เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

72 บทเรียนอาชูรอ บทเรียนที่ 10

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

72 บทเรียนอาชูรอ บทเรียนที่ 10 


นักปฏิวัติต้องรู้จักเวลาและท่วงทำนองของการเคลื่อนไหว!!!

การเป็นผู้ศรัทธา การเป็นนักปฏิวัติ จะต้องรู้เวลา และท่วงทำนองของการเคลื่อนไหว  หลายเรื่อง หลายโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับอิสลามมาจากผู้ศรัทธาและนักปฏิวัติ ที่ไม่รู้จักเวลาว่า เมื่อไหร่เราถึงจะเคลื่อนไหวและ

 หลังจากเหตุการณ์กัรบาลาอฺ ผ่านไปราว 2 ปี  มีการลุกฮือของอุมมัตอิสลามเกิดขึ้นตามหัวเมืองต่างๆ ทั้งในมะดีนะฮ  กูฟะฮ และอีกหลายหัวเมือง เพื่อต่อต้านการปกครองของบนีอุมมัยยะฮฺ

นักประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า จำนวนผู้ที่ลุกฮือ จากต่างกรรมต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างเวลา หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมแห่งกัรบาลาอฺนั้น ส่งผลทำให้มีคนตายไปกว่า 50,000 คน ในมะดีนะฮ์ก็เป็นหมื่นคน ในกูฟะฮ์ก็เป็นหมื่นคน แต่กลับเป็น 50,000 คน ที่แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ เพราะเป็นการลุกขึ้นสู้ ที่ผิดเงื่อนไขของเวลา!

ผิดเงื่อนไขของเวลาในที่นี่  หมายถึง  ไม่ได้ลุกสู้ในตอนที่อิมามฮูเซน(อ) สู้ … อิมามฮูเซน(อ)ไม่ได้ลุกขึ้นมาสู้แบบเงียบ ๆ ตั้งกลุ่มเงียบ ๆ ค่อย ๆ ขับเคลื่อนขบวนไปยังมักกะฮ์ และจากมักกะฮ์มุ่งสู่กัรบาลา ไม่ใช่เช่นนั้น.....  ทว่า อิมามฮูเซน(อ)นั้น ได้ประกาศอย่างชัดแจ้ง อิมามฮูเซน(อ) มีคุตบะห์ต่าง ๆ อย่างมากมาย อิมามฮูเซน(อ) เรียกได้ว่า แวะเกือบทุกหมู่บ้าน ที่สามารถแวะได้ ตลอดเส้นทางจากมะดีนะฮ์สู่มักกะฮ์ จากมักกะฮ์สู่กัรบาลาอฺ

แต่ในวันนั้น อุมมัตของท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) ไม่ได้ลุกขึ้นสู้ตามคำเรียกร้องของท่านอิมามฮูเซน(อ) เพราะคิดเอาเอง ‘เอาล่ะ อาจจะยังไม่มีความจำเป็น ไม่น่ารีบร้อน รอให้ยาซีดแบบนี้ก่อน รอให้ยาซีดแบบนู้นก่อน รอให้ยาซีดแบบนั้นก่อน’

ดังนั้น เมื่อจะถึงตอนที่จะลุกสู้ ก็สายไปเสียแล้ว.....  และโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่กว่าก็เกิดขึ้น เมื่อชาวมะดีนะฮ์ลุกขึ้นสู้ในวันที่อิมามฮูเซน(อ) ไม่อยู่แล้ว   มะดีนะฮ์ก็ถูกถล่ม ชาวเมืองมะดีนะฮ์ตายเป็นหมื่น ๆ คน ผู้หญิงมะดีนะฮ์ถูกข่มขืนเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งนักประวัติศาสตร์ จนถึงอูลามาอฺยุคนี้ได้กล่าวว่า หนึ่งในต้นตอและก่อกำเนิดวะฮาบีย์ ก็คือบรรดาลูกซีนาที่ถูกข่มขืนในวันนั้นแหละ หนึ่งในบรรพบุรุษของเหล่าวะฮาบีย์ทั้งหมด ที่อยู่ในแผ่นดินฮิญาซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพราะไม่ได้ลุกขึ้นสู้ในเวลาเดียวกับที่ผู้นำลุกขึ้นสู้

เช่นเดียวกัน ในยุคนี้ก็เหมือนกัน ยุคนี้เกิดเหตุการณ์มากมายที่มุสลิมจะต้องลุกขึ้นสู้ ลุกขึ้นปราบ ลุกขึ้นทำอะไรก็ตามแต่ ก่อนที่มันจะสายเกินแก้ ดังนั้น สิ่งหนึ่ง ที่กัรบาลาอฺให้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่เลย คือ เงื่อนไขของเวลา นักสู้จะต้องไม่เลือกเวลาเอง แต่จะต้องรู้ว่า เมื่อไรถึงเวลาที่เราจะต้องสู้
ถ้าเราไม่รู้ แน่นอน แผ่นดินนี้ไม่เคยว่างเว้นจากฮุจญัตของอัลลอฮฺ (ซ.บ) ไม่ว่าฮุจญัตของอัลลอฮฺ(ซ.บ) จะเป็นอิมามมะอฺศูม(อ) โดยตรงจากบรรดาอิมาม 12 ท่าน หรือจะเป็นฮุจญัตของอัลลอฮฺ(ซ.บ) ที่เป็นตัวแทนของบรรดามะอฺศูม(อ)

ดังนั้น การรู้เงื่อนไขของการต่อสู้ เรื่องของเวลา บางครั้งไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับเรา เพียงแต่เราสามารถขับกล่อมจิตวิญญาณของเราอยู่เสมอว่า เราพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ทันที ที่ผู้นำแห่งอัลลอฮฺ ประกาศวันเวลาของการต่อสู้ ประกาศวันเวลาของภารกิจอันนั้น

ในวันนั้น ชาวกูฟะฮ์ อาจจะไม่ต้องใช้เป็นหมื่นคน ทว่า ชาวกูฟะฮ์ เพียงแค่สองสามพันคนก็สามารถสังหารอิบนีซียาด(ล.น) ได้ แต่ในเมื่อพวกเขาไม่สู้ในวันนั้น พวกเขารั้งรอเวลา จนยาซีด(ล.น) ส่งกองทัพเข้ามาเสริมเรื่อย ๆ กระทั่ง สุดท้าย บุคคลเหล่านั้นก็ไม่กล้าสู้

ดังนั้น เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องทำทุกอย่างให้ตรงกับเงื่อนไขของเวลา ในทุกเรื่องของชีวิตที่เกี่ยวกับภารกิจ นี่คือบทเรียนแรก ๆ เลยที่กัรบาลาอฺมอบให้กับมนุษยชาติ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ ซึ่งจริง ๆ แล้วบทเรียนนี้ มันมีมาตลอด....!!!

ซัยยิดสุไลมาน   ฮูซัยนี

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม