เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์มุบาฮาละฮ์

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

พฤติกรรมของปุโรหิตบนีอิสรออีล ในประชาชาติอิสลาม | ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์มุบาฮาละฮ์

บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
 

ในซูเราะฮฺ อัลบากอเราะฮฺ โองการ 174 กล่าวว่า

‎إنَّ الَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَا أَنزَلَ اللَّهُ مِنَ الْكِتَابِ وَيَشْتَرُونَ بِهِ ثَمَنًا قَلِيلًا أُولَٰئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ إِلَّا النَّارَ وَلَا يُكَلِّمُهُمُ اللَّهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلَا يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ

แท้จริงบรรดาผู้ที่ปิดบังสิ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ ที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมา และนำสิ่งนั้นไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย ชนเหล่านั้นมิได้กินอะไรเข้าไปในท้องของพวกเขา นอกจากไฟเท่านั้น และในวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะไม่ทรงพูดแก่พวกเขา และจะไม่ทรงทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ

คำอธิบาย: คำว่า  يَكْتُمُونَ (ยักตุมูน) หมายถึงการปกปิด ซึ่งหมายความว่า “บรรดาบุคคลที่ได้ปกปิดสิ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ)ได้ประทานลงมาจากคัมภีร์ ” และเอาไปขายด้วยราคาที่แสนถูก บนีอิสรออีลมีพฤติกรรมหลักอยู่สองอย่าง คือ “يَكْتُمُ” (ยักตูมู) - การปกปิด และ “يُحَرِّفُ” (ยุฮัรริฟุ) - การบิดเบือน สิ่งไหนที่เขาปกปิดไม่ได้ เขาก็จะทำการบิดเบือน นี่คือพฤติกรรมของบนีอิสรออีล

อย่างไรก็ตาม แม้โองการเหล่านี้จะลงมาเพื่อบอกถึงพฤติกรรมของบนีอิสรออีล แต่กฎอันหนึ่งของอัลกุรอานคือ “อูมูมียะฮฺ” นั่นคือพูดกับทุกคน ในทุกยุคทุกสมัย ประทานลงมาให้กับคนในเหตุการณ์นี้ แต่ไม่ได้ใช้กับเหตุการณ์นี้เพียงเหตุการณ์เดียว ทว่าสามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นพฤติกรรมเหล่านี้ของอาเล็มอุลามาอฺในอิสลาม ก็คือพฤติกรรมของผู้รู้แห่งบนีอิสรออีล..[..]

‎“ أُولَٰئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ”

..บุคคลเหล่านี้ มิได้กินอะไรเข้าไปในท้องของพวกเขานอกจากไฟเท่านั้น.. ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า สาเหตุหลักอันหนึ่งของการบิดเบือนศาสนา คือเพื่อปากท้องและความอิ่มท้องของเขา แน่นอนคนอยู่เฉยๆไม่มีใครบิดเบือนสัจธรรม ไม่มีใครเลือกนรกได้ นอกจากจะมีเหตุผลและมีตัวเลือกของเขา จึงขายศาสนา นั้นคือปัญหา แม้แต่ดีเอ็นเอของบนีอิสรออีลก็เข้ามาอยู่ในอุมมัติอิสลาม

แม้แต่ชีอะฮฺเองก็มีดีเอ็นเออันนี้เข้ามามากมาย หลายสิ่งหลายอย่าง มีคนจำนวนมากที่บิดเบือนสัจธรรมทั้งๆที่เขารู้ นั้นคือปัญหาหลักของสังคมอิสลาม เพื่ออะไร ? เพื่อจะนำเศษเงินเหล่านี้ลงท้องของพวกเขา เพื่ออะไร ? เพื่อจะนำไฟลงสู่ท้องของพวกเขา และอาจมีเหตุผลอื่นๆ แต่เหตุผลหลักของการบิดเบือนสัจธรรมนั้น เพื่อเอาของใส่ลงไปในท้อง อัลลอฮฺ(ซบ)กล่าวว่าจริงๆแล้ว พวกเขาไม่ได้ใส่อะไรลงไปในท้องหรอกนอกจากไฟนรกเท่านั้น ….!!

ทุกสังคมที่มีการบิดเบือนสัจธรรม จุดเริ่มต้นของมันคือสิ่งนี้ เรายกตัวอย่างที่ใกล้ที่สุดคือบุคคลที่ปฏิเสธการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน บุคคลที่ปฏิเสธระบบวิลายาตุลฟะกิฮฺทั้งๆที่เมื่อไปตรวจสอบและค้นคว้าแล้ว ก็มีฮะดิษมากมายที่พูดถึงเรื่อง วิลายาตุลฟากิฮฺ อาเล็มอุลามาอฺยุคก่อนท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ก็ได้เขียนเรื่องราวของวิลายาตุลฟะกิฮฺไว้ ตั้งแต่ตอนต้นของการเริ่มการอิจญติฮาดว่า วันหนึ่งการปกครอง จะขึ้นอยู่ใต้การปกครองของบรรดาอาเล็มอุลามาอฺ ตั้งแต่ยุต้นๆของ การอิจญติฮาด เชคฏูซีก็ได้เขียนไว้จนกระทั่งมาถึงยุคของอิมามโคมัยนี(รฎ) แต่คนกลุ่มหนึ่งก็พยายามที่จะบิดเบือนว่าเรื่องนี้ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)คิดขึ้นมาเอง

เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งบอกว่ามี เขาก็บอกว่ามีอำนาจไม่มุฏลัก(ไม่เบ็ดเสร็จ) ซึ่งเริ่มที่จะบิดเบือน นี่คือพฤติกรรมของปุโรหิตของบนีอิสรออีล ซึ่งมีอยู่ในอุมมัติอิสลาม และมีอยู่ในซุนนีเช่นกัน และการมีอยู่ในชีอะฮฺมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะการยอมรับสัจธรรมได้อย่างสมบูรณ์นั้น มันต้องการองค์ประกอบและปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่าง กว่าจะยอมรับสัจธรรมได้ ดังนั้นตัวอย่างจากเรื่องราวมุบาฮะละฮฺบ่งชี้ว่า แม้มนุษย์จะไปถึงขั้นการสัมผัสจิตได้ เช่นบาทหลวงคริสต์เตียนแห่งนัจญรอนแล้ว ก็ยังไม่ยอมจำนนแก่สัจธรรม ทั้งๆที่รู้แล้วว่า อัลลอฮฺ(ซบ)อยู่กับฝ่ายโน้น แต่ก็ยังไม่ยอมรับ แม้แต่อุมมัตอิสลาม ที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น ที่ได้เห็นนูรอนียะฮฺ (นูร)ของอะฮฺลุลบัยต(อ) จากการบอกเล่าของบนีอิสรออีล พวกเขาอาจไม่เห็นก็ได้ แต่การที่พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์มุบาฮะละฮฺ ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆเลย หลังจากนั้น บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์มุบาฮาละฮ์ที่เป็นอุมมัติของท่านนบี(ศ็อลฯ)จำนวนมาก ได้แสดงพฤติกรรมที่เหมือนว่าเขาไม่ยอมรับเหตุการณ์มุบาฮะละฮฺ กล่าวคือ เขาเป็นศัตรูกับบรรดาอะฮฺลุลบัยต(อ)หลังจากการวะฟาตของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)

 

ดังนั้น เราจะต้องระมัดสิ่งต่างๆเหล่านี้ ทุกๆย่างก้าวของมนุษย์นั้นมีโอกาสที่จะพลาดพลั้งได้ “ซีรอต็อลมุสตากีม”นั้น บางกว่าเส้นผมและคมกว่าใบมีดโกน ถ้าการเคารพภักดีของเขาไม่เป็นการเคารพภักดีอัลลอฮฺ(ซบ)อย่างแท้จริงแล้ว วันหนึ่งเขาอาจเป็นแบบคริสต์เตียนแห่งนัจญรอนก็เป็นได้ ถึงแม้จะมีจิตสัมผัสแต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ยังประโยชน์ใดๆกับพวกเขาเลย

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม