เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มารยาทด้านในของการอ่านอัล-กุรอาน

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

มารยาทด้านในของการอ่านอัล-กุรอาน

 

 

ดั่งที่ได้อธิบายผ่านไปแล้วเกี่ยวกับมารยาทด้านนอกของผู้ที่อ่านอัลกุรอานจะต้องพึงระวัง

 

บุคคลใดที่มีเงื่อนไขภายในสมบูรณ์ในการอ่านอัล-กุรอาน เขาจะได้รับประโยชน์ที่สมบูรณ์ที่สุดในการอ่านอัล-กุรอานและได้ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งไม่เกินเลยที่จะพูดว่าอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงขจัดการทดสอบต่าง ๆ ให้รอดพ้นไปจากสังคมเนื่องจากนักอ่านเหล่านี้นั่นเอง (มะฮัจญฺตุลบัยฎอ เล่ม ๒ หน้า ๒๑๘)

 


แต่ในบางครั้งนักอ่านอัล-กุรอานบางคน ให้ความสนใจเฉพาะมารยาทภายนอกของการอ่าน โดยไม่ได้เอาใจใส่ต่อมารยาทภายในพวกเขาจึงไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากการอ่านอัล-กุรอาน เงื่อนไขภายในของการอ่านอัล-กุรอานประกอบด้วย


๑.    การตั้งเจตนาบริสุทธิ์ของผู้อ่านอัล-กุรอาน


ความบริสุทธิ์ใจหมายถึง การกระทำภาระกิจต่าง ๆ เพื่ออัลลอฮฺ (ซบ.) เท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เปรียบเสมือนระหัสแห่งความสำเร็จในทุกการกระทำ และจะทำให้การงานของบุคคลนั้นมีความสูงส่งยิ่งขึ้นไป


แต่ถ้ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ การงานเหล่านั้นก็จะไม่มีคุณค่าและนอกจากจะทำให้มนุษย์ไม่พบกับความสมบูรณ์แล้ว ยังทำให้เขาสภาพจิตภายในมีความตกต่ำอีกต่างหาก


ท่านศาสดา (ซ็อล  ฯ) กล่าวว่า ผู้ใดอ่านอัล-กุรอานเพื่อแสวงหาความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อสร้างความเข้าใจในศาสนา เขาจะได้รับรางวัลตอบแทนเหมือนกับรางวัลทั้งหมดที่ถูกประทานให้มวลมลาอิกะฮฺ บรรดาศาสดา และบรรดาศาสนทูต (วะซาอิลุชชีอะฮฺ เล่ม ๔ หน้า ๘๓๘)


ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า นักอ่านอัล-กุรอานแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่มด้วยกันคือ บางคนอ่านอัล-กุรอานเพื่อจะได้ขึ้นชื่อว่าเขาเป็นนักอ่าน


บางคนเพื่อภาระกิจทางโลกเขาได้อ่านอัล-กุรอาน เพื่อไม่ให้กิจการเหล่านั้นมีอุปสรรค


บางคนอ่่่านอัล-กุรอานเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์สมบูรณ์ในนมาซ ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน (มะฮัจญฺตุลบัยฎออฺ เล่ม ๒ หน้า ๒๑๘)


๒. ความตั้งใจและการเอาใจใส่ในความหมาย


คุณค่าของอิบาดะฮฺอยู่ที่ การตั้งมั่นของจิตใจและการเอาใจใส่ต่ออิบาดะฮฺที่กำลังปฏิบัติ การอ่านอัล-กุรอานเช่นกันจะมีคุณค่าก้ต่อเมื่อผู้อ่านให้ความสำคัญและมีการตั้งใจสูง หมายถึงผู้อ่านต้องรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังสนทนาและอยู่ ณ พระพักตร์ของพระองค์


ความตั้งใจจริงบางครั้งเท่านั้นที่สามารถทำได้อย่างดี ริวายะฮฺจากท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า การอ่านอัล-กุรอานในยามวิกาลที่เงียบสงัดดีที่สุด เนื่องจากว่าช่วงเวลานั้นจิตใจของเราว่างเปล่า (มะฮัจญะตุลบัยฎอ เล่ม ๒ หน้า ๒๒๑)


ริวายะฮฺบางบทได้แนะนำว่า จงหลีกเลี่ยงการอ่านอัล-กุรอานเร็ว ๆ แและจงใจในความหมาย เมื่ออัล-กุรอานกล่าวถึงสวรรค์จงขอสวรรค์จากพระองค์ เมื่อกล่าวถึงนรกจงขอความคุ้มครองจากพระองค์ (อุซูลกาฟียฺ เล่ม ๒ หน้า ๖๑๗) ริวายะฮฺเหล่านี้ได้สอนเราว่า ขณะที่อ่่านอัล-กุรอนจงใส่ใจในความหมาย อ่่านด้วยจิตใจที่นอบน้อมและตั้งใจเพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด


ถ้าบุคคลใดอ่านอัล-กุรอานด้วยความไม่ตั้งใจหรือไม่ใส่ใจในความหมาย เขาก็จะไม่ได้รับสิ่งใดจากอัล-กุรอานนอกเสียจากการเสียเวลาและผลบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการอ่าน


ข้อควรจำ ความตั้งใจในการอ่านหรือการทำจิตใจให้มั่นคงในการอ่าน สามารถทำได้โดยการใส่ใจต่อเงื่อนไขภายนอก เช่น เลือกสถานที่สงบในการอ่าน อ่านช้า ๆ และใช้อัล-กุรอานที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น


๓. การคิดและไตร่ตรอง


อัล-กุรอานเป็นคัมภีร์ที่ประทานลงมาเพื่อชี้นำมนุษย์ ดังนั้น เป้าหมายของการอ่านอัล-กุรอานก็เพื่อสิ่งนี้ ด้วยเหตุนี้ จะเห็นว่าวัตถุประสงค์ที่กล่าวว่าจงอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง หมายถึงการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอัล-กุรอาน ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้อ่านคิดไตร่ตรองในความหมายของอัล-กุรอาน


อัลลอฮฺ (ซบ.) ตรัสถึงเรื่องการไตร่ตรองและพิจารณาความหมายของอัล-กุรอานดังนี้


كِتَابٌأَنزَلْنَاهُ إِلَيْكَ مُبَارَكٌ لِّيَدَّبَّرُوا آيَاتِهِ وَلِيَتَذَكَّرَ أُوْلُواالْأَلْبَابِ


คัมภีร์ (อัลกุรอาน) เราได้ประทานลงมาแก่เจ้าซึ่งมีความจำเริญ เพื่อพวกเขาจะได้พินิจพิจารณาอายาตต่าง ๆ ของอัลกุรอานและเพื่อปวงผู้มีสติปัญญาจะได้ใคร่ครวญ (ซ็อด / ๒๙)


إِنَّاأَنزَلْنَاهُ قُرْآنًاعَرَبِيًّا لَّعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ


แท้จริงพวกเราได้ให้อัลกุรอานแก่เขาเป็นภาษาอาหรับ เพื่อพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด (ยูซุฟ / ๒)


บางครั้งพระองค์ประณามบุคคลที่ไม่ใส่ใจความหมายของอัล-กุรอาน โดยกล่าวว่า


أَفَلَايَتَدَبَّرُونَ الْقُرْآنَ أَمْ عَلَى قُلُوبٍ أَقْفَالُهَا


พวกเขามิได้พิจารณาใคร่ครวญอัลกุรอานดอกหรือ หรือว่าบนหัวใจของพวกเขามีกุญแจหลายดอกคล้องอยู่ (มุฮัมมัด / ๔๘)


ท่านอิมามะลี (อ.) กล่าวว่า จงรู้ไว้เถิดว่าการอ่านอัล-กุรอานที่ไม่มีการไตร่ตรองไม่มีความดีใด ๆ (บิฮารุลอันวารเล่ม ๘๙ หน้า ๒๑๑)


แน่นอนว่าการอ่านอัล-กุรอานที่ไม่มีการพิจารณาในความหมาย ผู้อ่านจะไม่ได้รับทางนำใด ๆ จากอัล-กุรอาน ซึ่งการที่อิมาม (อ.) กล่าวว่าไม่มีความดีใด ๆ ในการอ่านเนื่องจากไม่บรรลุเป้าหมายในการอ่าน


๔.    ความนอบน้อม


จิตวิญญาณของผู้อ่านอัล-กุรอานเนื่องจากมี่ความมักคุ้นกับความหมายของโองการต่าง พวกเขาจึงมีความนอบน้อมถ่อมตนผสมกับความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า ยิ่งมีการรู้จักและมีความสมบูรณ์มากเท่าใด ความนอบน้อมถ่อมตนและความเกรงกลัวก็จะมีมากเท่านั้น


บุคคลที่มีความมักคุ้นกับอัล-กุรอานฐานันดรของพวกเขาจะไปถึงระดับหนึ่งคือ บรรดาโองการต่าง ๆ จะมีอิทธิพลกับพวกเขาและถ่ายทอดออกมาทางใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด เช่น บางครั้งถ้าเป็นโองการประเภทแจ้งข่าวดีพวกเขาจะร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มใจ แต่ถ้าเป็นโองการที่กล่าวถึงการลงโทษพวกเขาจะหลั่งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว การร้องไห้เช่นนี้จะทำให้หัวใจเกิดความสงบและชำระล้างจิตวิญญาณให้สะอาด


อัล-กุรอานได้กล่าวถึงบุคคล ๒ ประเภทเมื่อได้ยินโองการอัล-กุรอานพวกเขาจะเกิดความกลัวและก้มลงกราบพระผู้เป็นเจ้าพร้อมกับร้องไห้ อัล-กุรอานกล่าวว่า


وَيَخِرُّونَ لِلأَذْقَانِ يَبْكُونَ وَيَزِيدُهُمْ خُشُوعًا


และพวกเขาจะหมอบราบจนใบหน้าจรดพื้นพลางร้องไห้ และ (การอ่านโองการ) จะเพิ่มการสำรวมแก่พวกเขา (อิซรอ / ๑๐๙)


บางโองการกล่าวว่า


اَلَمْ يَأْنِ لِلَّذِينَ آمَنُوا أَن تَخْشَعَ قُلُوبُهُمْ لِذِكْرِ اللَّهِ


ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา ที่หัวใจของพวกเขาจะนอบน้อมต่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ   (ฮะดีด / ๑๖)


มีผู้ถามท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ว่าการอ่านอัล-กุรอานของใครดีทีสุด ท่านตอบว่า การอ่านของบุคคลที่เมื่อเราได้ยินเสียงอ่านของเขาแล้ว ทำให้เราเกรงกลัวอัลลอฮฺมากยิ่งขึ้น (มีซานุล อิกมะฮฺ เล่ม ๘ หน้า ๘๙)


ถ้ามีความรู้สึกว่าภาพจิตใจเป็นอุสรรคต่อผลของอัล-กุรอานที่จะเกิดกับเรา วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือ การร้องไห้ซึ่งน้ำตาจะค่อย ๆ ชำระล้างความมืดทึบที่เกาะกุมอยูที่หัวใจและจิวิญญาณจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงเป็นจิตที่มีความนอบน้อมและเกรงกลัวพระผู้เ็ป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น


ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า จงอ่านอัล-กุรอานและร้องไห้ หรือขณะที่อ่านให้อยู่ในสภาพเหมือนคนร้องไห้ (มีซานุลฮิกมะฮฺ เล่ม ๘ หน้า ๘๙ ฮะดีซที่ ๑๖๒๔๓)


ท่านอิบนุอับบาซศานุศิษย์วิบาตัฟซีรที่ยิ่งคนหนึ่งของท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า เมื่ออ่านอัล-กุรอานโองการที่มีซัจดะฮฺวาญิบ ไม่ต้องรีบร้อนลงซัจญฺดะฮฺ ถ้าดวงตาทั้งสองของท่านไม่ร้องไห้ก็จงทำให้หัวใจร้องไห้ (นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ คุฏบะฮฺที่ ๑๙๓)


บางที่ความหมายของการร้องไห้ ณ ที่นี้อาจหมายถึงการนอบน้อมถ่อมตนก็ได้


๕.    ผลบุญที่มากมายกับการกระทำเพี่ยงอย่างเดียว


อิสลามได้แนะนำแนวทางไว้หลายทางด้วยกัน ซึ่งคนเราสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางและพบกับความสมบูรณ์ได้ด้วยทางดังกล่าว ณ ที่นี้จะขออธิบายพอสังเขปเพียงสองทาง ดังนี้


๑. อ่านอัล-กุรอานแทนคนอื่น โดยปกติอมัลวาญิบไม่สามารถทำแทนคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ เช่น ไม่มีใครสามารถนมาซกะฎอแทนเราได้ แต่อมัลมุซตะฮับสามารถทำแทนกันได้ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม ดังนั้น ถ้าเราเนียตอ่านอัล-กุรอานแทนท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) อะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เพือนฝูงและคนใกล้ชิดอื่น ๆ ทั้งผู้ที่ทำแทนและผู้ถูกแทนจะได้รับผลบุญเต็มบริบูรณ์ และนอกจากนั้นแล้วผู้ที่ทำแทนยังได้รับผลบุญอีกมากมายในฐานะที่ได้ทำสิ่งที่เป็นมุซตะฮับ


อีกมุมหนึ่งการทำความดีแทนท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) ย่อมได้รับผลรางวัลตอบแทนแน่นอน เกี่ยวกับเรื่องนี้ริยายะฮฺจำนวนมากมายได้กล่าวยืนยันไว้ (วะซาอิลุชชีอะฮฺ บาบที่ ๑๒ อัน อับวาบิล กะฎอ ฮะดีซที่ ๑-๙)


๒. ฮะีดียะฮฺผลบุญการอ่านอัล-กุรอานให้กับคนอื่น หลังจากอ่านอัล-กุรอานหรือทำสิ่งที่เป็นมุซตะฮับแล้ว สามารถฮะดียะฮฺผลบุญที่ได้รับจากการกระทำนั้นให้กับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) หรือบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) หรือบิดามารดา และคนอื่น ๆ ได้


ริยายะฮฺกล่าวว่ามีบุคคลหนึ่งนามว่า อะลี บิน มุฆีเราะฮฺ ได้ไปหาท่านอิมามมูซากาซิม (อ.) และกล่าวกับท่านอิมามว่า ฉันได้อ่่่านอัล-กุรอานจบหลายครั้งในเดือนเราะมะฎอน เมื่อวันอีดมาถึงฉันได้ฮะดียะฮฺผลบุญของการอ่านจบหนึ่งให้กับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ท่านอิมามอะลี ท่่านหญิงฟาฏิมะฮฺ  ท่านอิมามฮะซัน ท่านอิมามฮุซัยนฺ และอะอิมมะฮฺท่านอื่นจนถึงท่าน การทำเช่นนี้ฉันจะได้รับรางวัลใด ๆ หรือไม่


ท่านอิมามมูซา (อ.) กล่าวว่า รางวัลของท่านคือวันกิยามะฮฺท่านจะได้อยู่ร่วมกับท่านเหล่านี้


มุฆีเราะฮฺ กล่าวว่า อัลลอฮุอักบัร ฉันจะได้รับรางวัลเช่นนี้หรือ


ท่านอิมาม (อ.) กล่าว ๓ ครั้งว่า ใช่ ท่านจะได้รับรางวัลเช่นนี้ (อุซูลกาฟียฺ เล่ม ๒ หน้า ๖๑๘ ฮะดีซที่ ๔, บิฮารุลอันวาร เล่ม ๙๕ หน้า ๕)


ข้อควรจำ การฮะดียะฮฺรางวัลหรือการเป็นตัวแทนในการอ่านอัล-กุรอาน และการปฏิบัติอมัลมุซตะฮับอื่่น ๆ นอกจาำจะได้รับรางวัลมากมายแล้วยังเป็นการเตรียมสำรองการกระทำในกรณีที่อมัลไม่สมบูรณ์ แต่ต้องห่างไกลจากการโ้อ้อวดและการก่อความเสียหาย


๖.    การเข้าใจความจริงของโองการต่าง ๆ


หลังจากได้ไตร่ตรองและพิจารณาความหมายของโองการแล้ว ลำดับต่อไปคือการสร้างความเข้าใจถึงแ่ก่นและความหมายด้านในของโองการ อัล-กุรอานนั้นมีความหมายหลายด้าน เช่น พระลักษณะของอัลลอฮฺ (ซบ.) การเข้าใจแก่นแท้ของโองการเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง


บางครั้งอุปสรรคทั้งภายในและภายนอกเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้มนุษย์ไม่เข้าใจแก่นแท้ของดำรัสแห่งอัลลอฮฺ (ซบ.) ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องขจัดอุปสรรคดังกล่าวให้หมดไป นำจิตใจให้ออกห่างจากการกระซิบกระซาบของมาร การคิดและพิจารณาให้ลุ่มลึก การขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ (ซบ.) เพื่อให้เข้าใจแก่นแท้ของอัล-กุรอาน


หนึ่งในอุปสรรคทึี่ขว้างกั่นไม่ให้เข้าใจความหมายที่เป็นแก่นแท้ของอัล-กุรอานคือ ชัยฏอนมารร้าย ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า ถ้าชัยฏอนไม่สามารถเข้าสู่จิตใจของมนุษย์ได้อย่างง่ายดายแล้วละก็ เราจะได้เห็นด้านในของโลกอย่างแน่นอน (อะฮฺยาอุลูมุดดีน เฆาะซาลี เล่ม ๑ หน้า ๕๑๕)


ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า ภายนอกของอัล-กุรอานนั้นสวยงามตระการตา ส่วนภายในนั้นลุ่มลึกยิ่งนัก (นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ คฏบะฮฺที่ ๑๘)


ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า อัล-กุรอานแบ่งออกเป็น ๔ ส่วนคือ ตัวบทของอัล-กุรอาน สัญลักษณ์ต่าง ๆ ความจริง และแ่ก่นแท้ ตัวบทของอัล-กุรอานนั้นสำหรับประชาชนทั่วไป  สัญลักษณ์ของอัล-กุรอานสำหรับประชาชาติที่เจาะจง ความจริงของอัล-กุรอานสำหรับมวลมิตรของพระองค์ ส่วนแก่นแท้ของอัล-กุรอานสำหรับบรรดาอัมบิยาอฺทั้งหลาย (บิฮารุลอันวาร เล่ม ๙๒ หน้า ๒๐ มีซานุลฮิกมะฮฺ เล่ม ๘ หน้า ๙๔)


๗.    การยกย่องอัล-กุรอาน


นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่า หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัล-กุรอานคือ การให้เกียรติและยกย่องอัล-กุรอานด้วยจิตด้านใน อันเป็นยกย่องทีู่คู่ควรและมีความเหมาะสมยิ่งนักสำหรับผู้พูด ซึ่งได้แก่อัลลอฮฺ (ซบ.) พระผู้อภิบาลผู้ทรงเกรียงไกร


๘. การให้ความพิเศษ


นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่าหนึ่งในมารยาทของการอ่านอัล-กุรอานคือ ต้องคิดว่าอัล-กุรอานกำลังพูดกับเรา เช่น ถ้าได้ยินโองการที่เป็นการสั่งห้ามและสั่งใช้ต้องคิดว่านั่นเป็นการสั่งให้เราทำ


๙.การให้ความสำนึกที่ดี


นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่าหนึ่งในมารยาทของการอ่านอัล-กุรอานคือ ผู้อ่านต้องไม่แสดความสุขอย่างออกหน้าออกตา และต้องไม่แสดงความพอใจกับตัวเองและอย่างหลงตัวเองว่าเป็นผู้ขัดเกลาหรือยกระดับจิตใจแล้ว


สมมุติว่าเมื่ออ่านถึงโองการทีสรรเสริญบรรดาปวงบ่าวที่เป็นกัลยาณชน จะต้องแยกตัวเองออกมาและคิดว่าเราไม่ใช่คนพวกนั้น แต่จงวิงวอนต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) ว่าขอพระองค์ทรงโปรดให้เราไปถึงยังตำแหน่งนั้นด้วยเถิด และเมื่ออ่านถึงโองการที่่เป็นบทลงโทษ จงรู้ตัวเองว่าแท้จริงเราคือต้นเหตุของการลงโทษ และเราคือบุคคลที่อัล-กุุรอานกำลังกล่าวถึง และจงขอความช่วยเหลือและความคุ้มครองจากพระองคื


๑๐.การให้ความก้าวหน้า


นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่าหนึ่งในมารยาทของการอ่านอัล-กุรอานคือ การให้ความก้าวหน้า หมายถึงผู้อ่านเมื่ออ่านไปถึงยังจุด ๆ หนึ่งต้องคิดว่าอัล-กุรอานไม่อ่านออกมาจากปากของเรา แต่เรากำลังฟังอัล-กุรอานที่พระองค์กำลังตรัสให้ฟัง


ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า ฉันของสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺ (ซบ.) ว่า แท้จริงพระองค์ทรงอยู่ ณ เบื้องหน้าขณะที่ปวงบ่าวอ่านอัล-กุรอาน เพียงแต่ว่าเรามองไม่เห็นพระองค์


๑๑. การปฏิบัติตามอัล-กุรอาน


นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่าหนึ่งในมารยาทของการอ่านอัล-กุรอาน ซึ่งถือว่าเป็นมารยาททั้งภายในและภายนอกของการอ่านอัล-กุรอานคือ ผู้อ่านต้องปรับตัวเองทั้งภายนอกและจิตใจด้านในให้เข้ากับอัล-กุรอาน หมายถึงต้องมีมารยาทของอัล-กุรอาน และต้องขัดเกลาตนเองด้วยอัล-กุรอาน


ต้องปฏิบัติตนตามการสั่งห้ามและสั่งใช้ของอัล-กุรอาน ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ได้ก็ต่อเมื่อเราได้อ่่านอัล-กุรอานเสมอ ด้วยเหตุนี้จะเห็นว่ามีริวายะฮฺจากอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) ได้กล่าวถึงโองการที่ว่า   บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา พวกเขาอ่านคัมภีร์อย่างจริงจัง (บะเกาะเราะฮฺ / ๑๒๑) ว่าหมายถึง การปฏิบัติตามอัล-กุรอานนั่นเอง


الَّذِينَ آتَيْنَاهُمُ الْكِتَابَ يَتْلُونَهُ حَقَّ تِلاَوَتِهِ


                ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า เมื่อสูเจ้าอ่านอัล-กุรอาน จำเป็นต้องละเว้นจากการกระทำความผิดทั้งหมด ถ้าหากไม่ละเว้นเท่ากับว่าเจ้าไม่เคยอ่านอัล-กุรอานเลย (มีซานุลฮิกมะฮฺ เล่ม ๘ หน้า ๘๔ , อัรดุรุร มันซูร เล่ม ๑ หน้า ๑๑๑)


          ด้วยเหตุนี้เองจะเห็นว่า บางริยายะฮฺกล่าวว่า มีผู้อ่านอัล-กุรอานไม่น้อยเลยที่ถูกอัล-กุรอานสาปแช่ง (บาฮารุลอันว่าร เล่ม ๙๒ หน้า ๑๘๔)


          แน่นอนผู้ที่ปฏิบัติตนไม่ตรงกับอัล-กุรอาน หรือไม่สร้างตนเองและจิตวิญญาณให้ตรงกับอัล-กุรอานเท่ากับเขาได้อ่านภายนอกของอัล-กุรอานเท่านั้น และอัล-กุรอานไม่ยอมรับเขา ทว่ายังได้ห่างไกลออกจากเขา ซึ่งการกระทำเช่นนี้ในความจริงก็เท่ากับว่าเขาไม่เคยอ่านอัล-กุรอานเลยแม้แต่่นิดเดียว


๑๒.การรับรู้ภาำำพปรากฏของอัลลอฮฺจากอัล-กุรอาน


ริวายะฮฺจำนวนมากมายกล่าวว่า อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรากฏในอัล-กุรอาน ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า ฉันขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺ (ซบ.) ว่า พระองค์ทรงปรากฏในดำรัสของพระองค์ เพียงแด่ว่าเรามองไม่เห็นพระองค์


ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวไว้ในนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺของท่านว่า อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรากฏแก่ประชาชนในคัมภีร์ของพระองค์


การปรากฏของอัลลอฮฺ (ซบ.) ในอัล-กุรอานและดำรัสของพระองค์หมายความว่าอย่างไร และการรับรู้การปรากฏของพระองค์มีความรู้สึกอย่างไร


ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องความหมายด้านในของอัล-กุรอาน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อผลแห่งการรู้จักอัล-กุรอาน และการเข้าใจระขั้นสูงของอัล-กุรอานได้เกิดกับตน แน่นอนว่าไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้เพราะสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความพยายาม และการปฏิบัติตัวให้อยู่ในครรลองของอิสลาม มีการขัดเกลาและยกระดับจิตใจตนเองเสมอ ตัวอย่างของนักปราชญ์มากมายทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้แสดงให้เห็นว่าท่านเหล่านั้นได้รับเกียรติดังกล่าว เฉกเช่นนักปราชญ์แห่งยุคสมัยท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ผู้พลิกโฉมหน้าใหม่ของอิสลามให้โลกได้รู้จัก ท่านได้แสดงให้เห็นว่าอัล-กุรอานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่ท่านใช้เป็นอาวุธพิฆาตศัตรู


ตะญัลลียฺ หมายถึงการปรากฏภาพลักษณ์ เช่น ครั้งที่ท่านศาสดามูซา (อ.) ได้วอนขอต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) ว่าต้องการเห็นพระองค์ พระองค์ตรัสว่า


وَلَمَّا جَاءَ مُوسَى لِمِيقَاتِنَا وَكَلَّمَهُ رَبُّهُ قَالَ رَبِّ أَرِنِي أَنظُرْ إِلَيْكَ قَالَ لَن تَرَانِي وَلَكِنِ انظُرْ إِلَى الْجَبَلِ فَإِنِ اسْتَقَرَّ مَكَانَهُ فَسَوْفَ تَرَانِي فَلَمَّا تَجَلَّى رَبُّهُ لِلْجَبَلِ جَعَلَهُ دَكًّا وَخَرَّ موسَى صَعِقًا فَلَمَّا أَفَاقَ قَالَ سُبْحَانَكَ تُبْتُ إِلَيْكَ وَأَنَاْ أَوَّلُ الْمُؤْمِنِينَ


 และเมื่อมูซาได้มาตามกำหนดเวลาของเรา พระผู้อภิบาลของเขาได้ตรัสแก่เขา เขาได้กล่าวขึ้นว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ โปรดให้ข้านได้เห็นพระองค์ด้วยเถิด เพื่อข้าฯจะได้มองดูพระองค์ ตรัสว่า เจ้าจะไม่มีวัีนเห็นฉันเด็ดขาด ทว่าเจ้าจงมองไปที่ภูเขาเถิด ถ้าหากมันมั่นอยู่ ณ ที่ของมัน เจ้าก็จะได้เห็นข้า ครั้นเมื่อพระผู้อภิบาลของเขาได้ประจักษ์ที่ภูเขา ก็ทำให้มันทลายตัวลงอย่างราบเรียบ และมูซาได้ล้มลงในสภาพหมดสติ ครั้นเมื่อเขาฟื้นขึ้น เขาก็กล่าวว่ามหาบริสุทธิ์พระองค์ ข้าฯขอลุแก่โทษต่อพระองค์และข้าฯคือคนแรกในหมู่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย (อะอฺรอฟ / ๑๔๓)


แน่นอนเมื่อพระองค์ปรากฏ ณ ภูเขา ๆ นั้นได้แตกกระจายลงอย่างฉับพลัน ขณะที่พระองค์ทรงปรากฏบนอัล-กุรอานและอัล-กุรอานมิได้มีที่ท่าว่าจะสลาย สิ่งนี้ย่อมยืนยันให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของอัล-กุรอาน ซึ่งทำให้รู้ว่านักอ่านอัล-กุรอานทุกท่านต้องมีความระมัดระวังและปราณีตอย่างสูงในการอ่านอัล-กุรอาน

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม