โลกหลังความตาย3นาทีในอะลัมบัรซัค

โลกหลังความตาย3นาทีในอะลัมบัรซัค


โดย ดร.นัศรุลลอฮ์ สิคอวะตี ลอดอนี


ในปีที่1390 ของอิหร่าน เมื่อ 11 ปีที่แล้ว
เรื่องราวของทหารคนหนึ่งที่ตาของเขาได้รับบาดเจ็บจากสนามรบและเข้ารับการรักษา เขาเล่าว่า
“เหล่าทหารรับจ้างเเละผู้ก่อการร้ายของอเมริกาเข้ายึดพื้นที่หนึ่งของอิหร่านที่ชื่อว่าพีรันชาฮ์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พวกก่อการร้ายเข้ามาทำร้ายและสังหารประชาชนเป็นจำนวนมากและมีการโจมตียานพาหนะของอิหร่านอีกด้วย เมืองนี้จะถูกรุกรานมาโดยตลอดตั้งเเต่อดีต
จากศัตรู เวลาที่กองทัพอิหร่านลุกขึ้นต่อสู้เพื่อจะขับไล่ศัตรูให้ออกไป พวกกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ก็จะหนีออกไปทางทิศเหนือของประเทศอิรัก
ในปีที่1390 ภายหลังจากการพลีชีพของนายพลญอนเนะซอรี
กลุ่มเจ้าหน้าที่ปืนใหญ่ของกองกำลังพิทักษ์รักษาอิสลาม เข้ายึดพื้นที่คืนกลับมาได้จากศัตรู
หลังจากนั้นก็มีการเคลียร์พื้นที่ไล่ศัตรูออกไป
ปฏิบัติการดังกล่าวผ่านไปได้ด้วยดีถึงแม้ว่าจะมีคนเป็นชะฮีดและได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งก็ตามซึ่งเจ้าของหนังสือที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เขาอยู่ในปฏิบัติการครั้งนั้นด้วย
เขาเล่าว่า ฉันรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในการปฏิบัติการในสนามรบ และเขาก็มีความถวิลหาตำแหน่งชะฮีดเหมือนกับเพื่อนๆของเขา
เขามักจะบอกกับตัวเองเสมอว่า"ฉันอยู่ตรงไหนและตำแหน่งการเป็นชะฮีดอยู่ตรงไหน"
หมายความว่า ช่างห่างไกลเหลือเกิน การเป็นชะฮีดกับตัวของเขา เมื่อเหล่าศัตรูอิสลามไม่สามารถต่อสู้กับชาวอิหร่านได้พวกมันต้องการจะหลบหนีออกจากพื้นที่นั้น ในขณะเดียวกันมันก็กลัวว่าทหารอิหร่านจะติดตามมันไปได้ มันจึงใช้แก๊สน้ำตาและแก๊สฟอสฟอรัสโยนใส่ทางฝั่งทหารของประเทศอิหร่าน หลังจากที่ศัตรูอิสลามโยนแก๊สนี้มาแล้ว แก๊สก็เริ่มฟุ้งกระจาย
ผู้ที่เล่าเหตุการณ์นี้ดวงตาของเขาได้รับผลกระทบจากแก๊สดังกล่าวจนทำให้เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นอย่างมาก
เขาเล่าว่า
ควันนั้นฟุ้งกระจายไปรอบๆตัวของพวกเรา พวกเราจึงรีบที่จะพาตัวเองออกจากบริเวณนั้น
ตอนนั้นเพื่อนๆของฉันหลุดออกจากบริเวณนั้นไปหมดแล้ว แต่ตัวของฉันไม่สามารถที่จะพาตัวเองออกจากพื้นที่นั้นไปได้เนื่องจากมีความเจ็บแสบดวงตาเป็นอย่างมาก ซึ่งการแสบตาของฉันครั้งนั้นเป็นการแสบตาที่ผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง คนอื่นสามารถรุดไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วแต่ฉันแค่จะลืมตายังไม่สามารถที่จะลืมตาได้เลย
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาทุกข์ทรมานกับการเจ็บตามาถึง 3 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามไปรักษากับแพทย์หลายต่อหลายคนแต่ก็ไม่หาย จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง เขารู้สึกว่าตาข้างซ้ายของเขาเหมือนจะหลุดออกมาจากเบ้าตา เขาจึงเดินไปที่หน้ากระจก จึงเห็นว่าตาข้างซ้ายมันถลนออกมาจริงๆ เขาจึงตัดสินใจไปหาแพทย์อีกครั้งหนึ่งและได้ทำการขอร้องให้แพทย์ช่วยรักษาเขาเพราะว่าเขาไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดของดวงตาได้อีกต่อไปแล้ว
คณะแพทย์รวมตัวกันเพื่อหาวิธีรักษาดวงตาของเขา
การรวมตัวของคณะแพทย์กลุ่มนั้นประกอบไปด้วยศัลนแพทย์สมองและศัลยแพทย์ดวงตา
หลังจากคณะแพทย์ทำการตรวจสอบดวงตาและได้ถ่ายรูปเพื่อเก็บข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย
ได้บทสรุปว่าดวงตาของเขามีเนื้องอกเกิดขึ้นด้านหลังดวงตาข้างซ้ายของเขา มันจึงเป็นสาเหตุในการดันให้ลูกตาถลนออกมา ซึ่งก้อนเนื้อก่อนนี้อยู่ติดกับสมอง
แพทย์แจ้งว่าการที่จะผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อนี้ออกมานั้นถือเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งเพราะมันอยู่ติดกับสมอง คุณอาจจะตาบอดตลอดชีวิตหรือไม่ก็อาจจะมีปัญหาด้านสมองถึงขั้นอาจจะเสียชีวิตก็เป็นได้ ฉนั้นถ้าคุณต้องการผ่าตัดก็ต้องมีการเซ็นสัญญาการยินยอมจากคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เนื่องจากเคสนี้ถือเป็นเคสที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างยิ่งถึงขั้นที่แพทย์พยายามเลี่ยงที่จะไม่ทำการผ่าตัดให้แต่เขาก็รบเร้าแพทย์ โดยยอมเซ็นสัญญายินยอมและยอมทุกๆเงื่อนไขขอเพียงคณะแพทย์ทำการผ่าตัดให้กับเขา เขาทรมานมา 3 ปี
กว่าแล้วตั้งแต่ปี1390 จนถึง 1394
การผ่าตัดได้เริ่มต้นขึ้นในเดือน โอรดีเบะเฮชต์ 1394 ณ โรงพยาบาลในเมืองอิศฟาฮาน และจะต้องใช้เวลาผ่าตัด 6 ชม.
ก่อนที่แพทย์จะเริ่มผ่าตัด แพทย์ได้ทำการย้ำกับเขาอีกรอบหนึ่ง เกี่ยวกับจุดที่จะผ่าตัดกับผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นกับเขา ก่อนเข้าผ่าตัดเขาได้กลับไปที่บ้านเพื่ออำลาทุกคนพ่อแม่พี่น้อง และเพื่อนๆโดยเฉพาะภรรยาของเขาที่ผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ยากมาด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นนางตั้งครรภ์อยู่ด้วย
หลังจากลาทุกคนเป็นที่เรียบร้อยเขาก็กลับมายังโรงพยาบาลเตรียมตัวสำหรับเข้ารับการผ่าตัดพร้อมกับหัวใจที่ตะวักกัลต่อพระองค์ในขณะที่เขาเข้าสู่ห้องผ่าตัด วินาทีนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเขาจะไม่ได้กลับออกมาอีกแล้ว
ก่อนการเริ่มผ่าตัดคณะแพทย์ได้ทำการฉีดยาสลบแก่เขา
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าต้องใช้เวลาในการผ่าตัด 6 ชม. แต่ทว่าเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในช่วงเวลา 3 นาที

มันคือช่วงที่อยู่ๆหัวใจของเขาหยุดเต้นและไม่สามารถรับรู้อะไรได้ คณะแพทย์พยายามอย่างสุดความสามารถในการที่จะดึงเขากลับมา
การผ่าตัดผ่านไปอย่างยาวนาน เนื่องจากในการที่จะนำเนื้องอกออกมาจากหลังลูกตาของเขามันยุ่งยากกว่าที่วางแผนเอาไว้ แต่การผ่าตัดก็ยังดำเนินอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมาถึงขั้นตอนสุดท้ายทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป แพทย์ได้กล่าวขึ้นว่า"เขาเสียชีวิตแล้ว" ผู้เล่าได้เล่าว่าในช่วงวินาทีนั้นเขารู้สึกสบายเป็นอย่างมากและความเจ็บปวดที่เคยมีอยู่ก็หายไป
ทนใดนั้นเขาก็ลุกจากเตียงและเห็นเหตุการณ์ที่ชุลมุนในห้องผ่าตัด