เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

สิบสองบทเรียน จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

สิบสองบทเรียน จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์

 

มูบาฮะละฮ์ เป็นวันที่ชาวมุสลิมและชาวคริสต์นัญรอน มาสาปแช่งซึ่งกันเเละกัน เพื่อที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ลงโทษคนที่โกหก  เมื่อชาวคริสต์นัญรอนเห็นว่าท่านศาสดามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ท่านได้มาพร้อมกับบุตร,หลานและเครือญาติที่ไกล้ชิดที่สุดของท่าน ทำให้ชาวคริสต์เกิดความกลัวและตกลงที่จะยอมจ่ายญิษยะฮ์ให้

บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์ มีดังนี้:
1. เนื่องจากการมูบาฮะละฮ์นั้นเป็นกลวิธีสุดท้ายของท่านนบี มูฮัมหมัด (ศ็อลฯ)หลังจากล้มเหลวจากการใช้ตรรกะและการใช้เหตุผล ดังนั้นจึงหมายถึง คำสาปเเช่งจึงมีผลต่อภายนอก ; ไม่ใช้คำสาปเเช่งธรรมดาๆที่ไม่มีผลเลย

2. มูบาฮะละฮ์ถูกเสนอโดยผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้องเเละความชอบธรรม ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ท่านศาสดา มูฮัมหมัด (ศ็อลฯ)เป็นผู้เสนอให้มาทำการมูบาฮะละห์

3. โองการ มูบาฮะละฮ์ คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อตำแหน่งของนบี และรีซาละฮ์ของท่านศาสดา ; ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดที่จะมามูบาฮะละฮ์กับท่าน ทำให้มั่นใจว่าท่านคือผู้ส่งสารของอัลลอฮฺ (ซบ.)

4. การมูบาฮะละฮ์ เป็นที่ชัดเจนว่าท่านนบีอีซา (อ.)นั้นเป็นรอซูลและนบีของอัลลอฮฺ (ซบ.)  ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า  ท่านเป็นเเค่บ่าวของพระเจ้าและไม่ใช่พระเจ้า  ท่านเป็นสิ่งที่ถูกสร้างและไม่ใช่ผู้สร้าง

5. ผู้ชายและผู้หญิง จะถูกกล่าวในเรื่องของศาสนาจะอยู่ควบคู่กันตลอด (ابناءنا، نساءنا و انفسنا ในโองการมูบะฮ์ละฮ์ ก็ได้กล่าวถึงเรืองนี้ด้วย)

6.ในการขอดุอาอฺสิ่งที่สำคัญที่สุด คือแรงจูงใจและบุคลิกภาพ ;ไม่มีเรื่องจำนวน (กลุ่มที่มามูบาฮะละฮ์ไม่ได้มากกว่าห้าคนเลย)

7. อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ คือ ตัวตนของรอซูลลอฮฺ  (انفسنا)

8. การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เป็นวิธีแรกสำหรับการพูดคุยกับผู้อื่น

9. วิธีสุดท้ายของมุอ์มินที่แท้จริง คือการ ดุอาอฺ

10. การพิสูจน์เหตุผลมีความจำเป็นต้องตอบข้อพิสูจน์;  แต่ถ้าว่ามีการโต้แย้งและมีความดื้อรั้น ก็ให้ระงับไว้

11. ถ้าหากท่านยึดมั่นในความถูกต้องเเล้ว ศัตรูล่าถอยต่อหลักฐานที่ไร้ค่าของมัน

12. รากฐานของศาสนาอิสลามมีด้วยเพราะจากคนห้าคนนี้  มิฉะนั้น ท่านศาสดาอาจไปสาปแช่งคนเดียวและไม่ได้พาอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านไปด้วย  แต่กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดาอยู่กับท่าน เพื่อบรรลุถึงสัจธรรมและพร้อมที่จะยอมรับความตายเสมอ


ขอขอบคุณ เฟซบุ๊ก nureen baneewan

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม