อิมามแห่งยุคสมัย จะสามารถพิชิตโลกด้วยผู้ช่วยเหลือ 313 คนได้อย่างไร?

สติปัญญาของมนุษย์ยอมรับได้หรือ ที่อิมามแห่งยุคสมัยจะลุกขึ้นปฏิวัติโลกพร้อมกับสหายจำนวนน้อยนิดของท่าน และจะเผยแพร่ความยุติธรรมไปทั่วโลก ?

นายซาลารี นักวิเคราะห์ชื่อดังกล่าวว่า :
สถาบัน “เจนซา” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบอบการปกครองไซออนิสต์ ฆาตกรสังหารเด็ก  ได้ทำการค้นหาผู้ทรงอิทธิพลและกองกำลังขบวนการต่อสู้อิสลามในตะวันออกกลาง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวชีอะฮ์ มาระยะหนึ่งแล้ว และได้ดำเนินการลอบสังหารพวกเขา
ในบทความล่าสุดที่ถูกตีพิมพ์โดยสถาบันยิวไซออนิสต์ กล่าวว่า: เมื่อนายพลชาวชีอะฮ์อิหร่าน ชื่อ กอเซม สุไลมานี  สามารถเตรียมกองกำลังนักรบ กึ่งทหาร กึ่งกองโจร ในตะวันออกกลาง อีกทั้งได้ขยายอิทธิพลไปยังอเมริกาใต้และแอฟริกา ซึ่งไม่มีกองทัพในระดับโลกใดๆสามารถต้านทานเขาได้ หรือเมื่อกองกำลังที่ดีที่สุดในโลก เช่น กองทัพสหรัฐฯ และอิสราเอล ต้องเผชิญกับการต่อสู้แบบจรรยุทธ์ จนหมดสิ้นหนทาง เหนื่อยล้า  หรือหลายๆครั้งต้องหยุดยิงอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม และก็พ่ายแพ้อย่างอัปยศ ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่า หากมีบุคคลเช่นนี้เพียง 100  คนในโลกนี้ ไว้ในครอบครอง  ซึ่งไม่ใช่ 313 คน  ก็สามารถกล่าวอ้างได้ในความเป็นผู้นำและปกครองทั่วทั้งโลก!!!
สถาบันแห่งนี้ ยังกล่าวอีกว่า: ในขณะที่ไอซิสบุกอิรัก   เคอร์ดิสถานอิรักมีกองทหาร 90,000 นาย  พร้อมอาวุธเบา  กลาง และหนักที่หลากหลาย  แต่ก็พ่ายแพ้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและล่มสลายไปในที่สุด  ในท้ายที่สุดต้องวิ่งขอความช่วยเหลือจากนายพล  กอเซม สุไลมานี   ซึ่งนายพลกอเซม ได้เข้าสู่เคอร์ดิสถานอิรักด้วยทหารเพียง 40 นายเพื่อเผชิญหน้ากับไอซิส
นายบาร์ซานี หัวหน้าเคอร์ดิสถานอิรัก กล่าวว่า เมื่อฉันเห็นนายพลกอเซม และกองกำลังของเขาเพียงแค่40 นาย ก็ถึงกับทรุดลง และพูดว่า แค่40 คน หรือ?   มากันเพียงเท่านี้หรือ?!!!
แต่เมื่อข่าวการปรากฏตัวของนายพลกอเซม ถึงหูของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส  เราก็ได้ประจักษ์ในสิ่งที่แทบไม่เชื่อสายตา เพราะเมื่อกลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ยินข่าวการปรากฏตัวของนายพลกอเซม พวกเขาได้ร่นถอยทัพทางยุทธศาสตร์ไปสองสามกิโลเมตร
ที่น่าสนใจคือ ทั้งสี่สิบคนนี้ มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในแต่ละด้านของกิจการทหาร เช่น
 "หน่วยสืบราชการลับ
ปืนครก  
เครื่องมือไร้สาย  
นักอ่านแผนที่
นักวางแผนการรบในเมือง
นักวางแผนการรบแบบกองโจร
นักวางแผนการรบในเวลากลางคืนและนักวางแผนนักรบแบบแนวราบ ฯลฯ
หลังจากชัยชนะเหนือไอซิส  นาย บาร์ซานีพูดว่า: ฉันเพิ่งเข้าใจว่า ทำไมจึงมีการพูดถึงกองทัพเพียงแค่คนเดียวในทุกที่
 เรามีทหาร 90,000 นาย พ่ายแพ้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เคอร์ดิสถานของอิรักต้องพบกับความหายนะ  แต่บุคคลหนึ่งที่มีกองกำลังที่ดีที่สุดแค่สี่สิบนาย สามารถเอาชนะไอซิสได้สำเร็จ สามารถ ผลักดันกองกำลังติดอาวุธร่นถอยและยึดเมืองเคอร์ดิสถานกลับคืนมา!
หมายเหตุ: นายพลชาวอิหร่านเพียงคนเดียวที่ อยาตุลเลาะห์ ซิสตานี ร้องไห้เมื่อได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเขา (เป็นชะฮีด) และส่งข้อความแสดงความเสียใจและประกาศไว้ทุกข์ในที่สาธารณะ นั่นคือนายพลกอเซมและอาบู มุฮันเดส  สหายรักของเขา
ใช่แล้ว... เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาถึงการมาของอิมามมะฮ์ดี (อ ) ผู้มาโปรดพร้อมสหาย 313 ท่าน  พระองค์ไม่ได้หมายถึงฉันและคนอื่นเช่นฉัน แต่หมายถึงผู้ที่บรรลุถึงระดับสูงสุดของความเชื่อมั่นในตนเองและได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าด้วยเนตรแห่งธรรม สายตาแห่งหัวใจ   อีกทั้งมีคุณลักษณะแห่งการเชื่อฟัง น้อมรับคำสั่ง อุทิศพลีตราบชีวิตจะหาไม่  และอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้นำ (ตัวแทน) แห่งยุคสมัยอย่างดุษณี
เมื่อมีผู้บัญชาการที่มีอุดมการณ์เยี่ยงเหล่าชะฮีด อยู่ภายใต้คำสั่งของผู้นำสูงสุดและสอดคล้องกับอุดมการณ์อันสูงส่งของอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้มาโปรด เช่น นายพลกอเซม สุไลมานี  นายพลซาลามี  ฮุญาจี  ชาห์ลาอี  ฮัมมะดานี  ฯลฯ เราจึงสามารถรับรู้ได้เลยว่า
ใช่แล้ว... สหาย 313 คน  ภายใต้ร่มธงแห่งอิสลามอันบริสุทธิ์และการปกครองของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้มาโปรดนั้น จะสามารถยึดครองโลก  ช่วยโลกพ้นจากโรคภัย อันตรายต่างๆ  พ้นจากความเดือดร้อน พ้นจากความอยุติธรรม พ้นจากความทุกข์ทรมานและการกดขี่ทุกรูปแบบ
ท้ายที่สุด สามารถสถาปนารัฐแห่งความยุติธรรมของอิมามอะลี (อ) อย่างเป็นรูปธรรม
หวังว่าด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า  ความพยายาม และการปฏิบัติเพื่อได้รับความโปรดปรานในเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม  ปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนา สนับสนุนผู้ถูกกดขี่และเผชิญหน้ากับผู้กดขี่ เราจะอยู่ในหมู่มิตรสหายผู้ช่วยเหลือท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้มาโปรด ..... อินชาอัลลอฮ์

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี