ฮูซัยนา กัรบาลา อาชูรอ ตอนที่ 3

ฮูซัยนา กัรบาลา อาชูรอ ตอนที่ 3

 

การละหมาดและการขอดุอา
หากปราศจากซอลาวาตแก่ท่านนบี,ท่านอะลี,ท่านหญิงฟาติมะฮ์,ท่านฮาซันและท่านฮูเซน อิบาดัตทั้งสองไม่ถูกยอมรับจริงหรือ

อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَأَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا

แท้จริง อัลเลาะฮ์และมวลมะลาอิกะฮ์ ทำการ”ซอลาวาต”แก่นบี

โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงซอลาวาตแก่นบี และจงให้สลามแก่นบี อย่างจริงจัง

ซูเราะฮ์อัลอะห์ซาบ อายัตที่ 56

อิหม่ามอัลบะฆ่อวี ตายฮ.ศ. 516 อธิบายอายัตนี้ว่า

((แท้จริง อัลเลาะฮ์และมวลมะลาอิกะฮ์ ทำการ”ซอลาวาต”แก่นบี
โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงซอลาวาตแก่นบี และจงให้สลามแก่นบี อย่างจริงจัง))

อัลลอฮ์ ซอลาวาตแก่นบี หมายถึง อัลลอฮ์ทรงยกย่องนบี

มะลาอิกะฮ์ ซอลาวาตแก่นบี หมายถึง มะลาอิกะฮ์ ขอพรแก่นบี

บรรดาผู้ศรัทธา ซอลาวาตแก่นบี หมายถึง สรรเสริญขอพรแก่นบี

1.#ท่านกะอับบินอุจญะเราะฮ์(ซอฮาบะฮ์ ตาย52)เล่าว่า

فَقُلْنَا: يَا رَسُولَ اللَّهِ، كَيْفَ الصَّلاَةُ عَلَيْكُمْ أَهْلَ البَيْتِ، فَإِنَّ اللَّهَ قَدْ عَلَّمَنَا كَيْفَ نُسَلِّمُ عَلَيْكُمْ

พวกเรากล่าวว่า (แสดงถึงซอฮาบะฮ์หลายคน) ยารอซูลัลลอฮ์ เราจะซอละวาตให้พวกท่านอะฮ์ลุลบัยต์อย่างไรหรือ
เพราะอัลลอฮ์ทรงสอนเราให้รู้แล้วว่าจะสลามพวกท่านอย่างไร

ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า
พวกท่านจงกล่าวว่า (แสดงว่าแสดงคำสั่งนี้คือฮุกุ่มครอบคลุมมุสลิมทุกคน)

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ، كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إِبْرَاهِيمَ، وَعَلَى آلِ إِبْرَاهِيمَ، إِنَّكَ حَمِيدٌ مَجِيدٌ
اللَّهُمَّ بَارِكْ  عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ، كَمَا بَارَكْتَ عَلَى إِبْرَاهِيمَ، وَعَلَى آلِ إِبْرَاهِيمَ إِنَّكَ حَمِيدٌ مَجِيدٌ

คำอ่าน อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา มุหัมมัด วะอะลา “อาลี่มุหัมมัด”, กะมาศ็อลลัยตะ อะลาอิบรอฮีม วะอะลา อาลิอิบรอฮีม อินนะกะ หะมีดุมมะญีด
อัลลอฮุมมะ บาริก อะลา มุหัมมัด วะอะลา อาลี่ มุหัมมัด, กะมา บาร็อกตะ อะลา อิบรอฮีม วะอะลา อาลี่อิบรอฮีม อินนะกะ หะมีดดุม มะญีด

ความหมาย “โอ้อัลลอฮ์ โปรดซอลาวาตแด่มุหัมมัดและ  >อาลี่มุหัมมัด<
เช่นที่พระองค์ได้ซาลาวาตแด่อิบรอฮีมและอาลี่อิบรอฮีม แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ได้รับการสรรเสริญ ผู้ทรงประเสริฐยิ่ง”

โอ้อัลลอฮ์ โปรดประทานบารอกัตแด่มุหัมมัดและ”อาลี่มุหัมมัด” เช่นที่พระองค์ประทานบารอกัตแด่อิบรอฮีมและอาลี่อิบรอฮีม
แท้จริงพระองค์นั้นทรงยิ่งด้วยการสรรเสริญและบารมีอันสูงส่ง

อิหม่ามบะฆ่อวีย์กล่าวว่า ฮะดีษนี้ เป็นฮะดีษ มุตฟะกุน อะลัยฮิ(ทั้งบุคอรีย์และมุสลิม) ถือว่าซอฮิฮ์

ดู กิตาบ ชัรฮุซ-ซุนนะฮ์ เล่ม 2 หน้า 315 ฮะดีษที่ 681

อัซซะฮะบีกล่าวว่า : อิหม่ามบะฆ่อวีย์ คือ อัลลามะฮ์ ,ฮาฟิซกุรอ่าน, ชัยคุลอิสลาม, มุห์ยิซซุนนะฮ์, สังกัดมัซฮับชาฟิอีย์,นักตัฟซีรกุรอ่าน, ผู้แต่งตำรามากมาย เช่น กิตาบชัรฮุซซุนนะฮ์

ดู สิยัร อะอ์ลามุน นุบะลาอ์ เล่ม 19 หน้า 439

สิ่งที่นบีสอนซอลาวาตแก่บรรดาซอฮาบะฮ์นั้นมาจากอัลลอฮ์ ตะอาลา เพราะ อัลลอฮ์ ตรัสว่า

وَمَا يَنْطِقُ عَنِ الْهَوَى  إِنْ هُوَ إِلَّا وَحْيٌ يُوحَى

และเขามิได้พูดตามอารมณ์  มันมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นวะฮี ที่ถูกประทานลงมา

2.อาลี่มุฮัมมัดคือใคร

ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ เล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้กล่าวกับท่านหญิงฟาติมะฮ์ว่า

ائْتِينِي بِزَوْجِكِ وَابْنَيْكِ فَجَاءَتْ بِهِمْ، فَأَلْقَى عَلَيْهِمْ كِسَاءً فَدَكِيًّا، قَالَتْ: ثُمَّ وَضَعَ يَدَهُ عَلَيْهِ ثُمَّ قَالَ

เธอจงไปพาสามีของเธอ(อาลี) และลูกชายทั้งสองของเธอ(ฮาซัน,ฮุเซน)มาหาฉันที แล้วฟาติมะฮ์ได้ไปพาพวกเขามา
ท่านรอซูลได้นำผ้ากีซาฟะดั๊กมาคลุมพวกเขา แล้วท่านเอามือของท่านวางไว้บนผ้านั้น จากนั้นท่านได้กล่าวว่า

اللَّهُمَّ إِنَّ هَؤُلَاءِ آلُ مُحَمَّدٍ، فَاجْعَلْ صَلَوَاتِكَ وَبَرَكَاتِكَ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ، إِنَّكَ حَمِيدٌ مَجِيدٌ

โอ้อัลลอฮ์ แท้จริง #พวกเขาเหล่านี้(อาลี,ฟาติมะฮ์,ฮาซัน,ฮูเซน)คือ >อาลี่มุฮัมมัด<

ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ ได้เล่าว่า

فَرَفَعْتُ الْكِسَاءَ لِأَدْخُلَ مَعَهُمْ، فَجَذَبَهُ مِنْ يَدِي وَقَالَ: إِنَّكِ عَلَى خَيْرٍ

แล้วฉันได้ยกผ้ากีซาขึ้นเพื่อฉันจะเข้าไปอยู่กับพวกเขาด้วย แล้วท่านรอซูลได้ดึงผ้านั้นไปจากมือของฉัน และท่านกล่าวว่า แท้จริงเธออบู่บนความดี

ดู ฟะฎออิลุซ ซอฮาบะฮ์ เล่ม 2 : 602 ฮะดีษที่ 1029
เชควะซียุลลอฮ์อับบาสกล่าวว่า ฮาซัน ลิฆ็อยริฮี
และมุสนัดอะหมัด เล่ม 6 : 323 ฮะดีษที่ 26789 เชคอัรนะฮูตีกล่าวว่า ฮะดีษ ซอฮิฮ์

3.อัชเชากานีแต่งตำราฟิกฮ์ الدرر البهية อัดดุร่อรุล บะฮียะฮ์
ต่อมาอัลกุนูญี อัลบุคอรี ตายฮ.ศ.1307 ได้แต่งตำราอธิบายชื่อ الروضة الندية شرح الدرر البهية อัลเราะเฎาะตุน นะดียะฮ์ ชัรฮุ อัดดุร่อรุล บะฮียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 90 ว่า
وذهب الشافعي وحده إلى وجوبها (الصلاة على النبي)في التشهد الأخير فإن لم يصل لم تصح صلاته 1    

อิหม่ามชาฟิอีย์มีทัศนะเพียงคนเดียวว่า ซอลาวาตนบีคือวายิบในการอ่านตะชะฮุดครั้งสุดท้าย ดังนั้นหากไม่ได้ซอลาวาต การละหมาดของเขาถือว่าไม่เซาะฮ์

อัลลามะฮ์กุนูญีอัลบุคอรี ได้อธิบายเสริมเชิงอรรถที่ 1 ว่า

هذا هو الحق فإن الله تعالى أمرنا بالصلاة على النبي بقوله: {يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيماً}

นี่คือทัศนะที่ถูกต้อง เพราะว่าอัลลอฮ์ตะอาลาได้สั่งพวกเราให้ซะลาวาตนบี ด้วยอายัตนี้(โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงซอลาวาตแก่นบี และจงให้สลามแก่นบี อย่างจริงจัง)
ซอฮาบะฮ์สอบถามนบีถึงวิธีซอลาวาตที่ถูกสั่งให้ปฏิบัติ นบีได้สอนซอฮาบะฮ์ด้วยรูปแบบการซอลาวาตที่มะอ์รู๊ฟ
เพราะอายัตนี้สั่งให้ซอละวาตนบี หลังอ่านตะชะฮุด

فكان سؤالهم وبيانه لهم ثم مواظبتُهم على ما أمروا تفسيراً للأمر الوارد في القرآن وهو من أقوى الأدلة على الوجوب

ซอฮาบะฮ์ถามและนบีอธิบายให้พวกเขาฟัง ซอฮาบะฮ์ก็ทำแบบนั้นมาตลอดตามที่ถูกสั่งใช้ให้ทำ เป็นการตัฟซีรคำสั่งในอายัตนั้น นี่คือหลักฐานแข็งแรงที่สุดที่บ่งบอกว่า วายิบต้องซอลาวาต


สิ่งที่เราได้รับคือ

1.ท่านนบี(ศ)อธิบายว่า อาลี่มุฮัมมัดคือ ท่านหญิงฟาติมะฮ์,อิม่ามอาลี,อิม่ามฮาซัน,อิมามฮูเซน

2. อัลลอฮ์ทรงซอลาวาตแก่นบีมุฮัมมัด,ท่านหญิงฟาติมะฮ์,อิม่ามอาลี,อิม่ามฮาซัน,อิมามฮูเซน

3.มวลมลาอิกะฮ์ ซอลาวาต-ขอดุอาแก่นบีมุฮัมมัด,ท่านหญิงฟาติมะฮ์,อิม่ามอาลี,อิม่ามฮาซัน,อิมามฮูเซน

4.บรรดามุสลิมถูกสั่งให้ ทำการซอลาวาต-ขอดุอาแก่นบีมุฮัมมัด,ท่านหญิงฟาติมะฮ์,อิม่ามอาลี,อิม่ามฮาซัน,อิมามฮูเซนในละหมาด ด้วยหลักฐานจากอัลกุรอ่านซูเราะฮ์อัลอะห์ซาบ อายัตที่ 56

5. อิหม่ามชาฟิอีย์ถือว่า การซอลาวาตแก่นบีมุฮัมมัด,ท่านหญิงฟาติมะฮ์,อิม่ามอาลี,อิม่ามฮาซัน,อิมามฮูเซนในละหมาดคือวายิบในละหมาด ใครไม่อ่าน ละหมาดของเขาโมฆะ

6. ความสำคัญของ(อาลี่มุฮัมมัด) ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า

إِنَّ أَوَّلَ مَا يُحَاسَبُ النَّاسُ بِهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ مِنْ أَعْمَالِهِمُ الصَّلَاةُ

สิ่งแรกที่มนุษย์จะถูกไต่สวนในวันกิยามะฮ์ จากอามั้ลต่างๆของพวกเขาคือการละหมาด  นมาซที่ไม่มีซอลาวาตถือว่าไม่เซาะฮ์
อิม่ามอะลีเล่าว่า
ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า

كُلُّ دُعَاءٍ مَحْجُوبٌ حَتَّى يُصَلَّى عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ

ทุกดุอาจะถูกปิดกั้น(ในการยอมรับ)จากฟากฟ้า จนกว่า ผู้ขอดุอาจะซอละวาตแก่นบีมุฮัมมัดและอาลี่มุฮัมมัด

ดูมัจญ์มะอุซ ซะวาอิด เล่ม  10 : 160 ฮะดีษที่ 17278
อัลฮัยษะมีกล่าวว่า บรรดานักรายงานฮะดีษนี้ เชื่อถือได้
เชคอัลบานีกล่าวว่า ฮะดีษนี้ซอฮิฮ์ ดูซอฮีฮุลญามิ๊อ์ ฮะดีษที่ 4523

ดุอาไม่ถูกยกไปยังอัลลอฮ์ ยกเว้นต้องมีซอลาวาตคู่กับดุอานั้น เพราะซอลาวาตคือ วะซีละฮ์ ที่ทำให้ดุอามุสตะญับ

ละหมาดคืออิบาดัต เงื่อนไขความถูกต้องคือ ต้องซอลาวาต

ดุอาคืออิบาดัต เงื่อนไขถูกยอมรับคือ ต้องซอลาวาต

สองอิบาดัตนี้หากปราศจากการซอลาวาต ก็ไม่เซาะฮ์ คือ ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่ได้

คำถามคือ คุณคิดว่า อิม่ามฮูเซน มีความสำคัญต่อการทำอิบาดัตวายิบและมุสตะฮับของคุณไหม?

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ