วันนี้ในอดีต 24 เดือนรอญับ ครบรอบปีของการพิชิตป้อมปราการแห่งค็อยบัรโดยท่านอิมามอะลี(อ)

วันนี้ในอดีต  24 เดือนรอญับ  ครบรอบปีของการพิชิตป้อมปราการแห่งค็อยบัรโดยท่านอิมามอะลี(อ) 

เนื่องในโอกาสวันที่24 เดือนรอญับ วันครบรอบปีของการพิชิตป้อมปราการแห่งค็อยบัร โดยท่านอิมามอะลี(อ) ใน ฮ.ศ. ที่7 
#อิมามอะลี(อ) #ผู้พิชิตป้อมค็อยบัร #การพิชิตค็อยบัรและความประเสริฐที่ไม่มีเหมือนใครของอิมามอะลี(อ) 
ท่านศาสดา(ซ็อล ฯ) ในปีฮิจเราะฮฺศักราชที่ ๗ ตัดสินใจที่จะเข้ายึดป้อมค็อยบัรของพวกยะฮูดี เพื่อเป็นการลดกำลังความสามารถของพวกยะฮูดี เป้าหมายของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ในการเข้ายึดครั้งนี้มี ๒ประเด็นคือ
๑. ค็อยบัร คือ ศูนย์กลางที่พวกยะฮูดีใช้ในการวางแผน หรือปลุกระดมคนเพื่อต่อต้านการปกครองอิสลามที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น และหลายต่อหลายครั้งที่พวกยะฮูดีใช้ป้อมค็อยบัร เป็นที่วางแผนการเพื่อทำลายนครมะดีนะฮฺร่วมกับศัตรูอิสลามกลุ่มอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามอะฮฺซาบ
๒. ในช่วงสมัยนั้นอาณาจักรโรมและอาณาจักรอิหร่านถือว่ายิ่งใหญ่ และถ้าหากยะฮูดีต้องการที่จะทำสงครามกับอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งต้องทำสงครามหลายครั้ง และใช้ระยะเวลายาวนานในการพิชิต แต่ทว่าการกำเนิดขึ้นของอาณาจักรอิสลาม ซึ่งเป็นอาณาจักรที่สามที่มีความเข้มแข็ง สำหรับพวกยะฮูดีแล้วไม่สามารถที่จะประวิงเวลาไว้ได้ ด้วยเหตุนี้ เป็นไปได้ว่า ยะฮูดีจะใช้ป้อมค็อยบัรเป็นสถานที่ร่วมมือกับศัตรูอิสลามเพื่อวางแผนทำลายล้างอิสลาม หรือใช้เป็นสถานที่ให้การสนับสนุนศัตรูอิสลาม ซึ่งสองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น ให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนพวกยะฮูดี
ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ทราบถึงปัญหานี้ดี ท่านจึงได้นำกองทหารจำนวน ๑๖๐๐ นาย เคลื่อนทัพไปที่ป้อมค็อยบัร
ป้อมปราการต่าง ๆ ที่ค็อยบัรมีความเข้มแข็งเป็นอย่างมาก ยากต่อการทำลายล้าง และมีความพร้อมในการรับมือกับผู้รุกรานเป็นอย่างดี ทหารของพวกยะฮูดีก็มีความสามารถในการป้องกันตนเองสูง และด้วยความพยายาม ความมานะ และความกล้าหาญของทหารอิสลาม ถึงแม้จะเป็นความยากลำบากในการพิชิตแต่ก็สามารถพิชิตป้อมต่าง ๆ ได้ยกเว้นป้อมที่มีชื่อว่า กุมูซ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกองทหารของพวกยะฮูดี มีกำลังพลที่เข้มแข็งกองทหารอิสลามไม่สามารถพิชิตป้อมปราการนี้ การต่อต้านของยะฮูดีในป้อมปราการนี้ สร้างความลำบากให้กับท่านศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านแต่งตั้งแม่ทัพและมอบธงรบให้กับบุคคลต่าง ๆ เพื่อเข้ายึดครองป้อมปราการนี้ ในทุก ๆ เช้าท่านจะทำการแต่งตั้ง และมอบธงรบให้คนแล้วคนเล่าแต่ไม่มีใครสามารถพิชิตป้อมปราการนี้ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งในวันแรกท่านได้มอบธงให้กับอบูบักร และในวันต่อมาท่านได้มอบให้กับอุมัร ซึ่งทั้งสองไม่สามารถพิชิตป้อมปราการนี้ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ได้สร้างความยุ่งยากให้กับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เป็นอย่างมาก
ท่านศาสดา(ซ็อล ฯ) กล่าวว่า
لاعطين هذه الراية غدا رجلا يفتح الله على يديه يحب الله ورسوله ويحبه الله ورسوله
พรุ่งนี้ฉันจะมอบธงรบให้กับผู้ที่อัลลอฮฺประทานชัยชนะให้กับเขา และเขาคือผู้ที่รักอัลลอฮฺและเราะซูลของพระองค์ อัลลอฮฺและเราะซูลของพระองค์ก็รักเขา
อิบนิอับดุลบัร ได้บันทึกคำพูดของท่านศาสดาไว้ว่า
لاعطين الراية رجلا يحب الله ورسوله بفرار يفتح الله على يديه
(อัลอิซติฮาบฟีมะอฺรีฟะติลอัซฮาบ,พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง,เบรุต,ดารุลอะฮฺยาอุลตุรอซิ อัลอาเราะบี,ปี ๑๓๒๘ เล่ม ๓ หน้าที่ ๓๖)
และในคืนนั้น เหล่าบรรดาสาวกของท่านศาสดาต่างสันนิฐานกันต่าง ๆ นานาว่า ในวันพรุ่งนี้ท่านศาสดาจะมอบธงรบให้ใคร เมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นได้มาถึงเหล่าบรรดาสาวกได้พากันมาล้อมกระโจมของท่านศาสดา ซึ่งทุกคนต่างมีความหวังว่าตนจะได้เป็นผู้รับธงรบในวันนี้ และในขณะนั้นเองท่านศาสดาได้กล่าวว่า "อะลีอยู่ไหน" พวกเขาตอบว่า อะลีไม่ได้มาเพราะว่าดวงตาของเขาได้รับบาดเจ็บ และกำลังนอนพักผ่อน ท่านศาสดากล่าวว่า ไปตามอะลีมา และเมื่อท่านอะลีมาถึงท่านศาสดาได้ขอดุอาอฺให้ดวงตาของอะลีหายจากการเจ็บป่วย ด้วยบะเราะกัตนั้น อะลีหายเป็นปกติ หลังจากนั้นท่านได้มอบธงรบให้กับอะลี และอะลีกล่าวว่า
"โอ้เราะซูล ฉันจะทำสงครามกับพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะยอมรับอิสลาม"
ท่านศาสดากล่าวว่า "จงมุ่งหน้าไปสู่พวกเขา และเมื่อถึงป้อมปราการสิ่งแรกที่เจ้าต้องทำคือ เชิญชวนพวกเขาเข้าสู่อิสลาม และจงตักเตือนถึงหน้าที่ของการเป็นบ่าวแห่งพระผู้เป็นเจ้า (หมายถึงปฏิบัติตามสัจธรรม) ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า ถ้าหากเจ้าสามารถทำให้คน ๆ หนึ่งยอมรับพระผู้เป็นเจ้าได้ ย่ิอมดีกว่าเจ้ามีอูฐขนสีแดงไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมากเสียอีก
(หมายเหตุ) : อูฐขนสีแดงในหมู่อาหรับสมัยนั้นเป็นอูฐที่มีราคาแพงมาก
หลังจากนั้นท่านอะลีได้นำทัพและด้วยความกล้าหาญที่ไม่มีใครเหมือน ท่านสามารถพิชิตป้อมปราการค็อยบัรได้สำเร็จ!


บทความโดย เชคอิบรอฮีม อาแว