เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่8

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน)   ตอนที่8


เหตุผลข้อที่ 4 -: เรามีความวิตกต่อบรรดานักการศาสนาของมุสลิมเป็นอย่างมาก เพราะบรรดานักการศาสนาแห่งมหาลัยอัซฮัร นักการศาสนาแห่งอิรัก และนักการศาสนาแห่งอิหร่านนั้นเปรียบเสมือนกำแพงที่คอยขวางกั้น แนวทางการทำงานที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของเรา   พวกเขาไม่ค่อยมีความรู้ในแบบแผนการดำเนินชีวิตยุคสมัยใหม่ แต่สิ่งเดียวที่พวกเขารับรู้และเป็นเป้าหมายสำหรับเขา คือ สวรรค์ที่ อัล-กุรอาน ได้ทรงสัญญาไว้เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามพวกเขาจะไม่มีวันละทิ้งความเชื่อถือและความศรัทธาของเขาอย่างเด็ดขาด , อีกทั้งประชาชนยังเชื่อฟังและปฏิบัติตามเขา และฝ่ายรัฐบาลเอง (ผู้ปกครอง) ก็มีความหวาดกลัวยิ่งต่อบรรดานักการศาสนาเหล่านี้เสมือนกับที่หนูกลัวแมวฉันนั้น
 แม้ว่ามุสลิมชาวอะฮ์ลิลซุนนะฮ์จะถือว่าบรรดาผู้ปกครองทั้งหลาย คือ อุลิลอัมร์ที่จะต้องปฏิบัติตาม แต่สำหรับชาวชีอะฮ์มีความเชื่อว่า บรรดานักการศาสนาเท่านั้นที่มีสิทธิอันชอบธรรมในการปกครองและมีอำนาจอย่างแท้จริง และจะไม่ให้ความสำคัญแก่ระบบการปกครองแบบซุลต่าน(ระบบกษัตริย์)ทั้งสิ้น
 ความแตกต่างระหว่างสองนิกายนี้ มันมิได้ทำให้กระทรวงล่าอาณานิคมโดยเฉพาะบรรดากษัตริย์แห่งอังกฤษหมดกังวลและหวาดวิตกแต่อย่างใด  ดังนั้นทางฝ่ายเราจึงได้มีการจัดสัมมนาอย่างจริงจังเพื่อหาแนวทางที่จะให้ประสบกับความสำเร็จและสามารถพิชิตอุปสรรคปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้ได้ แต่ทว่ากลับเจอกับทางตันเกือบทุกครั้งที่มีการสัมมนา อีกทั้งเมื่อเราได้รับรายงานจากสายต่างๆ ของเราก็ยิ่งทำให้เรานั้นหมดหวังและท้อถอย มันเสมือนกับผลของการประชุมในทุกๆ ครั้งของเราที่ไม่สามารถหาบทสรุปใดๆ ได้เลย
 แต่ทว่าเนื่องจากเราถูกฝึกฝนให้เป็นอุปนิสัยของผู้ที่มีความหวังอยู่เสมอนั้น จึงทำให้เราต้องอดทน มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อที่จะทำงานต่อไป โดยไม่ยอมให้สภาพความสิ้นหวังเหล่านี้มาครอบงำจิตใจของเราเป็นอันขาด
 ข้าพเจ้ายังจำได้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราได้มีการประชุมสัมมนา ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง บรรดานักวิชาการและบาทหลวงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยรวมแล้ว มีผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ ประมาณ 20 คน ใช้เวลาในการประชุม 3 ชั่วโมง โดยที่หาบทสรุปไม่ได้
ทำให้บาทหลวงท่านหนึ่งได้พูดขึ้นมาว่า: จงอย่าท้อถอยและสิ้นหวังเพราะกว่าที่พระเยซูจะได้ทำการปกครองนั้น ทั้งตัวท่านเองและบรรดาสาวกของท่านต้องถูกกดขี่ทารุณกรรมต่างๆ นาๆ เป็นระยะเวลา 300 ปี และเราหวังว่าพระเยซูจะทรงเมตตาต่อเราในการที่จะสามารถขับไล่ผู้ปฏิเสธพระเจ้าทั้งหลายออกจากศูนย์กลางการปกครองเขา ถึงแม้ว่าจะยาวไกลอีก 300 ปีข้างหน้าก็ตาม ดั้งนั้นเราจะต้องเพียบพร้อมทั้งความเชื่อมั่นที่มั่นคงและความอดทนอันทรงกล้าแล้วนำเอาสื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ มาใช้ในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และเข้าไปมีบทบาทอย่างเต็มที่ในบรรดาประเทศมุสลิมทั้งหลายให้ได้ ถึงแม้นว่าความสำเร็จที่จะได้รับนั้นจะต้องใช้เวลานับศตวรรษก็ตามที เพราะสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้เป็นบิดาในการเตรียมพร้อมความสะดวกสบายให้กับบรรดาลูกๆ อยู่เสมอ

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม