สิบสองบทเรียน จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์
- จัดพิมพ์ใน
-
- ผู้เขียน:
- เฟซบุ๊ก nureen baneewan
สิบสองบทเรียน จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์
มูบาฮะละฮ์ เป็นวันที่ชาวมุสลิมและชาวคริสต์นัญรอน มาสาปแช่งซึ่งกันเเละกัน เพื่อที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ลงโทษคนที่โกหก เมื่อชาวคริสต์นัญรอนเห็นว่าท่านศาสดามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ท่านได้มาพร้อมกับบุตร,หลานและเครือญาติที่ไกล้ชิดที่สุดของท่าน ทำให้ชาวคริสต์เกิดความกลัวและตกลงที่จะยอมจ่ายญิษยะฮ์ให้
บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้จากเหตุการณ์มูบาฮะละฮ์ มีดังนี้:
1. เนื่องจากการมูบาฮะละฮ์นั้นเป็นกลวิธีสุดท้ายของท่านนบี มูฮัมหมัด (ศ็อลฯ)หลังจากล้มเหลวจากการใช้ตรรกะและการใช้เหตุผล ดังนั้นจึงหมายถึง คำสาปเเช่งจึงมีผลต่อภายนอก ; ไม่ใช้คำสาปเเช่งธรรมดาๆที่ไม่มีผลเลย
2. มูบาฮะละฮ์ถูกเสนอโดยผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้องเเละความชอบธรรม ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ท่านศาสดา มูฮัมหมัด (ศ็อลฯ)เป็นผู้เสนอให้มาทำการมูบาฮะละห์
3. โองการ มูบาฮะละฮ์ คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อตำแหน่งของนบี และรีซาละฮ์ของท่านศาสดา ; ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดที่จะมามูบาฮะละฮ์กับท่าน ทำให้มั่นใจว่าท่านคือผู้ส่งสารของอัลลอฮฺ (ซบ.)
4. การมูบาฮะละฮ์ เป็นที่ชัดเจนว่าท่านนบีอีซา (อ.)นั้นเป็นรอซูลและนบีของอัลลอฮฺ (ซบ.) ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า ท่านเป็นเเค่บ่าวของพระเจ้าและไม่ใช่พระเจ้า ท่านเป็นสิ่งที่ถูกสร้างและไม่ใช่ผู้สร้าง
5. ผู้ชายและผู้หญิง จะถูกกล่าวในเรื่องของศาสนาจะอยู่ควบคู่กันตลอด (ابناءنا، نساءنا و انفسنا ในโองการมูบะฮ์ละฮ์ ก็ได้กล่าวถึงเรืองนี้ด้วย)
6.ในการขอดุอาอฺสิ่งที่สำคัญที่สุด คือแรงจูงใจและบุคลิกภาพ ;ไม่มีเรื่องจำนวน (กลุ่มที่มามูบาฮะละฮ์ไม่ได้มากกว่าห้าคนเลย)
7. อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ คือ ตัวตนของรอซูลลอฮฺ (انفسنا)
8. การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เป็นวิธีแรกสำหรับการพูดคุยกับผู้อื่น
9. วิธีสุดท้ายของมุอ์มินที่แท้จริง คือการ ดุอาอฺ
10. การพิสูจน์เหตุผลมีความจำเป็นต้องตอบข้อพิสูจน์; แต่ถ้าว่ามีการโต้แย้งและมีความดื้อรั้น ก็ให้ระงับไว้
11. ถ้าหากท่านยึดมั่นในความถูกต้องเเล้ว ศัตรูล่าถอยต่อหลักฐานที่ไร้ค่าของมัน
12. รากฐานของศาสนาอิสลามมีด้วยเพราะจากคนห้าคนนี้ มิฉะนั้น ท่านศาสดาอาจไปสาปแช่งคนเดียวและไม่ได้พาอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านไปด้วย แต่กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดาอยู่กับท่าน เพื่อบรรลุถึงสัจธรรมและพร้อมที่จะยอมรับความตายเสมอ
ขอขอบคุณ เฟซบุ๊ก nureen baneewan