คิรบะฮ์แห่งเมืองชาม?

คิรบะฮ์แห่งเมืองชาม?


خربة الشام คิรบะฮ์ แปลว่าบ้านร้าง ผุพังไม่มีคนใช้พักอาศัย  ซึ่งบ้านหลังนี้ยาซีดได้ใช้เป็นที่คุมขังครอบครัว
ลูกหลานของท่านหญิงฟาติมะฮ์ กล่าวคือคุกยังดีเกินไปสำหรับอะฮ์ลุลบัยต์นบี ยาซีดจึงเอาไปขังในสถานที่ๆเป็นซากปรักหักพัง
มเหสีของกษัตริย์ยาซีด มาเยี่ยมท่านหญิงซัยหนับ ณ. ดามัสกัส  
นางฮินด์ เป็นบุตรีของ อับดุลเลาะฮ์ บิน อามิร เมื่อ อับดุลเลาะฮ์ บิน อามิร (บิดาของฮินด์)เสียชีวิต  
นางฮินด์ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของอิม่ามอาลี(อ) นางใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของอิม่ามอาลีเป็นเวลาหลายปี ทำหน้าที่รับใช้คนในบ้านของอิม่ามอาลี
เมื่ออิม่ามอาลีถูกลอบสังหารในมัสยิดขณะละหมาด
จนเสียชีวิต  ฮินด์ก็ได้ย้ายมาเป็นคนรับใช้ในบ้านของอิม่ามฮาซัน บุตรชายคนโตของอิม่ามอาลี
ฝ่ายมุอาวียะฮ์ ได้รู้ข่าวว่า ฮินด์เป็นสตรีสวยงามจึงได้มาสู่ขอนางให้กับยาซีด
ลูกชาย  
หลังจากฮินด์ได้สมรสกับยาซีดแล้ว นางจึงย้ายมาอยู่กับยาซีดที่ซีเรีย
แม้ฮินด์จะย้ายมาอยู่ที่ซีเรียแล้วก็ตาม แต่นางก็พยายามสอบถามข่าวคราวของอิม่ามฮาซันและอิม่ามฮูเซนเสมอจากบรรดาผู้ที่เดินทางกลับมาจากนครมะดีนะฮ์
ตอนที่อิม่ามฮูเซนถูกสังหารที่กัรบะลาอ์นางไม่รู้ข่าว
เลย
เมื่อครอบครัวอิม่ามฮูเซนที่ตกเป็นเชลย ถูกส่งตัวมาให้ยาซีดที่เมืองช่าม
คนรับใช้ของนางฮินด์ได้มาเล่าให้นางฟังว่า มีเชลยสตรีถูกส่งมาให้พระสวามีของท่าน แต่ฉันไม่รู้ว่า พวกเขามาจากที่ไหน ท่านน่าจะไปหาพวกเชลยนั้น และแสดงตัวต่อพวกนาง  ฮินด์จึงลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าที่โอ้อ่าที่สุด คลุมฮิญาบอย่างงดงามและสวมเสื้อคลุมทับอีกทีนึง  ฮินด์บอกคนรับใช้ว่าให้พาเก้าอี้ไปให้นางนั่งด้วย เพื่อนางจะไม่นั่งลงกับพื้นดิน  เมื่อฮินด์ไปขออนุญาติกับยาซีดไปพบเชลย
ยาซีดจะทำอย่างไร จะไปด้วย หรือห้ามนางไม่ให้ไป
เพราะยาซีดกลัวว่า ภรรยาจะเห็นหน้าเชลยและรู้ว่า เชลยเหล่านั้นคือลูกหลานของอิม่ามอาลี เนื่องจากฮินด์เคยเนคนรับใช้ครอบครัวของ
อิม่ามอาลีมาเป็นเวลาหลายปี
และยาซีดก็รู้ว่าภรรยามีความรักต่อครอบครัว
ของอิม่ามอาลีมาก เพราะฮินด์ได้รับความรักความเอ็นดู การให้เกียรติจากครอบครัวของอิม่ามอาลีเป็นอย่างดี รวมทั้งการปฏิบัติกับนางด้วยมารยาทที่สูงส่ง
แต่ยาซีดก็รักและเกรงใจภรรยาคนนี้มาก เขาได้ขอร้องว่า ขอให้นางออกไปเยี่ยมเชลยหลังอาทิตย์ตกดิน
พอพลบค่ำ  นางฮินด์จึงออกไปพร้อมกับข้าราชบริพาล มีคนรับใช้ถือโคมไฟส่องทางให้นางอย่างสว่างไสว
ขณะที่นางเดินเข้ามา ท่านหญิงซัยนับ บุตรสาวของท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้แลเห็นนางแต่ไกล นางจึงกระซิบน้องสาวอุมมุกุลซูมว่า นางรู้จักผู้หญิงคนนั้นไหม
อุมมุกูลซูม – น้องไม่รู้จักนางหรอกค่ะ
ซัยนับ – นางเคยเป็นคนรับใช้ของเรา นางชื่อ ฮินด์ บินติ อับดุลเลาะฮ์
อุมมุกุลซูม นิ่งแล้วนั่งก้มหน้าลง ส่วนซัยนับก็ก้มหน้าลงพื้น
ฮินด์ตรงเข้ามา และนั่งลงบนเก้าอี้ ใกล้กับท่านหญิงซัยนับ โดยถือว่า นางคือหัวหน้าของเชลยสตรี
ฮินด์  - โอ้พี่สาว ฉันเห็นเธอนั่งก้มหน้า ทำไมหรือ  ซัยนับนิ่งไม่ตอบสิ่งใด
ฮินด์กล่าวว่า  พี่สาว พวกท่านมาจากบ้านเมืองไหนหรือ
ซัยนับ – เรามาจากนคร มะดีนะฮ์
เมื่อฮินด์ได้ยินการเอ่ยถึงชื่อเมืองมะดีนะฮ์ นางลุกจากเก้าอี้ลงมานั่งที่พื้นดิน และกล่าวว่า ขอความสันติอันประเสริฐสุดพึงมีแด่ชาวเมืองมะดีนะฮ์
ซัยนับ- เธอลุกจากเก้าอี้ลงมานั่งบนพื้นเพื่ออะไร
ฮินด์ – เพื่อแสดงการยกย่องให้เกียรติต่อผู้ที่อาศัยอยู่ใน
แผ่นดินมะดีนะฮ์
ฮินด์ – พี่สาว ฉันต้องการสอบถามเธอถึง ครอบครัวหนึ่งที่อยู่ในมะดีนะฮ์
ซัยนับ- จงถามสิ่งที่เธอต้องการเถิด
ฮินด์ – ฉันจะถามเธอถึงครอบครัวของอิม่ามอาลี
ซัยนับ – เธอรู้จักครอบครัวของอิม่ามอาลีมาจากที่ไหนหรือ
ฮินด์ร้องไห้ออกมาและกล่าวว่า ฉันเคยเป็นคนรับใช้พวกเขามาก่อน
ซัยนับ – แล้วเธอจะถามถึงคนไหนล่ะ
ฮินด์ – ฉันขอถามเธอถึง ท่านฮูเซน พี่สาวน้องสาวของเขา รวมทั้งบรรดาลูกของเขา
ขอถามเธอถึงบรรดาลูกของอิม่ามอาลีที่ยังชีวิต  
ขอถามเธอถึงท่านหญิงซัยนับ นายของฉัน ถึงอุมมุกุลซูม น้องสาวของนาง และขอถามเธอถึงบรรดาลูกของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
ณ.บัดนั้นเอง ซัยนับจึงร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก และนางได้กล่าวว่า
โอ้ฮินด์เอ๋ย  หากเธอถามถึงครอบครัวของอิม่ามอาลี แน่นอนเราคือผู้ที่ครอบครัวนั้นที่กำลังเผชิญกับ
มุซีบัตอยู่
หากเธอถามถึงท่านฮูเซน ศรีษะของเขาอยู่กับยาซีด สามีเธอ
หากเธอถามถึง อับบาสและบรรดาลูกของอิม่ามอาลี เราได้ทิ้งร่างถูกตัดไร้ศรีษะของพวกเขานอน
เกลื่อนอยู่ที่แผ่นดินกัรบะลาอ์
หากเธอถามถึงซัยนุลอาบิดีน นี่ไงเขานอนป่วยหนักอยู่จนลุกไม่ขึ้น
หากเธอถามถึง ซัยนับ ฉันนี่ไงคือ ซัยนับ บุตรสาวของอิม่ามอาลี ส่วนนี่คืออุมมุกุลซูม และบรรดาสตรีกับเด็กๆเหล่านี้คือ บุตรหลานของท่านหญิงฟาติมะฮ์
เมื่อฮินด์ได้สดับฟังคำพูดของท่านหญิงซัยนับเช่นนั้น นางจึงส่งเสียงร้องไห้ อุทรณ์ว่า
วา อิมามาฮ์ วา สัยยิดาฮ์ วา ฮูซัยนาฮ์
โอ้อิม่ามของฉัน โอ้นายของฉัน โอ้ท่านฮูเซนของฉัน
มาตรว่า ฉันอยากดวงตามือบอดก่อนที่จะมาถึงวันนี้ ฉันจะได้มองไม่เห็นลูกหลานของ
ท่านหญิงฟาติมะฮ์ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้  จากนั้นฮินด์ได้คว้าก้อนหินทุบศรีษะตัวเองจนเลือดอาบหน้าและสลบไป

مقتل الخوارزمي 74: 2، عوالم الإمام الحسين : 414، رياض القدس 292 : 2

บทความโดย เชคอับดุลญะวาด สว่างวรรณ