การให้ความสำคัญกับการนมาซ (1)

 

          นมาซ ถือเป็นศาสนากิจภาคปฏิบัติบังคับอันหนึ่งและถือเป็นเสาหลักอันสำคัญของศาสนาอิสลาม ดั่งที่ท่านศาสดามุฮัมหมัด (ศ็อล) ได้ดำรัสว่า “الصلات عمود الدین” (นมาซ คือเสาหลักของศาสนา) ด้วยเหตุนี้จึงมีการเน้นย้ำให้มุสลิมมอบความสำคัญกับการนมาซ และนมาซยังถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้มุสลิมประสบความสำเร็จในภารกิจต่าง ๆ ทั้งทางโลกและโลกหลังความตายอีกด้วย

          ในบทความนี้จะขอนำเสนอถึงผลและบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับการนมาซและคิดว่าการนมาซที่พระเจ้าได้ทรงบัญชานั้นเป็นแค่เรื่องล้อเล่น โดยอธิบายจากตัวบทฮะดีษจากท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ) ที่ได้กล่าวถามท่านศาสดามุฮัมหมัด (ศ็อล) ผู้เป็นบิดาของพระนาง แน่นอนว่าการให้ความสำคัญกับการนมาซไม่เพียงแต่จะปฏิบัตินมาซให้ครบตามจำนวนของนมาซเท่านั้น แต่การให้ความสำคัญต่อนมาซยังหมายรวมถึง การนมาซในช่วงต้นของเวลา การอาบน้ำวุฎูอย่างมีสติ การมีความสะอาดทั้งร่างกายและเสื้อผ้า การนมาซอย่างถูกต้องตามอิริยาบทต่าง ๆ ของนมาซ การมีเจตนาเพื่ออัลลอฮ์ (ซบ.) และอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

          รายงานบันทึกฮะดีษได้กล่าวว่า ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ) ได้ถามท่านศาสดามุฮัมหมัด (ศ็อล) ผู้เป็นบิดาว่า “โอ้บิดาผู้เป็นที่รัก สำหรับบรรดาบุรุษและสตรีที่มิได้ให้ความสำคัญกับการนมาซและคิดว่าการนมาซนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเขาจะต้องพบกับอะไรในภายภาคหน้า?” ท่านศาสดามุฮัมหมัด (ศ็อล) กล่าวตอบว่า “โอ้ฟาติมะฮ์ (อ) ลูกรัก บรรดาบุรุษและสตรีผู้ซึ่งคิดว่าการนมาซเป็นเรื่องเล็กน้อยนั้น พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) จะทรงให้เขาพบกับบทลงโทษถึง 15 สิ่งด้วยกัน โดย 6 สิ่งแรกจะเกิดขึ้นในโลกดุนยานี้ , 3 สิ่งจะเกิดขึ้นในขณะกำลังเสียชีวิต , 3 สิ่งจะเกิดขึ้นในหลุมฝังศพ และอีก 3 สิ่งจะเกิดขึ้นในวันกิยามัต วันแห่งการคิดบัญชี

          6 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในดุนนี้คือ
 
1)  ชีวิตของเขาจะห่างไกลจากบะรอกัตและความเป็นสิริมงคล
2)  ริซกีและปัจจัยยังชีพของเขาจะไม่มีบะรอกัต ขาดความเป็นสิริมงคลและขาดความรุ่งเรือง
3)  ใบหน้าของเขาจะหมองหม่นไร้ซึ่งความเป็นผู้ศรัทธา
4)  ทุก ๆ การงานของเขาจะไม่ได้รับมรรคผลคุณงามความดีใด ๆ
5)  ดุอาและการขอพรของเขาจะไม่ถึงไปยังฟากฟ้า (ไร้การตอบรับ)
6)  เขาจะไม่ได้อยู่ในการดุอาและคำขอพรของเหล่าบรรดาผู้ศรัทธา (จะไม่ผู้ศรัทธาใดขอดุอาให้แก่เขา)

เชคอาลี พิชัยรัตน์/เรียบเรียง

โปรดติดตามตอนต่อไป อินชาอัลลอฮ์)