การแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบี ในทัศนะของเชคอะลี ญุมอะฮ์

 

ทัศนะเชคอะลีญุมอะฮ์เกี่ยวกับการแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบี

อะไรคือความสำคัญของการรักอะฮ์ลุลบัยต์นบี(ศ) อะไรคือขอบเขตของความรักนั้นและอะไรคือความแตกต่างระหว่างขอบเขตความรักกับความเลยเถิดที่ถูกตำหนิ
#เชคอาลีญุมอะฮ์ (อดีตมุฟตีย์ ประเทศอียิปต์) ได้กล่าวว่า  อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า
قُلْ لَا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ฉันมิได้ขอ รางวัลตอบแทนใดกับพวกเจ้า บนงานนี้(นำทางสู่อิสลาม) ยกเว้น ให้แสดงความรักในญาติสนิท อัชชูรอ : 23
มีรายงานซอฮิฮ์จากท่านสะอีด บินญุเบร ได้กล่าวถึงความหมายอายัตนี้ว่า ไม่เคยมีตระกูลใดจากเผ่ากุเรช เว้นแต่ในหมู่พวกเขาจะเป็นเครือญาติของท่านนบี ดังนั้นท่านได้กล่าวว่า ยกเว้นพวกท่านจะต้องเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพวกท่านเนื่องจากเป็นเครือญาติกัน(ซอฮิฮ์บุอครีย์)
นี่คือคำสั่งเสียเรื่องเครือญาติของท่านนบี อัลเลาะฮ์ทรงรับสั่งท่านนบีให้ประกาศเรื่องนี้ไปยังประชาชน และท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้สั่งพวกเราให้มีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน และยึดมั่นดำเนินตามพวกเขา และท่านนบีได้กำชับพวกเราเกี่ยวกับพวกเขาไว้ในวจนะของท่านมากมาย
#เราจะขอกล่าวส่วนหนึ่งจากฮะดีษเหล่านั้น คำพูดของท่านนบี(ศ)ที่กล่าวว่า
พึงทราบเถิดท่านทั้งหลาย  ที่จริงฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง รอซูลแห่งพระผู้อภิบาลของฉันนั้นใกล้จะมา(รับชีวิตฉันไป)แล้ว และฉันก็ตอบรับแล้ว  และฉันได้มอบสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน  สิ่งแรกคือกิตาบุลเลาะฮ์...และ(สองคือ)อะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน
ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน   ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  
แล้วฮุศ็อยน์ได้กล่าวกับท่านเซดว่า  โอ้ท่านเซด และใครล่ะที่เป็นอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านนบี   บรรดาภรรยาของท่านไม่ได้เป็นอะฮ์ลุลบัยต์ของนบีดอกหรือ ท่านเซดได้กล่าวว่า ภรรยาของท่านนบี คือส่วนหนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน  แต่อะฮ์ลุลบัยต์ของท่านจริงๆคือ  ผู้ที่ต้องห้ามไม่ให้รับซอดะเกาะฮ์ภายหลังจากท่าน  และฮุศ็อยน์กล่าวว่า   พวกเขาเหล่านั้นคือใคร  ท่านเซดได้กล่าวว่า  พวกเขาคือ อาลิ(วงศ์วาน)ของอาลี ,วงศ์วานของอะกีล,วงศ์วานของยะอฺฟัรและวงศ์วานของอับบาส
ฮุศ็อยน์กล่าวว่า  พวกเขาเหล่านี้ ถูกห้ามไม่ให้รับซอดะเกาะฮ์ใช่ไห ท่านเซดกล่าวว่า “ ใช่แล้ว”  (รายงานโดยมุสลิมและอิหม่ามอะหมัด)  
#และคำพูดของท่านนบี(ศ)#ที่กล่าวว่า
يا أيها الناس إني قد تركت فيكم ما إن أخذتم به لن تضلوا؛ كتاب الله، وعترتي أهل بيتي (أحمد والترمذى
โอ้ประชาชนทั้งหลาย แท้จริงฉันได้มอบไว้ให้กับพวกท่าน หากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้นแล้ว  พวกท่านจะไม่หลงทางหลังจากฉันเด็ดขาดคือ กิตาบุลเลาะฮ์และอิตเราะตี คือ อะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน (รายงานโดยอิหม่ามอะหมัดและติรมิซีย์)
فنحن نحب الله حبًا كبيرًا، وبحبنا لله أحببنا رسوله صلى الله عليه وسلم الذي كان نافذة الخير التي رحم الله العالمين بها، وبحبنا لرسوله صلى الله عليه وسلم أحببنا آل بيته الكرام الذين أوصى بهم صلى الله عليه وسلم وعظمت فضائلهم وزادت محاسنهم
ดังนั้น พวกเรารักอัลเลาะฮ์ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ และด้วยความรักของเราที่มีต่ออัลเลาะฮ์ เราจึงรักรอซูลของพระองค์ ซึ่งท่านเป็นหน้าต่างแห่งความดีงามที่อัลเลาะฮ์ได้มอบความเมตตาแก่สากลโลกมาพร้อมกับเขา และด้วยความรักของเราที่มีต่อรอซูลของพระองค์ เราจึงรักอะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ท่านรอซูลได้สั่งเสียไว้ และฟะฎออิลของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่และความดีงามของพวกเขาได้เพิ่มพูล
فموقع محبة أهل بيت رسـول الله من كل أعماق قلب المسلم، وهو مظهر حب رسول الله صلى الله عليه وسلم فبحبه أحببتهم، كما أن محبة النبي صلى الله عليه وسلم هي مظهر محبة الله، فبحب الله أحببت كل خير، فالكل في جهة واحدة وسائل توصل للمقصود والله يُفهمنا مراده
จุดที่ตั้งของความรักที่มีต่ออะฮ์ลุลบัยต์ของท่านรอซูลนั้นมาจากส่วนลึกของหัวใจของมุสลิม และเป็นสถานที่แสดงความรักของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)
ด้วยการมีความรักต่อท่านรอซูล ฉันจึงมีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์ เช่นเดียวกัน การมีความรักต่อท่านนบีคือ สถานที่แสดงความรักต่ออัลเลาะฮ์
ดังนั้นด้วยการมีความรักต่ออัลเลาะฮ์ ฉันจึงรักทุกๆความดีงาม ทั้งหมดอยู่ในทิศทางเดียวกัน คือสื่อต่างๆที่จะนำพาไปสู่เป้าหมาย ขออัลเลาะฮ์โปรดทำให้เราเข้าใจพระประสงค์ของพระองค์ด้วยเถิด
والمغالاة لا تكون في المحبة، وإنما تكون في الاعتقاد، فطالما أن المسلم سليم الاعتقاد، فلا حرج عليه في المحبة لرسول الله صلى الله عليه وسلم وأهل بيته،
มุฆอล๊าต(ความเลยเถิด)จะไม่อยู่ในความรัก แต่จะอยู่ในเรื่องความเชื่อ ตราบใดที่มุสลิมมีความเชื่อที่ซะลีม ก็ไม่เป็นข้อตำหนิแก่เขาสำหรับท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)และอะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน
فنحن نعتقد أنه لا إله الله، وأن سيدنا محمد هو رسول الله صلى الله عليه وسلم ، وأن الأنبياء معصومون، وغير الأنبياء من العترة الطاهرة والصحابة الكرام ليسوا بمعصومين وإنما هم محفوظون بحفظ الله للصالحين، ويجوز شرعًا وقوعهم في الآثام والكبائر، ولكن يحفظهم الله بحفظه
เราเชื่อว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์ และสัยยิดินามุฮัมมัดคือรอซูลของอัลเลาะฮ์ และบรรดานบีคือมะซูม และผู้ที่ไม่ใช่นบี ทั้งวงศ์วานผู้บริสุทธิ์และซอฮาบะฮ์นั้นไม่ใช่มะซูม แต่พวกเขาได้รับการปกป้องด้วยการปกป้องของอัลเลาะฮ์สำหรับบรรดาคนที่ซอและห์ และอนุญาติทางชัรอีย์ว่า พวกเขาอาจตกอยู่ในการทำผิดและบาปใหญ่ได้ แต่อัลเลาะฮ์ทรงปกปักรักษาพวกเขาไว้ด้วยการพิทักษ์ของพระองค์
فطالما أن المسلم سليم الاعتقاد في هذه النواحي فيحب أهل بيت رسول الله صلى الله عليه وسلم من كل قلبه، وهي درجات يرزقها الله لمن أحبه
ตราบใดที่มุสลิมมีความเชื่อที่ซะลีมในแง่มุมเหล่านี้ เขารักอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านรอซูล(ศ)หมดหัวใจของเขา และนั่นคือดะร่อญัตต่างๆที่อัลลอฮ์ทรงประทานมันให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงรักชอบเขา
فكلما زاد حب المسلم لأهل البيت ارتقى بهذا الحب في درجات الصالحين؛ لأن حب أهل البيت الكرام علامة على حب رسول الله صلى الله عليه وسلم ، وحب رسول الله صلى الله عليه وسلم علامة على حب الله عز وجل، والله تعالى أعلى وأعلم
ดังนั้นยิ่งมุสลิมมีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบีมากเท่าไหร่
ด้วยความรักนี้เขาก็จะยิ่งมีสถานะสูงขึ้นได้ไปอยู่ในดะรอญัตของบรรดาคนที่ซอและห์
เพราะการมีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบี คือเครื่องหมายบ่งถึงการมีความรักต่อท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)
และการมีความรักต่อท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) คือเครื่องหมายบ่งถึงการมีความรักต่ออัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัล
และอัลเลาะฮ์ตะอาลาคือ ผู้ทรงสูงส่งที่สุดและรอบรู้ที่สุด