ความประเสริฐของชนชาติอิหร่านหรือเปอร์เซีย

ความประเสริฐของชนชาติอิหร่านหรือเปอร์เซีย


ชาวเปอร์เซียปัจจุบันคือชาวอิหร่าน คือกลุ่มชนที่มีสาวกของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)คนหนึ่งชื่อว่า  “ ซัลมาน อัลฟาริซี “  
เราใคร่นำเสนอ ความประเสริฐของ
1. ซัลมาน อัลฟาริซี สาวกของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ)
2. ชนชาติเปอร์เซีย หรือ ชนชาติอิหร่าน
อัลลอฮ์ ตะอาลา  ตรัสว่า
هُوَ الَّذِي بَعَثَ فِي الْأُمِّيِّينَ رَسُولًا مِنْهُمْ يَتْلُو عَلَيْهِمْ آَيَاتِهِ وَيُزَكِّيهِمْ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَإِنْ كَانُوا مِنْ قَبْلُ لَفِي ضَلَالٍ مُبِينٍ (2) وَآَخَرِينَ مِنْهُمْ لَمَّا يَلْحَقُوا بِهِمْ وَهُوَ الْعَزِيزُ الْحَكِيمُ (3) ذَلِكَ فَضْلُ اللَّهِ يُؤْتِيهِ مَنْ يَشَاءُ وَاللَّهُ ذُو الْفَضْلِ الْعَظِيمِ 
พระองค์คือ ผู้ทรงแต่งตั้งรอซูลขึ้นคนหนึ่งในหมู่ผู้ไม่รู้หนังสือ จากพวกเขาเอง
เพื่อเขา(รอซูลนั้น)จะได้สาธยายอายาตต่างๆ ของพระองค์แก่พวกเขา 
และขัดเกลาพวกเขา 
และสอนคัมภีร์
และฮิกมะฮ์แก่พวกเขา 
และแม้ว่าแต่ก่อนนี้พวกเขาอยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้งก็ตาม
และ(รอซูลนั้นจะได้สอนสิ่งเหล่านั้นแก่)กลุ่มชนอื่นๆจากพวกเขา(ชาวอาหรับ) ซึ่งพวกเขายังไม่เคยติดต่อกับพวกเขามาก่อนเลย 
และพระองค์เป็น ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ 
ซูเราะฮ์ อัลญุมุอะฮ์  โองการที่ 2 - 3
222222222222222222222
หนึ่งใน “ อัสบาบุล นุซูล “ สาเหตุการประทานกุรอ่านโองการนี้คือ
อิม่ามมุฮัมมัดบาเก็ร (อ) กล่าวว่า มีรายงานว่า   
رُوِيَ أَنَّ النَّبِيَّ (صلى الله عليه وآله وسلّم) قَرَأَ هَذِهِ الْآيَةَ فَقِيْلَ لَهُ مَنْ هَؤُلاَءِ فَوَضَعَ يَدَهُ عَلَى كَتِفِ سَلْمَانَ وَ قاَلَ لَوْ كاَنَ الْإِيْماَنُ فِي الثُّرَياَّ لَناَلَتْهُ رِجاَلٌ مِنْ هَؤُلاَءِ
มีรายงานว่า   ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้อ่านโองการนี้ {และ(รอซูลนั้นจะได้สอนสิ่งเหล่านั้นแก่)กลุ่มชนอื่นๆจากพวกเขา(ชาวอาหรับ) ซึ่งพวกเขายังไม่เคยติดต่อกับพวกเขามาก่อนเลย} 
มีคนถามท่านว่า  พวกเขาเหล่านั้นคือใคร ? 
ท่าน(ศ)ได้วางมือของท่านไว้บนหัวไหล่ของท่านซัลมาน และได้กล่าวว่า 
“ ถ้าหาก อีหม่าน(ความศรัทธา)อยู่ถึงดาวลูกไก่ สุภาพบุรุษจากพวกเขาเหล่านี้ ก็จะคว้ามันมาได้อย่างแน่นอน “
ตัฟซีร อัลกุมมี เล่ม 2  : 366  และ ตัฟซีร มัจญ์มะอุลบะยาน เล่ม 10 : 284 
333333333333333333333333
ท่านอบีฮุร็อยเราะฮ์ เล่าว่า
كُنَّا جُلُوسًا عِنْدَ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - فَأُنْزِلَتْ عَلَيْهِ سُورَةُ الْجُمُعَةِ ( وَآخَرِينَ مِنْهُمْ لَمَّا يَلْحَقُوا بِهِمْ ) قَالَ قُلْتُ مَنْ هُمْ يَا رَسُولَ اللَّهِ فَلَمْ يُرَاجِعْهُ حَتَّى سَأَلَ ثَلاَثًا ، وَفِينَا سَلْمَانُ الْفَارِسِىُّ ، وَضَعَ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - يَدَهُ عَلَى سَلْمَانَ ثُمَّ قَالَ « لَوْ كَانَ الإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ - أَوْ رَجُلٌ - مِنْ هَؤُلاَءِ »
พวกเรานั่งกันอยู่กับท่านนะบี(ศ) แล้วซูเราะฮ์อัลญุมุอะฮ์ ได้ประทานลงมาว่า {และกลุ่มชนอื่นๆจากพวกเขา(ชาวอาหรับ) ซึ่งพวกเขายังไม่เคยติดต่อกับพวกเขามาก่อนเลย}  
เขาจึงถามว่า  โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ ใครคือพวกเขาเหล่านั้นหรือ 
ท่านไม่ได้ตอบเขา จนเขาได้ถามท่านถึงสามครั้ง และในหมู่พวกเรามี ซัลมาน อัลฟารีซี อยู่ด้วย 
ท่านรอซูล(ศ)ได้วางมือของท่านลงบนร่างของซัลมาน ต่อจากนั้นท่านกล่าวว่า
“ ถ้าหาก อีหม่าน อยู่ถึงดาวษุรอยยา(ลูกไก่) พวกสุภาพบุรุษหรือชายคนหนึ่งจากพวกเขาเหล่านี้ก็จะไปคว้ามันมาได้แน่นอน
ซอฮิฮ์ บุคอรีย์  ฮะดีษที่ 4897
444444444444444444444444
ฮะดีษเรื่อง ความประเสริฐของท่าน ซัลมาน ฟาริซี และ ชนชาติอิหร่าน มีรายงานเอาไว้ 3 ลักษณะ
ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์เล่าว่า  หลังจากท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้เอามือของท่านตบไปบนบ่าของท่านซัลมาน อัลฟาริซี  จากนั้นท่านได้กล่าวว่า   ชายคนนี้(ซัลมาน)และชนชาติของเขา(เปอร์เซีย)...
لَوْ كَانَ الْعِلْمُ بِالثُّرَيَّا لَتَنَاوَلَهُ أُنَاسٌ مِنْ أَبْنَاءِ فَارِسَ
1.หากว่าอิลมู(ความรู้)อยู่ที่ดาวลูกไก่  พวกลูกหลานเปอร์เซียก็จะไปคว้าเอามันลงมาอย่างแน่นอน
لَوْ كَانَ الْإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ مِنْ هَؤُلَاءِ
2.หากว่าอีหม่าน(ความศรัทธา)อยู่ที่ดาวลูกไก่ สุภาพบุรุษจากพวกเหล่านี้(เปอร์เซีย)จะไปคว้าเอามันลงมาอย่างแน่นอน
لَوْ كَانَ الدِّينُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَذَهَبَ بِهِ رَجُلٌ مِنْ فَارِسَ - أَوْ قَالَ مِنْ أَبْنَاءِ فَارِسَ - حَتَّى يَتَنَاوَلَهُ
3.หากว่าดีน(ศาสนาอิสลาม)อยู่ที่ดาวลูกไก่  จะมีชายจากลูกหลานเปอร์เซียไปคว้าจนเอามันลงมาอย่างแน่นอน
คำถาม  
ทำไมนบีมุฮัมมัด(ศ)จึงเปรียบอิลมู,อีหม่านหรือดีนว่าเป็น ดาวษุร็อยยา-ลูกไก่ 
คำตอบ  
เพราะดาวลูกไก่คือแหล่งรวมของกลุ่มดาวในท้องฟ้า   
ญี่ปุ่นเรียก ซูบารุ(คุณอาจเคยสังเกตเห็นดวงดาว บนเครื่องหมายของรถซูบารุ) 
ชาติตะวันตกเรียก Pleiades หรือ Seven Sisters ตามตำนานโรมันโบราณ และตั้งชื่อตามตำนานให้ดาวแต่ละดวง คือลูกสาวทั้งเจ็ด (Alcyone, Asterope, Electra, Maia, Merope, Taygeta and Celaeno) ของAtlas(ผู้เป็นพ่อ ตามตำนาน) และPleione(ผู้เป็นแม่ ที่มาของชื่อกระจุกดาว Pleiades)
ชาวอาหรับเรียก  “ ษุรอยยา “ มันคือกลุ่มดาวเจ็ดดวง มีดวงหนึ่งที่สว่างสดใสที่สุด
กลุ่มดาวลูกไก่อยู่ใกล้ๆ ดาวธง ฝรั่งนับได้ 7 ดวง จึงตั้งชื่อกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “Seven Sisters”  กลุ่มดาวลูกไก่ เป็นกลุ่มดาวที่ใช้ทดสอบ สายตาของคนได้เป็นอย่างดี เพราะถ้า คนทั่วไปจะเห็นเพียง 6 ดวง แต่ถ้าผู้ชำนาญดูบ่อยๆนับดู จะได้ 7 ดวง  
ในปัจจุบัน ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพสูง พบว่ามีดวงดาวในกระจุกดาวลูกไก่มากกว่า 3,000 ดวง และกลุ่มดาวลูกไก่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 380 ปีแสง 
แม้ว่า ดาวลูกไก่ จะอยู่ไกลโพ้นนอกโลก ยากที่จะไขว่หามาได้อย่างง่ายๆ 
แต่ชนชาติที่สืบเชื้อสายจากซัลมานเปอร์เซีย ก็จะสามารถไปคว้าเอามันลงมาได้สำเร็จ  
ปัจจุบันโลกได้ประจักษ์แล้วว่า   อิหร่านได้เปลี่ยนไปสู่ระบบสาธารณรัฐอิสลามได้สำเร็จ  
ขณะที่โลกอาหรับเดินถอยหลังกลับไปสู่ระบบตอฆูต
555555555555555555555555
ตำราที่บันทึกเรื่อง ความประเสริฐของท่านซัลมานฟาริซี และชนชาติอิหร่าน มีดังนี้
1. ซอฮิ๊ฮ์ บุคอรี  หะดีษที่  4897,4898
وَضَعَ رَسُولُ اللَّهِ (ص) يَدَهُ عَلَى سَلْمَانَ ثُمَّ قَالَ « لَوْ كَانَ الإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ - أَوْ رَجُلٌ - مِنْ هَؤُلاَءِ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้วางมือของท่านบนซัลมานแล้วกล่าวว่า  หากอีหม่านอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเขาเหล่านี้จะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
2. ซอฮิ๊ฮ์ มุสลิม  หะดีษที่  6661,6662
فَوَضَعَ النَّبِىُّ (ص) يَدَهُ عَلَى سَلْمَانَ ثُمَّ قَالَ  لَوْ كَانَ الإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ مِنْ هَؤُلاَءِ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้วางมือของท่านบนซัลมานแล้วกล่าวว่า  หากอีหม่านอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเขาเหล่านี้จะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
3. สุนัน ติรมีซี    หะดีษที่  3570
فَضَرَبَ رَسُولُ اللَّهِ (ص) فَخِذَ سَلْمَانَ قَالَ « هَذَا وَأَصْحَابُهُ وَالَّذِى نَفْسِى بِيَدِهِ لَوْ كَانَ الإِيمَانُ مَنُوطًا بِالثُّرَيَّا لَتَنَاوَلَهُ رِجَالٌ مِنْ فَارِسَ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้ตีไปที่หน้าขาของซัลมานแล้วกล่าวว่า  ชายคนนี้และพวกของเขา ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในอำนาจของพระองค์ว่า หากอีหม่านแขวนอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเปอร์เซียจะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
เชคอัลบานีกล่าวว่า  ซอฮี๊ฮฺ
4. สุนันกุบรอ โดยนะซาอี  หะดีษที่  8278
فَوَضَعَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَدَهُ عَلَى سَلْمَانَ ثُمَّ قَالَ لَوْ كَانَ الْإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ مِنْ هَؤُلَاءِ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้วางมือของท่านบนซัลมานแล้วกล่าวว่า  หากอีหม่านอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเขาเหล่านี้จะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
5. มุสนัดอะหมัด  หะดีษที่  9396
فَوَضَعَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَدَهُ عَلَى سَلْمَانَ وَقَالَ لَوْ كَانَ الْإِيمَانُ عِنْدَ الثُّرَيَّا لَنَالَهُ رِجَالٌ مِنْ هَؤُلَاءِ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้วางมือของท่านบนซัลมานแล้วกล่าวว่า  หากอีหม่านอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเขาเหล่านี้จะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
เชคชุเอบ อัรนะอูฏีกล่าวว่า  ซอฮิ๊ฮ์
6. ซอฮิ๊ฮ์ อิบนิฮิบบาน  หะดีษที่ 7123
عن أبي هريرة : أن رسول الله صلى الله عليه و سلم تلا هذه الآية { وإن تتولوا يستبدل قوما غيركم ثم لا يكونوا أمثالكم } [ محمد : 38 ] قالوا : يا رسول الله من هؤلاء الذين إن تولينا استبدلوا بنا ثم لا يكونوا أمثالنا 
فضرب على فخذ سلمان الفارسي ثم قال : ( هذا وقومه لو كان الدين عند الثريا لتناوله رجال من فارس ) 
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้ตีไปที่หน้าขาของซัลมานแล้วกล่าวว่า  ชายคนนี้และชนชาติของเขา   หากศาสนาอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากพวกเปอร์เซียจะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
เชคชุเอบ อัรนะอูฏีกล่าวว่า  ซอฮิ๊ฮ์
7. มุศ็อนนัฟ อับดุลร็ฮซซ๊าก  หะดีษที่ 19923
عن أبي هريرة قال قال رسول الله صلى الله عليه و سلم لو كان الدين عند الثريا لذهب إليه رجل - أو قال رجال - من أبناء فارس حتى يتناولوه
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า หากศาสนาอยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายหรือลูกหลานพวกเปอร์เซียจะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
8. มุสนัดอัลฮาริษ หะดีษที่ 1040 และมุสนัดอะหมัด  หะดีษที่ 7609,9071,9095,9677
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَوْ كَانَ الْعِلْمُ بِالثُّرَيَّا لَتَنَاوَلَهُ رِجاَلٌ مِنْ أَبْنَاءِ فَارِسَ
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า หากความรู้อยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากลูกหลานพวกเปอร์เซียจะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
9. อุศูลุล อะห์กาม  โดยอิบนุหัซมิน  
لو أن العلم في الثريا لتناوله رجل أو رجال من أبناء فارس 
الراوي: - المحدث: ابن حزم - المصدر: أصول الأحكام - الصفحة أو الرقم: 2/299
خلاصة حكم المحدث: صحيح
ศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า หากความรู้อยู่ที่ดาวลูกไก่ บรรดาชายจากลูกหลานพวกเปอร์เซียจะไปเอามันมาได้อย่างแน่นอน
สถานะหะดีษ  ซอฮิ๊ฮ์  ดูหะดีษเลขที่ 15   
หะดีษเหล่านี้ถือว่าเพียงพอแล้วที่เป็น รายงานที่มีมติตรงกันว่า ถูกต้อง
66666666666666666666666
คำถาม  
ทำไมอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงทรงยกย่องท่าน ซัลมาน ฟาริซี  และชาวอิหร่าน 
คำตอบ 
เพราะชาวอิหร่านคือ  ชนชาติที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำโลกอิสลาม  ตามที่อัลลอฮ์ตรัสว่า จะทรงนำชนชาติอื่นมาแทนที่การเป็นผู้นำของชนชาติอาหรับในยุคปัจจุบัน
อัลลอฮ์ ตะอาลา  ทรงต้องการแสดงให้โลกมุสลิมได้ประจักษ์ว่า  ชนชาติอิหร่านคือแบบอย่างในการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งอิสลามอย่างแท้จริง   
ท่านลองหันกลับไปพิจารณาผู้นำประเทศต่างๆในโลกอาหรับ   จะพบว่า ผู้ปกครองอาหรับ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือประธานาธิบดี ล้วนไม่ใช่ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญทางศาสนา   
แต่ผู้นำสูงสุดของประเทศอิหร่านคือ  ผู้รู้ทางศาสนา 
นี่คือที่มาของความเชื่ออิสลามในเรื่องระบบ (( วิลายะตุล ฟะกีฮ์  )) 
นั่นคือ “ ผู้รู้ศาสนาอิสลามสูงสุดเท่านั้น “   ที่ควรเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองประเทศ
สมจริงตามที่ศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวไว้ว่า   
“ หากอิลมู,อีหม่าน หรือดีนอิสลาม แขวนอยู่ถึงดาวลูกไก่  ลูกหลานชาวเปอร์เซีย จะไปคว้าเอามันลงมาให้ได้อย่างแน่นอน “   
ใครจะคาดคิดว่า  ชายชราอย่างอิหม่ามโคมัยนี่ ที่มีเพียงคัมภีร์กุรอ่านเล่มเล็กๆอยู่ในมือ สามารถโค่นล้มการปกครองของกษัตริย์ชาฮ์ฟาเลวีย์ลงได้ 
จากนั้นอิหม่ามโคมัยนี่ได้จัดตั้งประเทศอิหร่านให้เป็นรัฐอิสลามตามที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้นำมาให้ชาวอาหรับและชาวโลก
นี่คือ สัจจะพยากรณ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ที่ได้กล่าวเอาไว้ล่วงหน้าถึง1,400ปีที่แล้ว