ร่วมรำลึกถึงท่านหญิงคอดีญะฮ์ บินติ คุวัยลิด ภรรยาประเสริฐสุดของท่านศาสดาแห่งอิสลาม

ร่วมรำลึกถึงท่านหญิงคอดีญะฮ์ บินติ คุวัยลิด ภรรยาประเสริฐสุดของท่านศาสดาแห่งอิสลาม

 

เนที่ 10 รอมฎอน ปีที่ 10 ฮ.ศ. ครบรอบวะฟาตหรือการเสียชีวิตของ อุมมุลมุฮ์มีนีน (มารดาของศรัทธาชน) ท่านหญิงคอดิญะฮ์ บินตุ คุวัยลิด

คอดีญะฮ์เป็นบุตรของคุวัยลิด พำนักอยู่ ณ นครมักกะฮ์ ท่านหญิงสืบตระกูลมาจากเผ่ากุเรชเช่นเดียวกันชาวมักกะฮ์ให้เกียรติแก่ท่านหญิงอย่างสูงเพราะคุณลักษณะอันสูงเด่นเป็นตัวอย่างและความสามารถในทางการจัดการของนาง เหมือนกันกับที่ชาวมักกะฮ์เรียกท่านศาสดาว่า “ศอดิก” และ “อามีน” พวกเขาก็เรียกท่านหญิงคอดีญะฮ์ว่า “ตอฮิเราะห์” ซึ่งหมายถึง “ผู้ที่สะอาดบริสุทธิ์”

ท่านหญิงเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชนชาวอาหรับเช่นกันว่าเป็น “เจ้าหญิงแห่งนักการค้า” เมื่อใดก็ตามที่กองคาราวานเดินทางออกจากนคร มักกะฮ์หรือกลับคืนสู่นครมักกะฮ์ พวกเขาจะสังเกตเห็นว่าสินค้าของท่านหญิงนั้น จะมีปริมาณที่มากกว่าสินค้าของพ่อค้าอื่นๆทั้งหมดของนครมักกะฮ์นำมารวมกัน

ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ. ได้ตัดสินใจแต่งงานกับท่านหญิงคอดีญะฮ์ และ เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าอายุของท่านนบี ศ. ขณะแต่งงาน 25 ปี และท่านหญิง คือ 40 ปี แต่มิใช่เพราะว่าต้องการทรัพย์สิน แต่เพราะพึงพอใจในมารยาทอันดีงาม สติปัญญาที่เฉียบแหลม
ส่วนคอดีญะฮ์น่าจะเข้าใจถึงฐานะที่แท้จริง ทั้งนี้ถือว่าเป็นการเลือกสรรจากอัลลอฮ์เพื่อที่จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระในการเผยแพร่ศาสนาของท่านนบี ต่อไป

สัญญาณของการสมรสเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามแบบดั้งเดิม อันเป็นการประกาศถึงความรักต่อกันระหว่างมุฮัมมัดกับคอดีญะฮ์
อบูฏอลิบเป็นผู้กล่าวคุฏบะฮ์ ( ธรรมคถา ) ในการสมรสของศาสดามุฮัมมัด ศ. กับ คอดีญะฮ์ คำปราศัยของท่านนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว ท่านได้เริ่มกล่าวคำเทศนาด้วยแบบฉบับของมุสลิม นั้นคือ การกล่าวขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้าในความเมตตากรุณาปรานี รางวัลและความจำเริญอันไม่อาจนับถ้วนได้ของพระองค์ และท่านได้สรุปลงด้วยการขอพรจากพระองค์ให้ทรงโปรดประทานความเมตตากรุณาปรานีกับคู่บ่าวสาวที่เพิ่งสมรส
การสมรสของศาสดามุฮัมหมัด ศ. กับท่านหญิงเป็นความสำเร็จขั้นสูงสุด ซึ่งทั้งสามีและภรรยาได้รับการอำนวยพร ด้วยความประเสริฐเลอเลิศอันหาความจำกัดมิได้ ท่านหญิงคอดีญะฮ์ได้พลีชีวิตของท่านเพื่อการรับใช้สามีและอิสลาม ท่านหญิงได้ใช้จ่ายทรัพย์สินอันมหาศาลที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอิสลามและสวัสดิภาพของบรรดามุสลิม

ความประเสริฐของท่านหญิงคอดีญะฮ์
สิ่งหนึ่งซึ่งนับเป็นเกียรติอันสูงส่งแก่ท่านหญิงคอดิญะฮ์ที่ได้รับจากท่านร่อซูล คือ ท่านร่อซูลฯ ไม่เคยสมรสกับหญิงใดมาก่อนเลย พระองค์ได้มอบบุตรแก่ฉันโดยผ่านนาง ในขณะที่ภรรยาคนอื่นถูกเพิกถอนสิ่งนี้
ท่านร่อซูลฯ ไม่เคยวิตกกังวลใดๆเมื่ออยู่ร่วมกับท่านหญิง จนกระทั่งท่านหญิงคอดิญะฮ์ ท่านศาสดา ศ. กล่าวเป็นประจำว่า ท่านหญิงคอดิญะฮ์ นั้นเป็นคู่ชีวิตที่ดีที่สุด

คุณสมบัติพิเศษของท่านหญิงคอดิญะฮ์ ประการหนึ่งคือ อัลลอฮ์ ทรงฝากสลามมากับท่านญิบรีล ไปถึงท่านหญิงคอดิญะฮ์
บุคอรี และมุสลิมได้บันทึกจากคำรายงานของอบูฮุรัยเราะฮ์ ไว้ว่า

حَدَّثَنَا قُتَيْبَةُ بْنُ سَعِيدٍ، حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ فُضَيْلٍ، عَنْ عُمَارَةَ، عَنْ أَبِي زُرْعَةَ، عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، قَالَ: ” أَتَى جِبْرِيلُ النَّبِيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَقَالَ: يَا رَسُولَ اللَّهِ: هَذِهِ خَدِيجَةُ قَدْ أَتَتْ مَعَهَا إِنَاءٌ فِيهِ إِدَامٌ، أَوْ طَعَامٌ أَوْ شَرَابٌ، فَإِذَا هِيَ أَتَتْكَ فَاقْرَأْ عَلَيْهَا السَّلاَمَ مِنْ رَبِّهَا وَمِنِّي وَبَشِّرْهَا بِبَيْتٍ فِي الجَنَّةِ مِنْ قَصَبٍ لاَ صَخَبَ فِيهِ، وَلاَ نَصَبَ ”

صحیح البخاری ج5 ص39 المؤلف: محمد بن إسماعيل أبو عبدالله البخاري الجعفي، المحقق: محمد زهير بن ناصر الناصر، الناشر: دار طوق النجاة (مصورة عن السلطانية بإضافة ترقيم ترقيم محمد فؤاد عبد الباقي)، الطبعة: الأولى، 1422هـ، عدد الأجزاء: 9.

ท่านญิบรออีลได้ลงมาหาท่านศาสดา ศ. แล้วกล่าวว่า อีกสักครู่คอดีญะจะยกสำรับอาหารและน้ำมาให้ท่าน เมื่อนางมาฝากบอกนางด้วยว่าพระองค์อัลลอฮ์ ซบ. ฝากสลามมายังนาง และฝากสลามของฉันด้วย (ญิบรออีล) และจงแจ้งข่าวดีแก่นางว่าพระองค์อัลลอฮ์ ซบ. ได้เตรียมปราสาทหลังหนึ่งในสวรรค์สำหรับนาง ที่สร้างด้วยทองคำและเงิน ในปราสาทหลังนั้นจะไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครมใดๆ และจะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอันใดเลย

และจากท่านอิบนุล กอยยิม ได้กล่าวไว้ในหนังสือ �ญะลาอุลอัฟฮาม� (หน้าที่ 349) ว่า
�คุณสมบัติพิเศษของท่านหญิงคอดีญะฮ์ ประการหนึ่งคือ อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทรงฝากสลามมากับท่านญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ไปถึงท่านหญิงคอดีญะฮฺ โดยญิบรีลได้กล่าวว่า :
�และสิ่ง(สลาม)นี้ ฝากผ่านมาจากอัลลอฮฺ ผู้ทรงนิรันดร์ โดยเฉพาะสิ่ง(สลาม)นี้ ไม่เคยปรากฏแก่ผู้ใดเลยนอกจากท่านหญิงคอดีญะฮฺเท่านั้น�

อิหม่ามอะห์มัด บิน ฮัมบะลี ได้บันทึกจากอิบนิ อับบาส ไว้ในมุสนัตของท่านว่า วันหนึ่งท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ได้ขีดเส้น 4 เส้นลงบนพื้นดิน แล้วกล่าวว่า
พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า 4 เส้นที่ฉันได้ขีดลงบนพื้นหมายถึงอะไร ? พวกเขา(ศ่อฮาบะฮ์)กล่าวว่า พระองค์อัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ย่อมรู้ดีที่สุดครับ ท่านร่อซูลฯ จึงกล่าวว่า
สตรีชาวสวรรค์ที่ประเสริฐสุด มีด้วยกัน 4 คน คือ คอดีญะฮ์ บินติ คุวัยลิด ,ฟาฎิมะฮ์ บินติ มุฮัมมัด ,อาซียะฮ์ บินติ มุซอฮิม ภรรยาฟิรเอาน์ และ มัรยัม บินติ อิมรอน

حَدَّثَنَا يُونُسُ، حَدَّثَنَا دَاوُدُ بْنُ أَبِي الْفُرَاتِ، عَنْ عِلْبَاءَ، عَنْ عِكْرِمَةَ، عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ، قَالَ: خَطَّ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي الْأَرْضِ أَرْبَعَةَ خُطُوطٍ، قَالَ: ” تَدْرُونَ مَا هَذَا؟ ” فَقَالُوا: اللهُ وَرَسُولُهُ أَعْلَمُ. فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: ” أَفْضَلُ نِسَاءِ أَهْلِ الْجَنَّةِ: خَدِيجَةُ بِنْتُ خُوَيْلِدٍ، وَفَاطِمَةُ بِنْتُ مُحَمَّدٍ، وَآسِيَةُ بِنْتُ مُزَاحِمٍ امْرَأَةُ فِرْعَوْنَ، وَمَرْيَمُ ابْنَةُ عِمْرَانَ
مسند الإمام أحمد بن حنبل ج4 ص409 و ج5 ص77 و ج18 ص162

การเสียชีวิตของท่านหญิงคอดีญะฮ์

หลังการใช้ชีวิตอยู่ในที่หลบซ่อนเป็นเวลาสามปีของท่านศาสดาแห่งอิสลามในหุบเขาอบูฎอลิบ คอดีญะฮ์ ผู้เป็นภรรยา และสหายและคู่ชีวิตของมุฮัมมัดศาสนทูตแห่งพระเจ้า และเป็นสตรีผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอิสลามและบรรดามุสลิม ต้องล้มป่วยลงและถึงแก่กรรมในที่สุด ตลอดชีวิตนางใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความสะดวกสบายและร่ำรวย แต่สามปีของการลี้ภัยเป็นเวลาที่นางต้องมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นอย่างเหลือแสน ซึ่งในที่สุดก็ได้คร่าชีวิตของนางไป

ตลอดปีของการปิดล้อม คอดีญะฮ์ได้ใช้ทรัพย์สินอันมหาศาลของนางเพื่อซื้อหาสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ อาหารและเสื้อผ้าให้กับตระกูลของสามีของนาง เมื่อนางได้กลับคืนสู่บ้านเรือนของนาง เงินเหรียญสุดท้ายของนางก็หมดลง และเมื่อนางถึงแก่กรรมเงินที่จะใช้ซื้อผ้าห่อร่างนางสักผืนหนึ่งก็ไม่มีเหลือติดบ้าน จนถึงกับต้องใช้เสื้อคลุมของสามีเพื่อห่อร่างให้กับนาง และนางก็ได้ถูกฝังลงไปด้วยกับเสื้อคลุมตัวนั้น

ท่านศาสดา ศ. ไม่เคยได้สมรสกับหญิงอื่นตราบเท่าที่คอดีญะฮ์มีชีวิตอยู่ และถ้าหากนางยังไม่จากไป มันก็อาจเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าท่านก็คงจะไม่ไปสมรสกับหญิงใดอีกเลย

ท่านศาสดา ศ. จดจำรำลึกถึงคอดีญะฮ์ด้วยความรักความอาทร และรำลึกถึงความดีงาม ของนางอยู่เสมอ ระหว่างที่นางป่วยไข้ท่านจะอยู่เฝ้าไข้ตลอดทั้งคืน พยาบาลนางให้ความอบอุ่นแก่นางและขอพรให้กับนาง ท่านได้บอกว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างปราสาทหลังหนึ่งที่ทำด้วยไข่มุกให้นางในสวนสวรรค์แล้ว

ท่านหญิงคอดีญะฮ์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เดือนรอมฏอน ปีที่ 10 ของการประกาศอิสลาม หลุมฝังศพของนางอยู่ที่ “ฮุญูน” อยู่เหนือมักกะฮ์ขึ้นไป หลังจากฝังศพแล้วท่านศาสดาเป็นผู้ที่ได้เกลี่ยดินบนหลุมศพของนาง

ท่านศาสนทูตแห่งพระเจ้า เรียกปีแห่งการวายชนม์ของนางว่าเป็น “ ปีแห่งความระทมทุกข์ ”

ประชาชาติมุสลิมในยุคต้นได้ให้เกียรติท่านนบี ศ. และท่านหญิงคอดีญฮ์ เป็นอย่างสูงด้วยกับการทำโดมเหนือหลุมฝังศพของท่านหญิงคอดีญะฮ์ไว้ แต่เมื่อลัทธิมารอย่างวะฮ์ฮาบี เข้ายึดครองมักกะฮ์ และมะดีนะฮ์ พวกเขาได้ทำลายร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของอิสลามจนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่หลุมหลุมฝังศพของท่านหญิงคอดีญะฮ์ภรรยานบี
บทความโดย เชคอันศอร เหล็มปาน