มุหัรรอม เดือนแสดงความรักต่อท่านฮูเซนหลานรักท่านศาสดา(ศ)

มุหัรรอม เดือนแสดงความรักต่อท่านฮูเซนหลานรักท่านศาสดา(ศ)

 

อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า

قُلْ لَا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى وَمَنْ يَقْتَرِفْ حَسَنَةً نَزِدْ لَهُ فِيهَا حُسْنًا

จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ฉันไม่ได้ขอค่าตอบแทนใดๆ เพื่อการนี้ ยกเว้น การ”มะวัดดะฮ์”ในญาติสนิท และผู้ใดทำความดี เราจะเพิ่มพูนความดีในนั้นให้แก่เขา

ซูเราะฮ์ อัชชูรอ อายัตที่ 23

1. มุฮัมมัด บินอับดุลลอฮ์ รายงานจากหัรบ์ บินอัลฮาซัน อัตเตาะฮาน จากฮูเซนอัลอัชก็อร จากเกส บินอัลรอบิ๊อ์ จากอัลอะอ์มัช จากสะอีด บินญุเบร จากท่านอิบนุอับบาส เล่าว่า

: لَمَّا نَزَلَتْ: {قُلْ لَا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى} قَالُوا : يَا رَسُولَ اللهِ، وَمَنْ قَرَابَتُكَ هَؤُلَاءِ الَّذِينَ وَجَبَتْ عَلَيْنَا مَوَدَّتُهُمْ ؟ قَالَ : عَلِيٌّ وَفَاطِمَةُ وَابْنَاهُمَا

ตอนที่อายัต(จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ฉันไม่ได้ขอค่าตอบแทนใดๆ เพื่อการนี้ ยกเว้น การแสดงความรักในญาติสนิท)ประทานลงมา พวกเขากล่าวว่า
โอ้รอซูลุลลอฮ์ ญาติสนิทของท่านคือใคร  ที่เขาเหล่านี้เป็นวายิบต่อเราต้องแสดงความรักพวกเขา
ท่านตอบว่าคือ อาลี , ฟาติมะฮ์ และบุตรชายทั้งสองของเขา(ฮาซันและฮูเซน)

มุอ์ญัม กะบีร ผู้แต่ง ตอบรอนี ตาย 360 เล่ม 3 หน้า 47 ฮะดีษที่ 2641

มัจญ์มะอุซซะวาอิด เล่ม 7 หน้า 229 ฮะดีษที่ 11325
นูรุดดีนอัลฮัยษะมี ตาย 807 กล่าวว่า
รายงานโดยตอบรอนี จากคำรายงานของหัรบ์ บินอัลฮาซันอัตเตาะฮาน จากฮูเซนอัลอัชก็อร จากเกส บินอัลรอบิ๊อ์
และพวกเขาทั้งหมดเชื่อถือได้ และนักวิชาการกลุ่มหนึ่งได้วิจารณ์ว่าพวกเขาดออีฟ และนักรายงานที่เหลือเชื่อถือได้

หนังสือ อัซซอวาอิก อัลมุห์ริเกาะฮ์ หน้า 487
อิบนุอะญัร อัลฮัยตะมี ตาย 974 กล่าวว่า

أخرج أحمد والطبراني وابن أبي حاتم والحاكم عن ابن عباس :  أن هذه الآية لما نزلت قالوا يا رسول الله من قرابتك هؤلاء الذين وجبت علينا مودتهم قال علي وفاطمة وابناهما
وفي سنده شيعي غال لكنه صدوق

ฮะดีษนี้รายงานโดยอิหม่ามอะหมัด,ตอบรอนี,อิบนุอบีฮาติมและอัลฮากิม จากท่านอิบนุอับบาส เล่าว่า ตอนอายัต(อัลมะวัดดะฮ์)นี้ประทานลง พวกเขากล่าวว่า โอ้รอซูลุลลอฮ์ ญาติสนิทของท่านคือใคร  ที่เขาเหล่านี้เป็นวายิบต่อเราต้องแสดงความรักพวกเขา
ท่านตอบว่าคือ อาลี , ฟาติมะฮ์ และบุตรชายทั้งสองของเขา(ฮาซันและฮูเซน)
อิบนุอะญัร อัลฮัยตะมีกล่าวว่า  ในสายรายงานนี้มีชีอะฮ์ฆูล๊าตคนหนึ่งแต่เขาเชื่อถือได้ในการรายงาน

2.วันที่อิม่ามอาลี(อ)เสียชีวิต อิมามฮาซัน(อ)ได้ปราศรัยกับประชาชน(ส่วนหนึ่งจากคุตบะฮ์คือ) อิม่ามฮาซัน(อ)ได้กล่าวว่า

وَأَنَا مِنْ أَهْلِ الْبَيْتِ الَّذِينَ افْتَرَضَ اللَّهُ - عَزَّ وَجَلَّ - مَوَدَّتَهُمْ وَوِلَايَتَهُمْ؛ فَقَالَ فِيمَا أُنْزِلَ عَلَى مُحَمَّدٍ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ -: {قُلْ لَا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى}

และฉันคืออะฮ์ลุลบัยต์คนหนึ่ง ที่อัลลอฮ์ อัซซะวะญัล ทรงกำหนดฟัรฎูให้แสดงความจงรักภักดีต่อพวกเขา แล้วท่านได้กล่าวว่าในสิ่งนี้ได้ถูกประทานลงมายังท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ว่า (จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ฉันไม่ได้ขอค่าตอบแทนใดๆ เพื่อการนี้ ยกเว้น การแสดงความรักในญาติสนิท)
มัจญ์มะอุซซะวาอิด เล่ม 9 หน้า 202 ฮะดีษที่ 14798
นูรุดดีนอัลฮัยษะมี ตาย 807 กล่าวว่า

وَرَوَاهُ أَحْمَدُ بِاخْتِصَارٍ كَثِيرٍ، وَإِسْنَادُ أَحْمَدَ، وَبَعْضُ طُرُقِ الْبَزَّارِ، وَالطَّبَرَانِيِّ فِي الْكَبِيرِ، حِسَانٌ

รายงานโดยอิหม่ามอะหมัดแบบสั้นมาก และสายรายงานของอิหม่าม กับบางสายรายงานของอัลบัซซารและอัตตอบรอนีในมุอ์ญัมกะบีรนั้น ฮาซัน(ดี)

3.ตอนอิม่ามอาลีซัยนุลอาบิดีน บุตรอิม่ามฮูเซน ถูกจับเป็นเชลยคุมตัวมาที่ดามัสกัส มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นมากล่าวว่า อัลฮัมดุลิลละฮ์ ขอบคุณอัลลอฮ์ที่ทรงสังหารพวกเจ้าและทรงตัดเสาของความฟิตนะฮ์

อิม่ามอาลีซัยนุลอาบิดีน(อ)ได้กล่าวกับชายคนนั้นว่า

أقرأت القرآن ؟ قال نعم قال أقرأت آل حم ؟ قال : قرأت القرآن ولم أقرأ آل حم ، قال ما قرأت ( قُلْ لاَّ أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلاَّ الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى )  قال : وإنكم لأنتم هم ؟ قال : نعم
 ท่านได้อ่านอัลกุรอ่านไหม เขาตอบว่าอ่านสิ อิม่ามถามว่า ท่านได้อ่าน (ซูเราะฮ์)อาลี่ฮามีม ไหม  เขาตอบว่าฉันอ่านกุรอ่าน แล้วทำไมฉันจะไม่เคยอ่าน อาลี่ฮามีม ล่ะ อิม่ามกล่าวว่า ท่านไม่เคยอ่านอายัตนี้หรือ(จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ฉันไม่ได้ขอค่าตอบแทนใดๆ เพื่อการนี้ ยกเว้น การแสดงความรักในญาติสนิท) เขาตอบว่า พวกเจ้าคือ พวกเขากระนั้นหรือ ? อิม่ามตอบว่า ใช่แล้ว
ตัฟซีร อิบนุกะษีร เล่ม 4 หน้า 108

อาจมีอุละมาอ์กล่าวว่า
1.สายรายงานนี้ ดออีฟเชื่อถือไม่ได้  
2. ฮะดีษที่มาของอายัตมะวัดดะฮ์นี้ขัดกับฮะดีษในซออิฮ์บุคอรี

#แต่ประเด็นสำคัญคือ
การแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบี ถือเป็น”ตักลีฟวายิบ” ต่อ มุสลิมทุกคน  เพราะมีฮะดีษซอฮิฮ์ รายงานว่า ท่านนบี(ศ)ได้สั่งเสียว่า
أُذَكِّرُكُمْ اللَّهَ فِي أَهْلِ بَيْتِي

ฉันเตือนพวกท่านจากอัลลอฮ์เกี่ยวกับอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน

และท่านนบี(ศ)กล่าวว่า

وَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ، لَا يُبْغِضُنَا أَهْلَ الْبَيْتِ أَحَدٌ إِلَّا أَكَبَّهُ اللَّهُ فِي النَّارِ

ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า    จะไม่มีคนใดที่ชิงชังเรา   อะฮ์ลุลบัยต์   เว้นแต่   เขาจะต้องถูกนำเข้าไปใน ไฟนรก

ซิลซิละฮ์ อัลอะฮาดีษ อัซซอฮีฮะฮ์   เล่ม  5  : 487 ฮะดีษที่  2488
ซอฮิฮ์ อิบนิ ฮิบบาน เล่ม 15 หน้า 435 ฮะดีษที่ 6978
เชคอัรนะอูตีกล่าวว่า สายรายงานฮะดีษ ฮาซัน

ฮะดีษที่นบีมุฮัมมัด(ศ)กำชับให้แสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบีมีอีกมากมาย
บางรายงานเจาะจงชื่ออาลี,ฟาติมะฮ์,ฮาซัน,ฮูเซน
และบางรายงานกล่าวครอบคลุมถึงบนีฮาชิม

การแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบีนี้มีความลี้ลับซ่อนอยู่ ที่ชวนเราให้แสวงหาคำตอบ และอัลลอฮ์กับรอซูลได้ตรัสเอาไว้  อินชาอัลลอฮ์

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ