กัรบะลา อาชูรอ คือบทเรียนแห่งการแข่งขันและการรีบรุดสู่ความดีงาม

กัรบะลา อาชูรอ คือบทเรียนแห่งการแข่งขันและการรีบรุดสู่ความดีงาม


พระองค์อัลลอฮ(ซบ)ได้ทรงตรัสว่า :


فَاسْتَبِقُوا الْخَيْراتِ إِلَى اللَّهِ مَرْجِعُكُمْ جَميعاً
 
“ดังนั้น พวกเจ้าจงรีบรุดนำหน้ากันในความดีงามทั้งหลายเถิด ยังอัลลอฮ์นั้นคือการกลับคืนของพวกเจ้าทั้งมวล” (อัลกุรอาน บทอัลมาอิดะฮ์ โองการที่ 48)                
 ในสนามศึกแห่งกัรบะลา สหายและผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ทุกคนรู้ดีว่า พวกเขาจะต้องเป็นชะฮีดลงในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่า นั่นคือการพิทักษ์ปกป้องหลักธรรมแห่งอิสลาม ปกป้องท่านอิมามฮุเซน (อ.) และครอบครัวของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) และนั่นคือความดีงามและความสำเร็จขั้นสูงสุดในชีวิตของตน พวกเขาไม่ลังเลและประวิงเวลาที่จะให้การช่วยเหลือและสนองตอบเจตนารมณ์และคำบัญชาของท่าน
ตัวอย่างการรีบรุดสู่ความดีในหมู่ผู้ช่วยเหลือท่านอิมามฮุเซน (อ.)
       วะฮับ บินอับดุลลอฮ์ กัลบี : หรือที่รู้จักกันในนาม “วะฮับ นัศรอนี” หนึ่งในผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ซึ่งตามการบันทึกของนักประวัติศาสตร์บางคน ตัวเขา มารดาของเขาและภรรยาของเขาเป็นชาวคริสต์ (นัศรอนี) แต่ในเส้นทางกัรบะลา ในตำบลซะอ์ละบะฮ์ บุคคลทั้งสามได้เข้ารับอิสลามโดยการเชิญชวนของท่านอิมามฮุเซน (อ.)
       ในวันอาชูรอ วะฮับ นัศรอนี มีอายุเพียง 25 ปี และเพิ่งผ่านการแต่งงานมาเพียง 17 วัน เขาได้ออกสู่สนามรบเป็นคนแรกๆ หลังจากการต่อสู้อย่างเต็มที่และสังหารศัตรูจำนวนหนึ่งลงได้ เขาได้กลับเขาไปยังกระโจมที่พัก ไปหามารดาและภรรยาของเขา ซึ่งร่วมอยู่ในกัรบะลาด้วย เขากล่าวกับมารดาของเขาว่า “ท่านพอใจจาก (การกระทำของ) ฉันแล้วใช่ไหม?” มารดากล่าวว่า “ฉันจะยังไม่พอใจจากเจ้า จนกว่าเจ้าจะถูกสังหารลงต่อเบื้องหน้าของท่านอิมามฮุเซน (อ.)”
       ภรรยาของเขาได้กล่าวขึ้นว่า “ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ท่านอย่าได้ทำให้ฉันต้องจำพรากจากท่านเลย เพราะหัวใจของฉันไม่อาจจะอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดได้” มารดาของเขากล่าวว่า “ลูกรักของแม่ อย่าได้ฟังคำขอร้องของภรรยาเจ้าเลย จงกลับออกไปต่อสู้เคียงข้างบุตรชายของบุตรีของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) เถิด เพื่อเจ้าจะได้รับชะฟาอัตจากตาของท่านในวันกิยามะฮ์”
 
       เขาได้กลับออกไปสู่สนามรบและทำการต่อสู้ต่อไป ในช่วงที่แขนทั้งสองข้างของเขาถูกฟันจนขาดนั้น ภรรยาของเขาได้ขว้างเสากระโจมที่พักและวิ่งออกไปหาเขา และกล่าวว่า “ขอพลีพ่อและแม่ของฉันเพื่อท่าน! ท่านจงต่อสู้ในทางของผู้บริสุทธิ์แห่งฮะรัม ของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ศ็อลฯ) เถิด”
      วะฮับ ขอให้ภรรยาของตนเองกลับเข้าไปยังกระโจมที่พัก แต่นางได้กล่าวว่า “ฉันจะไม่เข้าไปอย่างเด็ดขาด นอกจากฉันจะถูกสังหารลงพร้อมกับท่านท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวว่า :


جُزیتم مِنْ أَهْلِ بیتٍ خیراً إرْجعی إلی النساء یرحمك اللّه

“ขอให้พวกเจ้าจงได้รับการตอบแทนความดีงามจากอะฮ์ลุลบัยติ์ด้วยเถิด เธอจงกลับเข้าไปยังกลุ่มบรรดาสตรีเถิด ของอัลลอฮ์ทรงเมตตาเธอ”
ภรรยาของวะฮับจึงกลับเข้าไป แต่วะฮับยังคงอยู่ในสนามรบจนกระทั่งเขาเป็นชะฮีดลง ในรายงานจากอบูมักนัฟ เขาสามารถสังหารศัตรูได้ 50 คน และบางรายงานกล่าวว่าถึง 100 คน

ขอขอบคุณ เว็บไซต์ซอฮิบซะมาน