เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มุบาฮะละฮ์ ตอนที่ 6

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

มุบาฮะละฮ์ ตอนที่ 6

 

มุสลิมได้อะไรจากเหตุการณ์มุบาฮะละฮ์
1- #ได้พิสูจน์ว่านบีมุฮัมมัด(ศ)เป็นศาสดาจริง  เพราะฝ่ายมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมต่างบันทึกตรงกันว่า ชาวคริสต์แห่งนัจญ์รอนไม่ยอมทำมุบาฮะละฮ์ด้วย  แต่ขอจ่ายญิซยะฮ์แทน
2- #อัลลอฮ์ตะอาลาตรัสว่า ฮาซันและฮูเซนคือบุตรชายของนบีมุฮัมมัด(ศ)
แม้ว่าทั้งสองจะเป็นบุตรของท่านหญิงฟาติมะฮ์ก็ตาม
#ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่าทั้งสองคือบุตรชายของท่าน โดยกล่าวว่า
اِبْنَايَ هَذَانِ : اَلْحَسَنُ وَ الْحُسَيْنُ : سَيِّدَا شَبَابِ أَهْلِ الْجَنَّةِ وَ أَبُوْهُمَا خَيْرٌ مِنْهُمَا
ลูกชายของฉันสองคนนี้คือ ฮาซันและฮูเซนคือหัวหน้าบรรดาชายหนุ่มแห่งชาวสวรรค์ และบิดาของเขาทั้งสองนั้นประเสริฐกว่าเขาทั้งสอง
ดู ซอฮีฮุลญามิอิซ-ซอฆีร หะดีษที่  47  เชคอัลบานีกล่าวว่าซอฮิฮ์
3- #อายัตมุบาฮะละฮ์(บทที่ 3 อายัตที่ 61) นับเป็นความสูงส่งของท่านอะลี,ฟาติมะฮ์,ฮาซัน,ฮูเซน(อ) ที่บรรดามุสลิมมิอาจมองข้ามหรือปฏิเสธได้เลย  เพราะท่านนบี(ศ)ได้พาบุคคลทั้งสี่นี้เท่านั้นไปทำมุบาฮะละฮ์  
การที่ท่านนบีเจาะจงพาทั้งสี่ออกไปทำมุบาฮะละฮ์ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่นบีจะพาใครไปก็ได้   แต่เป็นการคัดเลือกของอัลลอฮ์อย่างมีพระประสงค์และมีเหตุผลอันลึกซึ้ง
4- #เหตุการณ์มุบาฮะละฮ์คือ หลักฐานยืนยันว่า หลังจากนบีมุฮัมมัด(ศ)สิ้นชีพ ท่านอะลีคือบุคคลประเสริญที่สุด
5- #อายัตมุบาฮะละฮ์ (บทที่ 3 อายัตที่ 61) บอกให้รู้ว่า
การเผยแผ่ศาสนา การดูแลเรื่องการเมืองการปกครอง ตกเป็นภารกิจของอะฮ์ลุลบัยต์คอซทำหน้าที่สืบต่อจากท่านนบีไม่ใช่ในฐานะญาติสนิท
แต่ในฐานะที่อัลลอฮ์ทรงคัดสรรพวกเขาให้มาทำหน้าที่สำคัญนี้
ดังที่ท่านรอซูลลุลลอฮ์(ศ)ได้กล่าวกับท่านอะลีว่า
أَنْتَ مِنِّى بِمَنْزِلَةِ هَارُونَ مِنْ مُوسَى إِلاَّ أَنَّهُ لاَ نَبِىَّ بَعْدِى
ท่านกับฉันมีฐานะเหมือนฮารูนกับมูซา  ยกเว้นจะไม่มีนบีหลังจากฉันอีกแล้ว   
ดูซอฮิฮ์มุสลิม หะดีษที่ 6370
6- #หากเราสร้างความเข้าใจเนื้อหาของคำว่า
ตัวของเรา  أَنْفُسَنَا อัฟฟุซะนา ในอายัตมุบาฮะละฮ์ จะตระหนักได้ทันทีว่า
โองการนี้พิสูจน์ถึงการเป็นผู้นำของท่านอะลี
เพราะศัพท์คำนี้นับว่า
ท่านอะลีคือบุคคลที่มีบุคลิกภาพสมบูรณ์แบบเหมือนนบีมุฮัมมัดทุกประการ ยกเว้น ตำแหน่งนะบี
ท่านอะลีได้แสดงความคิด จิตวิญญาณ การกระทำทุกอย่างซึ่งคล้ายคลึงกับนบีมุฮัมมัด(ศ)ทั้งในยามที่ท่านมีชีวิตหรือยามที่ท่านจากโลกนี้ไปแล้วได้ใกล้เคียงที่สุด
หลังจากท่านอุมัรบินคอตตอบสิ้นชีพ ในวันที่คณะชูรอหกคนได้ประชุมหาคอลีฟะฮ์คนที่ 3
#ท่านอะลีได้ถามคณะที่ประชุมว่า
أَنْشُدُكُمْ بِاللَّهِ ، هَلْ فِيكُمْ أَحَدٌ جَعَلَهُ اللَّهُ نَفْسَ النَّبِيّ، وَأَبْناَءُهُ أبْناَءَهُ، وَنِساَءُهُ نِساَءَهُ غَيْرِيْ قاَلُوْا: اللّهُمَّ لاَ
ขอให้พวกท่านสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า
ในหมู่พวกท่านมีใครสักคนที่อัลลอฮ์ทรงทำให้เขาเปรียบเหมือน نَفْسٌ ตัวตนของท่านนบีนอกจากฉันยังมีอีกไหม
#พวกเขาตอบว่า โอ้อัลลอฮ์ ไม่มี
7- #ถ้าสังเกตคำว่า ( สตรีของเรา   نِسَاءَنَا นิซาอะนา ) ให้ดี จะพบว่า
ท่านนบีไม่ได้พาภรรยาคนใดหรือซอฮาบะฮ์หญิงคนใดในมะดีนะฮ์ไปทำมุบาฮะละฮ์ ยกเว้น ฟาติมะฮ์บุตรีของท่านคนเดียวเท่านั้น
#นับได้ว่านี่คือ ความพิเศษของท่านหญิงฟาติมะฮ์  อายัตมุบาฮะละฮ์จึงเป็นหลักฐานหนึ่งที่พิสูจน์ว่า อะลี ฟาติมะฮ์ ฮาซันและฮูเซนคือ “ อะฮ์ลุลบัยต์คอซของท่าน “ อย่างแท้จริง

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม