สัญลักษณ์ต่างๆที่จะปรากฎขึ้นก่อนวันสิ้นโลก[อาคิรุซซะมาน]

 สัญลักษณ์ต่างๆที่จะปรากฎขึ้นก่อนวันสิ้นโลก[อาคิรุซซะมาน]

ผู้ที่จะได้รับทางรอดในยุคที่ฟิตนะห์ปกคลุมไปทั่ว คือกลุ่มชนใด

ในหนังสือชะเราะฮ์ นะฮ์ญุลบะลาเฆาะ คุฎบะฮ์ที่ 103 ท่านอิมามอะลี อ. ผู้สืบทอดอำนาจต่อจากท่านศาสดามุฮัมมัด ศ. กล่าวถึงสภาพผู้คนและสังคมในยุคสุดท้าย อันเป็นยุคก่อนการปรากฎกายของท่านอิมามมะฮ์ดี อ. ว่า  :

"เป็นช่วงเวลาไม่มีใครเลยจะรอดพ้นจากการถูกฟิตนะห์ เว้นเสียแต่ผู้ศรัทธาที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม!![ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม คือ]เมื่อเขาปรากกฎตัวต่อหน้าผู้คนก็จะไม่มีใครรู้จัก และเมื่อเขาหายตัวไปก็จะไม่มีใครถามถึง !! 

 [وَذلِکَ زَمَانٌ لاَ یَنْجُو فِیهِ إِلاَّ کُلُّ مُؤْمِن نُوَمَة، إِنْ شَهِدَ لَمْ یُعْرَفْ، وَ إِنْ غَابَ لَمْ یُفْتَقَدْ].

แน่นอนว่า นุวะมะฮ์ [نُوَمَه] มาจากรากศัพท์ เนาม์[نَوْم] ซึ่งแปลว่า "หลับ,นอน" แต่ในรูปประโยคข้างต้นซื่อความหมายไปในทางเปรียบเปรยว่า "คนที่ไม่เป็นที่รู้จัก ,ไร้ชื่อเสียงเรียงนามในสังคม"

เห็นได้ชัดว่าในยุคสมัยที่การคอร์รัปชั่นครอบคลุมสังคม และมีผู้บริหาร ผู้นำของสังคมเป็นบุคคลที่ชั่วช้า พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ผู้ศรัทธาที่เป็นที่ยอมรับ และรู้จักของสังคมได้ลอยนวล หากไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของพวกเขา และปิดปากเงียบต่อความชั่วช้าที่กำลังปกคลุมสังคม ก็จะถูกกำจัดและทำลายในที่สุด

 ‍♂️ ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ศรัทธา คือการอยู่อย่างนิรนามและห่างไกลจากชื่อเสียง เพื่อไม่ให้ใครมาเพ่งเล็งเขา

และท่านอิมามอะลี อ. ก็กล่าวย้ำต่อว่า ในขณะเดียวกัน การไม่เปิดเผยตัวตนที่ชัดเจนนี้ไม่ได้ลดสถานะของพวกเขา แต่พวกเขาจะมีบทบาททางจิตวิญญาณในสังคม ดังนั้นท่านอิมาม อ. จึงกล่าวต่อไปว่า : 

[ أُولَئِکَ مَصَابِیحُ الْهُدَى، وَ أَعْلاَمُ السُّرَى ]

"พวกเขาคือแสงสว่างนำทาง และเป็นสัญญาณส่องทางให้ผู้คนที่เดินในคืนที่มืดมิด[ได้เห็นเส้นทางเดิน]"

ใช่แล้ว ! แม้ว่าพวกเขาจะอยู่อย่างไร้นาม และเงียบงัน แต่วิถีและขนบธรรมเนียมปฎิบัติของพวกเขาก็เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้ตื่นรู้และตื่นตัว เปรียบเสมือนแสงสว่างและดวงไฟที่ติดอยู่ตามท้องถนนที่ทำให้ผู้สัญจรไม่หลงทางของนักเดินทางในคืนที่มืดมิด 

❇️ จากนั้น ท่านอิมามอะลี อ. ได้อธิบายคุณลักษณะของกลุ่มผู้ศรัทธานี้ เสริมว่า : 

 [ لَیْسُوا بِالْمَسَایِیحِ، وَ لاَ الْمَذَایِیعِ الْبُذُرِ ]

"พวกเขาไม่ประกาศการดำรงอยู่ของพวกเขาในหมู่ผู้คน และพวกเขาไม่เปิดเผยความลับอย่างโง่เขลาและโง่เขลา"

✍️ มัรฮูมซัยยิด ร่อฎีย์ ใต้คุฎบะฮ์บทนี้ ได้อธิบายคำ "มาซายีฮ์" [مَسَاییح] ว่าให้ความหมาย "กลุ่มบุคคลที่มักสร้างความแตกเเยก และชอบยุแยงให้ผู้คนบาดหมางกัน" 
และคำ "มะซ่อยิฮ์" [مَذَاییع] ท่านได้ให้ความหมายว่า "คือกลุ่มคนที่มักหว่านเมล็ดพันธุ์ของความชั่วร้ายในสังคม" และคำว่า "บุซูร" [بُذُر] ให้ความหมายว่า "บุคคลที่โง่เขลา ไร้เหตุผล"

ดังนั้น ความหมายของประโยคนี้ก็คือ ผู้ศรัทธากลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้บ่อนทำลาย ไม่ใช่ผู้สร้างฟิตนะห์ และไม่เหมือนผู้โง่เขลาที่เผยแพร่สิ่งชั่วร้ายโดยไม่รู้ตัว

ในตอนท้ายของคำอธิบายนี้ ท่านอิมามอะลี อ. กล่าวว่า :

[ أُولَئِکَ یَفْتَحُ اللهُ لَهُمْ أَبْوَابَ رَحْمَتِهِ، وَ یَکْشِفُ عَنْهُمْ ضَرَّاءَ نِقْمَتِهِ ]

"พวกเขา คือผู้ที่พระเจ้าเปิดประตูแห่งความเมตตาของพระองค์ และขจัดความยากลำบากและปัญหาต่างๆออกไปจากพวกเขา !"