หลักศรัทธาจากท่านนะบีมุฮัมมัด (ศ)
2 - หลักศรัทธาจากท่านนะบีมุฮัมมัด (ศ)
อิม่ามอาลี (อ) รายงานจากท่านนะบีมุฮัมมัด(ศ)
عَنْ أَبَانَ بْنِ أَبِي عَيَّاشٍ عَنْ سُلَيْمِ بْنِ قَيْسٍ قاَلَ : سَمِعْتُ عَلِيَّ بْنَ أَبِي طَالِبٍ عَلَيْهِ السَّلَام وَسَأَلَهُ رَجُلٌ عَنِ الْإِيْماَنِ فَقاَلَ : يَا أَمِيرَ الْمُؤْمِنِينَ، أَخْبِرْنِي عَنْ الْإِيْمَانِ ، لَا أَسْأَلُ عَنْهُ أَحَدًا غَيْرَكَ وَلاَ بَعْدَكَ فَقَالَ عَلِىٌّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ : جَاءَ رَجُلٌ إِلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ وَسَأَلَهُ عَنْ مِثْلِ مَا سَأَلْتَنِى عَنْهُ ، فَقَالَ لَهُ مِثْلَ مَقاَلَتِكَ، فَأَخَذَ يُحَدِّثُهُ. ثُمَّ قَالَ لَهُ : اُقْعُدْ (بَعْضُ رِواَيَةٍ اِفْعَلْ). فَقَالَ لَهُ : آمَنْتُ. ثُمَّ أَقْبَلَ عَلِىٌّ عَلَيْهِ السَّلَام عَلَيَ الرَّجُلِ فَقَالَ : أَمَا عَلِمْتَ أَنَّ جِبْرَئِيلَ أَتَى رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ فِى صُورَةِ آدَمِىٍّ
قَالَ لَهُ : مَا الْإِسْلَامُ فَقَالَ : شَهَادَةُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ وَإِقَامُ الصَّلَاةِ وَإِيتَاءُ الزَّكَاةِ وَحَجُّ الْبَيْتِ وَصِيَامُ شَهْرِ رَمَضَانَ وَالغُسْلُ مِنْ الْجَنَابَةِ فَقَالَ : وَمَا الْإِيمَانُ قَالَ : تُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَمَلَائِكَتِهِ وَكُتُبِهِ وَرُسُلِهِ وَبِالْحَيَاةِ بَعْدَ الْمَوْتِ وَبِالْقَدَرِ كُلِّهِ خَيْرِهِ وَشَرِّهِ وَحُلْوِهِ وَمُرِّهِ. فَلَمَّا قَامَ الرَّجُلُ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ : هَذاَ جِبْرَئِيلُ ، جاَءَكُمْ لِيُعَلِّمَكُمْ دِيْنَكُمْ . فَكَانَ كُلَّمَا قَالَ لَهُ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ شَيْئاً قاَلَ لَهُ : صَدَقْتَ قاَلَ : فَمَتَى السَّاعَةُ قَالَ : مَا الْمَسْئُولُ عَنْهَا بِأَعْلَمَ مِنْ السَّائِلِ قاَلَ : صَدَقْتَ
อะบาน บิน อะบี อัยยาช รายงานจากสุลัยม์ บิน ก็อยส์(มรณะ ฮ.ศ.90)เล่าว่า ฉันได้ยินอิมามอาลี บิน อะบีตอลิบ(อ)เล่าว่า มีชายคนหนึ่งได้ถามอิมามเกี่ยวกับเรื่องอีหม่าน เขากล่าวว่า โอ้ท่านอะมีรุลมุอ์มินีน จงบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องอีหม่าน ฉันไม่เคยถามมันกับผู้ใดนอกจากท่านและหลังจากท่าน อิมามอาลี(อ)ได้กล่าวว่า มีชายคนหนึ่งไปหาท่านนะบี(ศ)แล้วเขาได้ถามเหมือนที่ท่านถามฉันถึงมัน แล้วเขาได้กล่าวกับท่าน(ศ)เหมือนคำพูดของท่านเลย ดังนั้นอิมามจึงเริ่มเล่าเรื่องให้เขาฟัง จากนั้นอิมามได้กล่าวกับเขาว่า จงนั่งลงสิ (บางรายงานกล่าวว่า จงปฏิบัติตามสิ่งที่ฉันจะกล่าวดังต่อไปนี้ เมื่อท่านได้ปฏิบัติมันแล้วท่านจะปลอดภัยเพราะอีหม่านคือการปฏิบัติ) เขากล่าวกับอิมามว่า ฉันเชื่อครับ แล้วอิมามอาลีได้หันมาหาชายคนนั้นพลางกล่าวว่า ท่านรู้ไหมว่า ญิบรออีลได้มาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ในรูปมนุษย์ แล้วเขาได้กล่าวกับท่าน(ศ)ว่า
อิสลาม ( ฟุรูอุดดีน ) คืออะไร ท่าน(ศ)ตอบว่า คือการปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และแท้จริงมุฮัมมัดคือศาสนฑูตของอัลลอฮ์ ดำรงนมาซ จ่ายซะกาต ทำฮัจญ์ ถือศีลอดในเดือนรอมะฎอน และอาบน้ำฆุซุ่ลญินาบะฮ์ และญิบรออีลได้กล่าวว่า
อีหม่าน ( อุซูลุดดีน ) คืออะไร ท่าน(ศ)ตอบว่า อีหม่านคือการที่ท่าน 1.ต้องศรัทธาต่ออัลลอฮ์ 2.มลาอิกะฮ์ของพระองค์ 3.บรรดาคัมภีร์ของพระองค์ 4.บรรดาศาสนฑูตของพระองค์ 5.ต่อชีวิตหลังความตาย(คือวันสิ้นโลก) 6.และต้องศรัทธาต่อการกำหนดกฎสภาวะการณ์ทั้งหมดของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความดีและความชั่วของพระองค์ ความหวานและความขมของพระองค์
เมื่อชายคนนั้นได้ลุกจากไป ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้กล่าวว่า ชายคนนี้คือท่านญิบรออีล เขามาหาพวกท่านเพื่อสอน(หลักสำคัญของ)ศาสนาของพวกท่าน ให้กับพวกท่าน แล้วปรากฏว่าทุกครั้งที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้ตอบสิ่งใดกับเขา เขาได้กล่าวกับท่าน(ศ)ว่า ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว ญิบรออีลได้ถามว่า เมื่อใดจะถึงวันกิยามะฮ์ ท่าน(ศ)ตอบว่า ผู้ถูกถามเกี่ยวกับมันนั้นไม่ได้มีความรู้มากไปกว่าผู้ที่ถามเลย ญิบรออีลได้กล่าวว่า ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว.
ดู กิตาบ สุลัยม์ บิน ก็อยส์ หน้า 613 – 617 หะดีษ ที่ 8
ศึกษาสถานะฮะดีษบทนี้ได้ที่เชิงอรรถหมายเลข [1]
หะดีษนี้ระบุว่า “อัรกานุลอิสลามหรือฟุรูอุดดีน” มี 6 ประการคือ
ปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์และมุฮัมมัดคือศาสนฑูตของอัลลอฮ์
ดำรงนมาซ
จ่ายซะกาต
ทำฮัจญ์
ถือศีลอดในเดือนรอมะฎอน
อาบน้ำฆุซุ่ลญินาบะฮ์ (เพราะเป็นฆุซุ่ลวายิบ)
และ “ อัรกานุลอีหม่านหรืออุซูลุดดีน” มี 6 ประการคือ
การศรัทธาต่ออัลลอฮ์
มลาอิกะฮ์ของพระองค์
บรรดาคัมภีร์ของพระองค์
บรรดาศาสนฑูตของพระองค์
ต่อชีวิตหลังความตาย(คือวันสิ้นโลก)
กฎกำหนดสภาวะ ความดีและความชั่วของพระองค์ [2]