อิบนุ ตัยมียะฮ์ ยืนยันว่า ยะซีด บุตรมุอาวียะฮ์ ไม่ได้ออกคำสั่ง “ฆ่า” ท่านอิมามฮุเซน อ.

 

อิบนิ ตัยมียะฮ์ พ่อทูลหัวของชาววะฮ์ฮาบี ได้บิดเบือนประวัติศาสตร์อิสลาม และออกมาปกป้องคนชั่วช้าอย่างยะซีด ผู้ออกคำสั่งให้สังหารท่านอิมามฮุเซน อ. ว่า “ยะซีด ไม่ได้ออกคำสั่งให้ฆ่าท่านอิมามฮุเซน อ. แต่ ยะซีด ได้ทำตามคำแนะนำของบิดา(มุอาวียะฮ์) คือการให้เกียรติต่ออิมามฮุเซน อ. และยกย่องท่าน อ. !!!!

وَالَّذِي نَقَلَهُ غَيْرُ وَاحِدٍ أَنَّ يَزِيدَ لَمْ يَأْمُرْ بِقَتْلِ الْحُسَيْنِ، وَلَا كَانَ لَهُ غَرَضٌ فِي ذَلِكَ، بَلْ كَانَ يَخْتَارُ أَنْ يُكْرِمَهُ وَيُعَظِّمَهُ، منهاج السنه، ج4، ص557

إِنَّ يَزِيدَ لَمْ يَأْمُرْ بِقَتْلِ الْحُسَيْنِ بِاتِّفَاقِ أَهْلِ النَّقْلِ

อิบนิตัยมียะฮ์ ได้อ้างมติของปวงปราชญ์ ในเรื่องที่เขาอ้าง แต่กลับไม่ยกหลักฐานใดๆเลยว่า นักประวัติศาสตร์ หรือ นักรายงานฮะดิษคนใดที่ยืนยันว่า “ยะซีดไม่ได้ออกคำสั่งฆ่าท่านอิมามฮุเซน อ.” แต่เมื่อเรากลับไปดูประวัติศาสตร์ก็ประจักษ์ชัดว่า สิ่งที่นักประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึกไว้กับสิ่งที่ อิบนิ ตัยมียะฮ์ อ้างลอยๆไว้นั้น ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน เพราะนักประวัติศาสตร์อิสลามยืนยันไว้ว่า “ผู้ที่ออกคำสั่งให้ตัดศีรษะของท่านอิมามฮุเซน อ. คือ ยะซีด บุตร มุอาวียะฮ์ ตัวอย่าง

[1]- ท่านยะกูบีย์ นักประวัติศาสตร์ชาวซุนนี่ห์ บันทึกเหตุการณ์ในช่วงนั้นไว้ในหนังสือตะรีคุล ยะกูบีย์ เล่ม 2 หน้า 241 ว่า :
เมื่อมุอาวียะฮ์ ได้เสียชีวิตลง ยะซีด ผู้เป็นลูกได้ขึ้นสู่บังลังก์ และสิ่งแรกที่ยะซีด ได้กระทำก็คือ ได้ส่งสาส์นด่วนไปยังเจ้าเมืองมะดีนะห์ วะลิด บิน อุกบะฮ์ ว่า

: في تأريخ اليعقوبي أن يزيد
كتب إلى الوليد بن عتبة بن أبي سفيان وهو عامل المدينة، إذا أتاك كتابي هذا فأحضر الحسين بن علي وعبد الله بن الزبير، فخذهما بالبيعة لي فإن امتنعا فاضرب أعناقهما، وابعث لي برؤسهما

ความว่า : เมื่อสาส์นฉบับนี้ของฉันได้ถึงมายังเจ้า ให้เจ้าจงไปนำตัวฮุเซน บุตร อะลี และ อับดุลลอฮ์ บุตร ซุเบร มา และจงเอาบัยอะฮ์(การแสดงความภักดี)จากเขาทั้งสองที่มีต่อฉัน(ยะซีด)ให้จงได้ และหากแม้นว่าเขาทั้งสองขัดขืน(ไม่ยอมมอบบัยอะฮ์)ก็จงบั่นต้นคอของเขาทั้งสองเสีย และจัดส่งศีรษะของเขาทั้งสองมาให้ฉันเเทน

…….ไหนว่า ยะซีด ไม่ได้ออกคำสั่งให้ฆ่าท่านอิมามฮุเซน อ. ละ ท่านอิบนิตัยมียะอ์ ?!!

 

[2]- ท่านอิบนุ อับบาส ได้ตอบจดหมายของยะซีด ในจดหมายระบุชัดเจนว่า ยะซีด คือ ผู้สังหารท่านอิมามฮุเซน อ. พร้อมกับเด็กหนุ่มของบนีฮาชิม

كَيْفَ وَقَدْ قَتَلْتَ حُسَيْنًا وَفِتْيَانَ عَبْدِ الْمُطَّلِبِ مَصَابِيحَ الْهُدَى وَنُجُومَ الْأَعْلَامِ غَادَرَتْهُمْ خُيُولُكَ بِأَمْرِكَ فِي صَعِيدٍ وَاحِدٍ مُرَمَّلِينَ بِالدِّمَاءِ، مَسْلُوبِينَ بِالْعَرَاءِ، (مَقْتُولِينَ بِالظِّمَاءِ، لَا مُكَفَّنِينَ وَلَا مُوَسَّدِينَ) ، تَسْفِي عَلَيْهِمُ الرِّيَاحُ، وَيَنْشَى بِهِمْ عَرْجُ الْبِطَاحِ
الكامل في التاريخ : ابن الأثير، عزالدین جلد : 3 صفحه : 224

(จะให้ยอมรับ และปกป้องเจ้าได้อย่างไรกัน ?) และแน่นอนเมื่อเจ้าได้สังหารฮุเซน และเด็กหนุ่มจากตระกูลของอับดุลมุฎฎอลิบ ทั้งๆ(ที่เจ้าก็รู้ดีว่า)พวกเขาคือ ประทีปแห่งทางนำ ,ดวงดาว(ทางนำ)ที่เจิดจรัส (แต่)เพียงหนึ่งวันทหารของเจ้า ด้วยกับคำสั่งของเจ้าได้ทำการสังหารพวกเขาจนเลือดท่วมปฐพี และปล่อยทิ้งพวกเขาไว้ด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า โดยไม่ห่อกะฟั่น และฝังพวกเขา

[3]- อุบัยดิลละฮ์ อิบนิ ซียาด ผู้ปกครองกูฟะฮ์ ได้กล่าวว่า :

أَمَّا قَتْلِي الْحُسَيْنَ فَإِنَّهُ أَشَارَ إِلَيَّ يَزِيدُ بِقَتْلِهِ أَوْ قَتْلِي فَاخْتَرْتُ قَتْلَهُ
الكامل في التاريخ ج 3 ، ص 474

กรณีที่ฉันสังหารท่านฮูเซน นั่นก็เพราะว่า ท่านยะซีดได้มีคำสั่งมายังฉันว่า ให้ฉันสังหารเขา หรือ สังหารตัวฉันเอง ดังนั้น “ฉันจึงเลือกสังหารเขา” ดูหนังสือ อัลกามิล ฟิต ตารีค ผู้แต่ง อิบนุลอะษีร เล่ม 2 หน้า 199

 

หากทำความเข้าดีๆต่อคำพูดนี้ของอุบัยดิลละฮ์ จะเห็นได้ชัดเจนว่า “ยะซีดได้ออกคำสั่งให้อุบัยดิลละฮ์สังหารท่านอิมามฮุเซน อ.” และหากอุบัยดิลละฮ์ขัดขืนโทษของเขา ก็คือ การถูกประหารชีวิตเสียเอง

บทความโดย เอกภาพ
ที่มา เว็บไซต์มูบาฮาละฮ์
https://www.mubahala.net/2334