุตรของรอซูลุลลอฮ์ ฉันต้องการนำเสนอศาสนาที่ฉันนับถือให้ท่านได้พิจารณา   
หากว่ามันเป็นที่พอใจ(ถูกยอมรับ) ฉันจะได้ยึดถือมันไว้อย่างมั่นคง จนกว่าฉันจะได้กลับไปพบกับอัลลอฮ์ ตะอาลา
อิม่ามกล่าวว่า  โอ้อบุลกอซิมจงนำเสนอมาซิ  
ฉันจึงกล่าวว่า  ฉันเชื่อว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงมีเพียงหนึ่ง
ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์  
ทรงอยู่นอกขอบเขตสองประการคือ  
1,ขอบเขตการมีเรือนร่าง
2,ขอบเขตของการถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนกับสิ่งถูกสร้าง
แท้จริงอัลลอฮ์ไม่มีเรือนร่าง ไม่มีรูปลักษณ์ ไม่ใช่อะร็อฎและเญาฮัร(วัตถุมีมิติและเวลา)  
แต่อัลลอฮ์คือผู้ทรงสร้างเรือนร่างทั้งหลาย ผู้ทรงสร้างรูปลักษณ์ทั้งหลาย
และทรงเป็นผู้ทรงสร้างอะร็อฎและเญาฮัร(วัตถุ)ทั้งหลาย
และอัลลอฮ์ทรงเป็นพระผู้อภิบาลทุกสรรพสิ่ง  ทรงเป็นผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ทุกสิ่ง  ทรงเป็นผู้บันดาลสร้างทุกสิ่งและทรงเป็นผู้ให้กำเนิดทุกสิ่ง
และแท้จริงมุฮัมมัด(ศ)เป็นบ่าวของพระองค์ เป็นศาสนฑูตของพระองค์และเป็นศาสดาคนสุดท้าย ซึ่งจะไม่มีนะบีเกิดขึ้นหลังจากเขาอีกแล้วตราบจนถึงวันกิยามะฮ์  
และแท้จริงชะรีอะฮ์(หลักธรรม)ของเขานั้นเป็นศาสนาสุดท้าย ซึ่งจะไม่มีศาสนา(ของอัลลอฮ์มาประกาศ)หลังจากศาสนาอิสลามอีกแล้วตราบจนถึงวันกิยามะฮ์  
และฉันขอกล่าวว่า   แท้จริงอิม่ามผู้นำและคอลีฟะฮ์ผู้สืบต่อจากท่านนบีมุฮัมมัด(ศ) และเป็นวะลียุลอัมริ(ผู้ปกครอง)คือ
1,ท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อาลี บินอะบีตอลิบ ถัดมาคือ
2,อัลฮาซัน
3,อัลฮูเซน
4,อาลี บินฮูเซน
5,มุฮัมมัด บินอาลี อัลบาเก็ร
6,ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด อัศศอดิก
7, มูซา บินญะอ์ฟัร
8,อาลี บินมูซา
9,มุฮัมมัด บินอาลี
และถัดมาคือท่าน โอ้เมาลาของฉัน  
อิม่ามอะลีฮาดี(อิม่ามที่10)#จึงกล่าวว่า  
และอิม่ามคนที่ 11 หลังจากฉันคือ ฮาซันอัสการี บุตรชายของฉัน  
แล้วจะเป็นอย่างไรเล่าสำหรับประชาชนเกี่ยวกับผู้สืบทอด(ตำแหน่งอิม่ามคนที่12 ) ต่อจากเขา
อับดุลอะซีมกล่าวว่า  โอ้เมาลาของฉัน มันจะเป็นอย่างไรหรือ ?  
อิม่ามอะลีฮาดีตอบว่า  เพราะเนื่องจากเขา(อิม่ามคนที่12 ) จะไม่มีใครได้เห็นตัวเขา และไม่อนุญาติให้เอ่ยถึงเขาด้วยชื่อจริงของเขา
จนกว่าเขาจะปรากฏตัวออกมาทำให้โลกเต็มเปี่ยมด้วยความเที่ยงธรรมและความยุติธรรมเหมือนดั่งที่มันเคยเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่  
อับดุลอะซีมกล่าวว่า  ฉันขอยืนยัน(ต่อสิ่งที่กล่าวมา)    และฉันกล่าวว่า  
แท้จริงวะลีของพวกเขา(บรรดาอิม่าม)คือวะลีของอัลลอฮ์
ศัตรูของพวกเขาคือศัตรูของอัลลอฮ์
การเชื่อฟังพวกเขาคือการเชื่อฟังอัลลอฮ์
การขัดคำสั่งพวกเขาคือการขัดคำสั่งอัลลอฮ์
และฉันเชื่อว่า  แท้จริงการขึ้นมิ๊อ์รอจญ์ของท่านนบี(ศ)เป็นเรื่องจริง,
การสอบถามในหลุมศพเป็นจริง,
สวรรค์และนรกมีจริง,
สะพานศิร็อฏมีจริง,
มีซานตราชั่งความดีความชั่วมีจริง,  
วันอวสานจะต้องเกิดขึ้นแน่อย่างไม่ต้องสงสัยและแท้จริงอัลลอฮ์จะให้ผู้ที่อยู่ในหลุมศพฟื้นขึ้นมา  
และฉันขอกล่าวว่า   แท้จริงฟัรฎูที่เป็นวาญิบ(ต้องปฏิบัติ)หลังจากเรื่อง
1,วิลายะฮ์ (การแสดงความจงรักภักดีต่ออะฮ์ลุลบัยต์ ซึ่งตรงข้ามกับ
2,บะรออะฮ์ )
3, การทำนมาซวาญิบ
4, การจ่ายทานซะกาต
5,จ่ายคุมส์ข้อปลีกย่อยของซะกาต)
6,การถือศีลอด
7, การทำฮัจญ์  
8,การทำญิฮ๊าด
9,การแนะนำให้ทำดี
10,การห้ามปรามมิให้ทำชั่ว    
อิม่ามอะลีฮาดีได้กล่าวว่า  
โอ้อบุลกอซิม ขอสาบานด้วยนามของอัลลอฮ์ว่า หลักศรัทธาและหลักปฏิบัติแบบนี้แหล่ะคือ ศาสนาของอัลลอฮ์
ที่พระองค์ทรงพอพระทัยมอบมันให้กับปวงบ่าวของพระองค์
ขอให้ท่านจงยึดถือมันไว้อย่างมั่นคง ขออัลลอฮ์ทรงทำให้ท่านมีความมั่นคงต่อคำพูดอันมั่นคงนี้ทั้งชีวิตในโลกนี้และปรโลกด้วยเถิด
อ้างอิงจากหนังสือ
หนังสือ อัตเตาฮีด ผู้แต่ง เชคศอดูก ตาย ฮ.ศ. 381 หน้า 81 ฮะดีษที่ 37  
 นี่คืออิทธิพลของอิมามอะลีฮาดีอะลัยฮิสสลามที่มีต่อตระกูลอะละวีย์ทั้งหมดในยุคของท่าน

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม