ทำไมต้องประชาชาติของอิมามฮูเซ็น(อ)?

ทำไมต้องประชาชาติของอิมามฮูเซ็น(อ)?


“เพราะสามารถแสดงออกถึงความจำเพาะเจาะจง เป็นพิเศษแตกต่างจากทั่วไป” เป็นคำตอบเบื้องต้น เมื่อผมถูกเพื่อนที่เป็นอาจารย์ถามว่า ทำไมถึงโพสต์ ว่า "เราคือประชาชาติของอิมามฮูเซ็น(อ.)" ทั้งๆที่ควรจะเป็นประชาชาติของนบีมูฮำหมัด(ศ็อลฯ) ผมจึงต้องอธิบายเพิ่มเติมตามความรู้ความเข้าใจเล็กๆน้อยๆที่มีอยู่


ประการแรก ประชาชาติของฮูเซ็นกับประชาชาติมูฮำหมัด คนละประชาชาติหรือไม่? ตอบได้เลยว่า ไม่ เพราะเมื่อพิจารณารายละเอียดของ“ฮูเซ็น” ก็ต้องตั้งคำถามต่อ ว่า ฮูเซ็นคือใคร ? เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ? เกิดและตายที่ไหน? มีกิจวัตรอย่างไร ? ใช้ชีวิตเยี่ยงใคร ? และต้องมาดูต่อว่า สถานภาพของฮูเซ็นในอิสลามเป็นอย่างไร ในประเด็นนี้ ท่านศาสดาของอิสลาม บอกไว้อย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ท่านนบี(ซล)บอกว่า “ฮูเซ็นเป็นหัวหน้าชายหนุ่มแห่งสวนสวรรค์” แน่นอนบุคคลในระดับเป็น หัวหน้าชาวสวรรค์ ย่อมไม่ต้องสงสัยเลยว่า ใครจะเข้าไปอยู่ตรงนั้นได้ จะต้องทำอะไรมาบ้าง หรือ ท่านนบี(ศ็อลฯ)ยังบอกอีกว่า “ ฮูเซ็นคือประทีป(ตะเกียง)ส่องทางนำ” บุคคลระดับที่นบีแนะนำว่า เป็นแสงสว่างที่ส่องทางนำ(อัลฮูดา) ย่อมไม่ใช่ผู้ที่จะส่องไปทางอื่นแน่นอน หรือถ้าจะพูดภาษาบ้านๆ อาจบอกได้ว่า นบีกำลังสื่อให้เราเห็นว่า “ฮูเซ็นเป็นคนถือตะเกียง ถือไฟฉายนำเดินในที่มืด ถ้าพวกคุณไม่เดินตามคนนี้ พวกคุณก็เดินหลงหรือไปไหนไม่ได้แน่นอน


ประการที่สอง คำว่า ประชาชาติของนบีมูฮำหมัด(ซล) เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วในฐานะคนที่เป็นมุสลิม เป็นคำทั่วไป เหมือนกับเราบอกว่า ฉันเป็นทหาร เป็นข้าราชการ เป็นเกษตรกร. แต่ถ้าเราต้องการบอกให้เฉพาะเจาะจงลงไปอีก ในการเป็นของฉันนั้น ฉันเป็น ทหารบก ทหารอากาศ น่ะ หรือเป็นข้าราชการพลเรือน กระทรวง โน่น นี่ นั้น
ทีนี้ เมื่อเป็นทหารบกแล้ว เรายังแยกย่อยลงลึกไปอีกว่า เป็น ทหารบกสังกัดทหารราบ และในทหารราบยังเป็น เป็นหน่วยรบพิเศษ และในหน่วยรบพิเศษนี้เรายังเป็นรบพิเศษที่ถนัดรบในเมือง หรือต่างแดน ก็ว่ากันไป หรือถ้าเป็นอิสลาม เป็นประชาชาติของนบีแล้ว ก็ยังต้องแยกไปอีกว่า เป็นอะหลิลซุนนะห์วัลญามาอะห์ สำนักฟิกก์ ของ ซาฟีอีหรือ ฮานาฟี หรือ สำนักคิดด้าน อูศูลลุดดีด สำนัก อัชชาอีเราะห์ หรือ ซาลาฟี หรือ มาตูรีดี หรือจะเอาแบบเรียกรวมๆว่าเป็น วาฮาบีไม่ใช่วาฮาบี ฯลฯ คือสรุปแล้ว ถึงแม้จะใช้คำว่าประชาชาติของนบีมูฮำหมัด ก็ยังไม่สามารถบอกตัวตนได้ชัดเจน ว่ามีทัศนะด้านฟิกก์แบบไหน. ทัศนะด้านเตาฮีดแบบไหน เวลายืนละหมาด จะกอดอกตรงไหน ตรงเอว หรือใต้ราวนม หรือ กลางอกใต้คอ หรือจะเยื้องซ้ายหรือตรงกลาง


ทั้งนี้เพื่อบอกตัวตนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น ในขณะที่เราเป็นประชาชาติของมูฮำหมัด(ซล)อยู่แล้ว แต่อยากจะบอกตัวตนให้ชัดเจนไปอีก เราจึงบอกเฉพาะเจาะจงไปว่า เราเป็นสำนักของอิมามฮูเซ็น แล้วสำนักนี้มีความโดดเด่นในเรื่องอะไรล่ะ? หากพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า สำนักนี้ เน้นเรื่อง การต่อสู้กับการกดขี่ การญิฮาดเพื่อดำรงไว้ซึ่งอิสลามอันบริสุทธิ์ การเป็นชะฮีด เมื่อเราบอกว่าเราคือประชาชาติของฮูเซ็น มันจึงเท่ากับว่าเราบอกว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร


ก่อนจะแยกย้ายลากลับกัน ผมได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมตอบไป ก็เพื่อให้คนอื่นๆให้ความสนใจต่อ “ฮูเซ็น” ทำไมผู้คนมากมายทั่วโลกให้ความสนใจต่อวีรกรรมของฮูเซ็น เช่น ท่านมหาตมะ คานธี ชาวฮินดู ผู้ปลดแอกอินเดีย จากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ผู้เป็นแบบอย่างการต่อสู้ที่เรียกว่า “อหิงสา” ได้กล่าวสำนึกบุญคุณในวีรกรรมของฮูเซ็นว่า


“ฉันได้เรียนรู้จากฮูเซ็น ถึงวิธีการที่จะได้รับชัยชนะในสภาพที่ถูกอธรรมและถูกคนขี่”


และยังมีบรรดาบุคคลชั้นนำระดับโลกอีกหลากหลายสาขาวิชาการได้กล่าวยกย่องวีรกรรมของ “ฮูเซ็น” แต่น่าเสียดายที่มุสลิมบางส่วนกลับไม่สนใจ ซ้ำร้ายยังพยายามปกปิด วีรกรรมของท่าน หรือแม้แต่คุณเอง(ผมหมายถึงอาจารย์ที่คุยกับผม) ทำอิบาดะห์มากมาย เพื่อหวังจะเข้าสวรรค์ แต่กลับไม่รู้จัก #หัวหน้าชาวสวรรค์ คุณขอดุอาจากอัลเลาะห์ให้คุณอยู่ในทางนำ(อัลฮูดา) แต่คุณไมรู้จักคนถือ #ประทีปแห่งทางนำ คุณใช้คำว่า อิมามนำหน้าชื่อคนอื่นๆได้ แต่คุณกลับเรียก อิมามฮูเซ็น (อ) ว่า ฮูเซ็นบ้าง ท่านฮูเซ็นบ้าง อยู่นั้นแหละ แม้แต่เรียกขานคุณยัง ซอเล็ม(กดขี่)ต่อสถานภาพของท่านเลย...


Cr. อิสกันดาร์ บินมูฮัมหมัดนูฮฺ