อาชูรอ คือ การฟื้นฟูค่านิยมแห่งความเป็นมนุษย์
 
"ค่านิยมอันสูงส่งแห่งขบวนการอาชูรอ"

"และจะทรงให้เกียรติยศแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงยังความอัปยศแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ "(ซูเราะฮ์ อาลิ อิมรอน โองการที่ 26)

 เรื่องราวทางประวัติศาสตร์บางเรื่องเกิดขึ้นและจบลงกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานต่อคนรุ่นหลัง  บางเรื่องราวอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน  และมีมิติที่ทำให้คนรุ่นหลังทราบถึงความเป็นมาในอดีต   แต่เรื่องราวแห่งอาชูรอไม่สามารถตีกรอบด้วยกับกาลเวลาและสถานที่   ในปัจจุบันเรื่องราวนี้ยังขยายวงกว้างออกไปด้วยครอบคลุมดินแดน  ชาติพันธุ์และวัฒนธรรมที่แตกต่าง อีกทั้งยังเป็นเสมือนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตและยังมีลมหายใจ  มิได้เป็นเพียงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ให้อ่านเท่านั้น  เนื่องจากเป้าหมายและอุดมการณ์ของอิมามฮุเซน(อ.)ได้ผ่านกาลเวลา  ผ่านยุคสมัยการปกครองต่างๆ  เป็นเรื่องราวที่เป็นเสมือนเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนให้บรรดานักต่อสู้ ได้นำไปเป็นแนวทางและแบบอย่างในการต่อสู้กับผู้ที่อธรรมและกดขี่  เป็นเรื่องราวที่ยังตราตรึงในหัวใจของผู้คนที่มีความรักต่อลูกหลานของท่านศาสดา   

   ในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาภายหลังจากเหตุการณ์วันอาชูรอบนผืนแผ่นดินกัรบาลา เหล่าผู้ศรัทธาหลายต่อหลายคน ในหลายยุคสมัย ต่างพยายามบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านการกระทำในรูปแบบของการรำลึกต่างๆ ตามแต่สถานการณ์และโอกาสที่เหมาะสม  แม้ว่าจะถูกทำลายล้างจากฝ่ายผู้ปกครอง และผู้มีอำนาจในแต่ละยุคสมัย แต่ทว่าพวกเขาเหล่านี้ก็มิได้หวั่นเกรง ซ้ำยังสามารถส่งต่อเรื่องราว และอุดมการณ์ของอิมามสู่คนรุ่นต่อๆมาได้จวบจนถึงปัจจุบัน   ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเราเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแท้จริง  เมื่อความเชื่อความศรัทธาของเราเป็นทางที่เที่ยงตรงและเต็มเปี่ยมไปด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี อีกทั้งค่านิยมแห่งอาชูรอเป็นค่านิยมที่เป็นสากล  เราจึงไม่ควรปิดตัวเองเป็นเพียงผู้ศรัทธาอยู่แต่ในบ้าน หรือเก็บไว้ในสังคมของเราเท่านั้น เพราะหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการรักษาสาส์นและส่งต่อเรื่องราวของอิมามฮุเซน(อ.)ให้กับคนรุ่นต่อไป

        เมื่อทำการศึกษาเนื้อหาอย่างละเอียดจะพบว่าอุดมการณ์แห่งอาชูรอคือการสร้างมาตรฐานในการสร้างค่านิยมของมนุษย์   ในเรื่องของความรัก ความซื่อสัตย์ ความภักดี  ความเสียสละ ความกล้าหาญ  การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง การต่อสู้กับความอธรรม  การมีจุดยืนในการดำเนินชีวิต  ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งดี ที่แม้อีกข้างฝ่ายหนึ่งจะพยายามให้ความเห็นว่า ค่านิยมความเป็นมนุษย์ไม่มีมาตรฐานตายตัวหากแต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์อีกทั้งพยายามบิดเบือนค่านิยมเหล่านี้ ซึ่งเป็นการสอดแทรกความคิดจากการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากตะวันตก(โดยพยายามที่จะสื่อว่าค่านิยมในความเป็นมนุษย์นั้นไม่มีอยู่จริง โดยอยู่บนพื้นฐานของสัมพัทธนิยม)การได้รับอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้ที่ถือว่าเป็นกระแสความคิดที่พยายามจะครอบงำสังคม หากเราไม่หนักแน่นและไม่เข้าใจถึงหลักความเชื่อความศรัทธาและค่านิยมที่ถูกต้องอย่างแท้จริง เราก็จะไม่สามารถต่อกรกับอิทธิทางความคิดที่สอดแทรกเข้ามาเพื่อลดทอนคุณค่าและค่านิยมของขบวนการอาชูรอจากทุกทิศทางและทุกรูปแบบได้เลย

 มีคำกล่าวว่าแท้จริงแล้วค่านิยมของมนุษย์ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน  บางคนอาจชอบในเรื่องวัตถุ  ชอบในสิ่งที่จับต้องได้  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง อำนาจ ชื่อเสียง และเกียรติยศ  และหาวิธีที่จะได้สิ่งเหล่านั้นมาครอบครองเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง  และเพื่อให้ตนเองได้รับการยอมรับและมีที่ยืนในสังคม  แม้ในบางครั้งการที่จะได้มาซึ่งค่านิยมเหล่านี้ บางคนถึงขั้นต้องขายจิตวิญญาน ขายอุดมการณ์ของตนเอง ไม่สนใจข้อปฏิบัติและหลักคำสอน เพราะความชอบที่มีอยู่ ติดอยู่ในวังวนของโลกแห่งวัตถุเท่านั้น

     
 เมื่อค่านิยมแห่งอาชูรอได้ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่เราทุกคนจะได้เจริญรอยตามแบบอย่างที่สมบูรณ์ในทุกด้านอย่างท่านอิมามฮุเซน(อ.)   ทั้งในเรื่องความเคารพและความศรัทธาต่ออัลลอฮ์  ทั้งในเรื่องของการสร้างค่านิยมในการดำรงชีวิตอย่างมีเกียรติยศอย่างแท้จริงมิใช่เกียรติยศจอมปลอม  เป็นเกียรติยศที่ได้มาจากความเป็นตัวตนของท่านเอง มิได้เป็นเกียรติยศที่ถูกปรุงแต่งขึ้นด้วยกับอำนาจและเงินทอง

     บุรุษผู้ถือกำเนิดมาด้วยกับความสูงส่งในสายเลือดของท่านศาสดา   หากท่านมิได้ออกมาแสดงจุดยืนและต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมที่มืดมิดเสื่อมทรามรวมไปถึงต้องการวางรากฐานค่านิยมในการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของคัมภีร์อัลกุรอาน  คงมีชีวิตที่สุขสบาย มิต้องถูกผู้ปกครองไล่ล่าจนต้องพบกับโศกนาฏกรรมบนแผ่นดินกัรบาลาเช่นนี้   แต่สิ่งที่อิมามได้กระทำนั้นมิใช่เพื่อตัวท่านเอง  หากแต่เพื่อเราทุกคน
เพื่อให้รับรู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงพร้อมทั้งตอบรับต่อเสียงเรียกร้องของท่าน .... ..... ลับบัยกะยาฮุเซน

                               ฮุซัยนียะห์ซัยยิดุชชุฮะดาอ์
                   มุรฮัรรอม ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 1444