เป้าหมายในการแต่งตั้งศาสดาเพื่อการชี้นำมนุษยชาติ

เป้าหมายในการแต่งตั้งศาสดาเพื่อการชี้นำมนุษยชาติ


โดยเฉพาะศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ)มีความเป็นห่วงต่อประชาชาติ
ซึ่งความเป็นห่วงของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อล)ถึงขั้นที่ว่า ท่านจะเสียใจเป็นอย่างยิ่งถ้าท่านไม่สามารถช่วยประชาชาติของท่าน ให้พวกเขารอดพ้นจากความหลงผิดได้
โดยที่พระองค์ทรงตรัสว่า :
(อัลกุรอานบทอัตเตาบะฮ์ โองการที่ 128)
لَقَد جاءَكُم رَسولٌ مِن أَنفُسِكُم عَزيزٌ عَلَيهِ ما عَنِتُّم حَريصٌ عَلَيكُم بِالمُؤمِنينَ رَءوفٌ رَحيمٌ
“แน่นอนยิ่ง ศาสนทูตคนหนึ่งจากพวกเจ้าเองได้มาหาพวกเจ้าแล้ว เป็นที่ทุกข์ใจยิ่งต่อเขาในสิ่งที่พวกเจ้าได้รับความทุกข์ยาก เป็นผู้ห่วงใยพวกเจ้า
เป็นผู้กรุณาและเป็นผู้เมตตาต่อบรรดาผู้ศรัทธา”
ความเป็นห่วงเป็นใยของท่านที่มีต่อชะตาชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการชี้นำ (ฮิดายะฮ์) นั้นถึงขั้นที่ทำให้ท่านทุกข์ใจและเศร้าโศกเสียใจอย่างรุนแรง จนกระทั่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานโองการลงมายังท่านว่า :  
(อัลกุรอานบทอัชชุอะรออ์ โองการที่ 3)
لَعَلَّكَ بَاخِعٌ نَفْسَكَ أَلا يَكُونُوا مُؤْمِنِينَ
“บางทีเจ้าอาจจะเป็นผู้ทำลายชีวิตของตัวเจ้าเอง เพียงเพราะพวกเขาไม่ศรัทธา”
      และพระองค์ยังทรงตรัสต่อท่านว่า : (อัลกุรอานบทฟาฏิร โองการที่
فَلَا تَذْهَبْ نَفْسُكَ عَلَيْهِمْ حَسَرَاتٍ
“เจ้าอย่าทำให้จิตใจของเจ้าระทมทุกข์เนื่องจากพวกเขาเลย”
✒️ กลุ่มโง่เขลาไร้สติปัญญาบางกลุ่มนอกจากไม่ยอมรับสัจธรรมแล้ว ยังนำอัลกุรอานไปเผาด้วย
- บุคคลเหล่านี้จะถูกประทับตรา ให้เป็นผู้ที่หูหนวกตาบอด และผู้ใดที่ถูกพระองค์ประทับตาแล้ว เขาจะไม่มีวันได้รับทางนำแน่นอน
✒️ วนที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมามีการประชุมเกิดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา จริงๆแล้วมีตัวแทนทั้งหมด 54 ตัวแทน จากหลากหลายประเทศที่ได้เข้าร่วมประชุม ต่างลงมติว่าจะไม่ให้ ซัยยิดอิบรอฮีม ราอีซีประธานาธิบดีของอิหร่าน เข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย
ในที่สุดท่านก็ได้เข้าร่วมประชุม ณ ที่ประชุมท่านได้พูดถึงประโยคที่สวยงามเป็นอย่างยิ่งให้พวกนั้นได้ฟังประเด็นหลักที่ท่านได้ทำการกล่าวนั้น เป็นเรื่องของความยุติธรรม และความอธรรมที่เกิดขึ้น ท่านได้ยกโองการอัลกุรอาน ณ สถานที่นั้นด้วย
ทานเชคกล่าวว่า
ถ้าไม่มีอัลกุรอานมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร
✒️ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน ที่มีกลุ่มคนออกมาต่อต้านการปกครองแบบอิสลาม บุคคลเหล่านี้ต้องการที่จะสร้างกระแสทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับอัรบะอีนและเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิวัติ แต่ทว่าจำนวนของบุคคลเหล่านี้มีเพียงน้อยนิด จะเห็นได้ว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการลุกขึ้นต่อต้านเช่นนี้มาบ้างแต่ในที่สุดประเทศอิหร่านก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
- จริงๆแล้วสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแผนการด้านการเมืองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเอง
 เพราะต้องการให้พวกต่อต้านแสดงสิ่งที่ตนมีข้างในออกมาให้หมด เพื่อจะได้รู้สิ่งที่อยู่ข้างในของเขา สำหรับคนที่ไม่ดีถ้ามันไม่แสดงอะไรออกมาให้เห็น เราจะจัดการกับมันยากกว่า คนไม่ดีที่มันแสดงออกมา ฉะนั้นการกระทำนี้ที่พวกต่อต้านแสดงออกมา ถือเป็นข้อดีสำหรับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน
ในขณะเดียวกันการต่อต้าน การเผาอัลกุรอาน ทำลายบ้านเรือนไม่ได้พึ่งเกิดขึ้น แต่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยของท่านอิมามอะลี(อ.)แล้ว ที่ต่อต้านและสู้กับท่านอิมามอะลี(อ.)ซึ่งอิมามอะลี(อ.)ใช้เวลาในการปกครอง 4ปี9เดือน มีสงครามใหญ่ๆเกิดขึ้น 3 สงคราม
เช่น สงครามซิฟฟีน ท่านอิมามอะลี(อ.)ใช้เวลาในการต่อสู้ 18 เดือนด้วยกัน ถ้ามองในภายนอกจะรับรู้ได้ว่าท่านอิมามอะลี(อ.)นั้นถูกสังหารในมัสญิดโดยฝีมือของอิบนิมุลญัม แต่อันที่จริงแล้วการสังหารท่านอิมามอะลี(อ.)เกิดมาจากความแค้นของพวกเขาต่อท่านอิมามอะลี(อ.) ในตอนนั้นสงครามซิฟฟีนได้จบไปแล้ว และอยู่ในช่วงระหว่างที่ท่านอิมามอะลี(อ.)กำลังรวบรวมกองทัพที่จะทำสงครามอีกสงครามหนึ่งแต่ท่านถูกลอบสังหารเสียก่อน
และเมื่อท่านอิมามอะลี(อ.)ชะฮีด ท่านอิมามฮะซัน อัลมุจตะบา(อ.)ก็ขึ้นดำรงตำแหน่ง และได้สานต่อภารกิจนี้แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะทหารที่อยู่ในกองทัพของท่านอิมามฮะซัน อัลมุจตะบา(อ.) เป็นไส้ศึกของมุอาวิยะฮ์ทั้งสิ้น
อิมามฮะซัน(อ.)จึงตัดสินใจทำสนธิสัญญาสงบศึกกับมุอาวิยะฮ์ เพื่อที่จะไม่ทำให้เหตุการณ์แห่งอาชูรอต้องเกิดขึ้นกับท่านอิมามฮุเซน(อ.) หนึ่งในสนธิสัญญาที่ตกลงกันไว้คือ ภายหลังจากท่านอิมามฮะซัน(อ.)มุอาวิยะฮ์ต้องส่งตำแหน่งกลับคืนแก่ท่านอิมามฮุเซน(อ.) แต่มุอาวิยะฮ์กลับมอบตำแหน่งนี้ให้กับยะซีด คนชั่วที่ทำชั่วอย่างเปิดเผยแทนและสุดท้ายเหตุการณ์อาชูรอก็ได้เกิดขึ้นเพราะยะซีดขึ้นปกครอง
✒️ เรื่องเล่าสงครามอิรัก อิหร่าน
ท่านเชคเล่าให้ฟังว่า มีชายชาวอิรักคนหนึ่งเดินข้ามมายังฐานทัพของอิหร่าน ยอมมาเป็นเชลยของอิหร่าน ทหารของอิหร่านก็ได้ถามว่า ถ้าหากคุณยอมมาเป็นเชลยของอิหร่าน แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไปเป็นทหารของอิรัก?
ชายชาวอิรักคนนี้ตอบว่า

เขาถูกบังคับให้มาทำสงคราม เพราะว่าพวกทหารอิรักบอกว่าถ้าไม่ไปทำสงครามจะจับแม่เขาเผา เป็นการบังคับ
เขาพูดคุยกับทหารอิหร่านและบอกการวางแผนต่างๆของทหารอิรักให้ทหารอิหร่านฟัง
 ถ้าย้อนมาที่ประเทศอิหร่านในการเป็นทหารปกป้องประเทศไม่มีการบังคับ มิหนำซ้ำจำนวนผู้คนเป็นแสนเป็นล้านคนลงชื่อเพื่อขอไปทำสงครามกับอิรักปกป้องประเทศของตนด้วยซ้ำ
 ตัวอย่างเด็กหนุ่ม 23 คน
เคราของพวกเขายังไม่ขึ้นเลยอายุราวๆ13ปี ได้อาสาสมัครไปเป็นทหารและถูกทหารฝั่งอิรัก ทหารที่อยู่ภายใต้การปกครองของซัดดัมจับไปเป็นเชลย และเมื่อมันเห็นว่า 23 คนนี้เป็นเด็กมันจึงวางแผนที่จะทำลาย ชื่อเสียงเกียรติยศของอิหร่านว่า บังคับเด็กที่ยังเคราไม่ขึ้นอายุแค่13ปีมาทำสงคราม มันจึงทำการอัดวีดิโอและบังคับให้พวกเขาแนะนำตัว และบอกอายุของตนออกมา โดยบังคับให้บอกว่าพวกเขาอายุ 13 ปี แต่พวกเขาก็รู้ทันแผนของพวกทหารอิรัก เขาจึงพูดว่าพวกเราอายุ20ปี ทำให้แผนของพวกอิรักไม่เป็นไปตามที่ตนเองวางไว้

 

บรรยายโดย ดร.นัศรุลลอฮ์ สิคอวะตี ลอดอนี