ขบวนการของอิมามฮุเซ็น จากหนังสือ มนุษย์ 250 ปี

ขบวนการของอิมามฮุเซ็น จากหนังสือ มนุษย์ 250 ปี

 

ศึกษา  “ขบวนการของอิมามฮุเซ็น"  ผ่าน คำพูดของ ท่านอยาตุลเลาะฮฺ ซัยยิด อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม


(จากหนังสือ มนุษย์ 250 ปี  (เวอร์ชั่นที่๒ –ประพันธ์โดย ท่าน อิมาม คาเมเนอี )
 ¤ ปรากฏการณ์ ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์ ได้ถูกพยากรณ์ มาก่อนล่วงหน้าแล้วโดย อัลลอฮ์ (ซบ) ทั้งก่อนหน้าที่จะเกิดและช่วงเริ่มต้นของการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้นยุทธการในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามดังกล่าวก็ถูกกำหนดวางมาก่อนเช่นกัน ซึ่งได้กำหนดไว้ในบริบทต่างๆและในองค์ประกอบรวมทั้งหมดของอิสลาม เหมือนกับอวัยวะในร่างกายที่สมบูรณ์แบบของมนุษย์  ที่พระองค์ทรงกำหนดให้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กันและมีพลังอำนาจในการปกป้องตัวตน  หรือเหมือนกับรถยนต์ที่มีสภาพที่ดี ที่ผู้ผลิตได้วางคู่มือในการซ่อมบำรุงรักษามันควบคู่กับรถยนต์คันดังกล่าว
¤ อิสลามก็เหมือนกับปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น เหมือนกับปรากฏการณ์ทั่วๆไป ซึ่งย่อมมีภัยคุกคามที่ท้าทายอยู่เสมอ และจำเป็นที่จะต้องอาศัยเครื่องมือในการเผชิญหน้า รับมือกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ และแน่นอน อัลลอฮ์ (ซบ) ก็ทรงกำหนดวางเครื่องมืออันนี้ในอิสลาม   ทว่า ความท้าทาย ภัยคุกคามและภัยอันตรายดังกล่าวมันคืออะไร ?   อิสลามต้องเผชิญกับความท้าทาย ต้องเผชิญกับอันตรายหลักๆ สองจำพวกด้วยกันคือ ศัตรูภายนอก และ ศัตรูภายใน
¤ ศัตรูภายนอก คือกลุ่มบุคคลที่อยู่นอกกรอบ นอกระบอบ กลุ่มนี้จะใช้วิธีการทุกรูปแบบในการทำลายล้างการมีอยู่ของระบอบการปกครองหนึ่ง โดยอาศัยพลังแห่งความคิด อุดมการณ์ โครงสร้างขั้นพื้นฐาน  กฎหมายและทุกสิ่งทุกอย่างของเขาที่มีอยู่ ถ้าจะถามว่า ศัตรูจากภายนอก หมายถึงกลุ่มใด ? อาจ ไม่ใช่จากภายนอกประเทศ นอกดินแดน ถึงแม้ว่าจะอยู่ในประเทศก็ตาม บรรดาศัตรูก็จะถือว่าพวกเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของระบอบ  พวกเขาคัดค้านและต่อต้านระบอบการปกครอง  เหล่านี้คือศัตรูภายนอก  เหล่านี้คือผู้แปลกหน้า  พวกเขาเหล่านี้เพียงเพื่อที่จะทำลายระบอบการปกครอง ทำลายล้างให้สิ้นซาก จึงมีความพยายามทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด การโฆษณาชวนเชื่อ เงินทอง เหล่านี้คือประเภทหนึ่งของศัตรู
¤ ศัตรูภายใน กล่าวคือ ศัตรูที่แอบแฝงอยู่ในระบอบ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับภายในของระบอบ บางครั้งบุคคลภายในองค์กรของเรา ภายในระบอบของเรา เนื่องจากขาดความมุ่งมั่น  เนื่องจากเกิดความบกพร่องในการทำความเข้าใจกับแนวทางที่ถูกต้อง  เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตนเองให้อยู่เหนืออารมณ์ใฝ่ต่ำ (นัฟซู)  เนื่องจากหวังในภาพลวงตาแห่งวัตถุ เนื่องจากถือตนเป็นใหญ่ ทำให้เกิดความอ่อนไหวและแปรปรวนภายในจึงกลายเป็นการบ่อนทำลายที่อันตรายยิ่ง ซึ่งศัตรูกลุ่มนี้ย่อมอันตรายกว่าศัตรูกลุ่มแรก
¤ ศัตรูทั้งสองประเภทนี้  ทั้งศัตรูภายในและศัตรูภายนอก มีอยู่ในทุกระบอบ ทุกองค์กร และทุกสังคม ซึ่งอิสลามได้วางกรอบและวิธีการในการเผชิญหน้าและการเยียวยากับศัตรูทั้งสองประเภทนี้ไว้อย่างดี ด้วยการกำหนดประเด็น “การญิฮาด” ขึ้นมา    ซึ่งการญิฮาดไม่ได้จำกัดหรือเจาะจงเฉพาะศัตรูภายนอกเท่านั้น
جَاهِدِ الْكُفَّارَ وَالْمُنَافِقِينَ
ความว่า จงทำการต่อสู้กับบรรดาผู้ปฏิเสธและผู้กลับกลอกทั้งหลาย (ซูเราะฮ์ เตาบะฮ์ โองการที่ ๗๒)  
มุนาฟิกคือผู้ที่ซ่อนตัวและแฝงตัวอยู่ในระบอบ ด้วยเหตุนี้จำต้องทำการญิฮาดกับพวกเขาเหล่านี้  ญิฮาดกับศัตรูที่ต้องการจะบุกโจมตีทำลายหลักความเชื่อและเป็นศัตรูกับระบอบการปกครอง อีกทั้งการฮิญาดเพื่อแยกแยะหรือจำแนกบุคคลภายในที่มีความอ่อนแอในด้านหลักศีลธรรมและมโนธรรมนั้น ถือเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ทำให้โลกได้ประจักษ์และเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของมนุษย์ ดังอัลกุรอานกล่าว ว่า
 اعْلَمُوا أَنَّمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا لَعِبٌ وَلَهْوٌ وَزِينَةٌ وَتَفَاخُرٌ بَيْنَكُمْ وَتَكَاثُرٌ فِي الْأَمْوَالِ وَالْأَوْلَادِ
ความว่า พึงทราบเถิดว่า แท้จริงการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มิใช่อื่นใด เว้นแต่เป็นการละเล่นและการสนุกสนานร่าเริงและเครื่องประดับและความโอ้อวดระหว่างพวกเจ้า และการแข่งขันกันสะสมในทรัพย์สินและลูกหลาน(ซูเราะฮ์ ฮะดีด โองการที่ ๒๐)  
วันแห่งความสุข ความรื่นเริง และความสุขแห่งโลกดุนยาเหล่านี้ แม้ว่าภาพภายนอกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเจ้า  แม้ว่าพวกเจ้าจำเป็นที่ต้องใช้ประโยชน์ แม้ว่าชีวิตของพวกเจ้าต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ และแน่นอน มันไม่เป็นที่สงสัยว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้ ความเพียบพร้อมเหล่านี้ ก็สำหรับตัวของพวกเจ้าเอง แต่พึงรู้ว่า ความต้องการและการแสวงหาสิ่งเหล่านี้อย่างมืดบอด อีกทั้งการหมกมุ่นกับการแสวงหาสิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวจนทำให้หลงลืมเป้าหมายที่แท้จริงถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก
¤ อิมามอาลี (อ ) คือราชสีห์แห่งสมรภูมิสงคราม  เมื่อท่านได้พูด คนส่วนหนึ่งต้องการที่จะได้ยินคำพูดของท่านเกี่ยวกับการญิฮาด การทำสงคราม การเป็นวีรบุรุษ การเป็นนักรบและการเป็นนักสู้  แต่เมื่อหันไปดูในรายงาน (ริวายะฮ์) และสุนทรโวหารของท่านในหนังสือนะฮ์ญุลบาลาฆอฮฺ จะพบว่า คำพูดส่วนใหญ่ของท่าน จะเน้นในเรื่องของความสันโดษ ความยำเกรง มารยาท ศีลธรรม  ปฏิเสธดุนยา ปฏิเสธความไร้ค่าของดุนยา และยกย่องเชิดชูคุณค่าทางจิตวิญญาณและคุณค่าอันสูงส่งแห่งความเป็นมนุษย์ชาติ
¤ เรื่องราวของท่านอิมามฮุเซ็น (อ) ก็เช่นกัน ได้รวบรวมและผนวกสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน นั่นคือการญิฮาดกับศัตรูและการญิฮาดกับตัวเอง (นัฟส์) ซึ่งก็ได้แสดงแบบอย่างนี้ไว้อย่างสมบูรณ์และสูงส่งอย่างเด่นชัดในเหตุการณ์อาชูรอ  นั่นก็หมายความว่าอัลลอฮ์ (ซบ) ทรงรู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันจะเกิดขึ้น และจะต้องนำเสนอแบบอย่างอันสูงส่งให้เห็น และก็ทำให้แบบอย่างอันสูงส่งนั้นกลายเป็นแบบอย่างที่อมตะและเป็นบทเรียนสำหรับมนุษยชาติตลอดกาล   
¤ เรื่องราวแห่งอาชูรอคือเรื่องราวแห่งการขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ในการสำแดงการเป็นนักรบและนักสู้อย่างแท้จริงในทั้งสองภาคสนาม ทั้งในภาคสนามแห่งการต่อสู้กับศัตรูภายนอก และศัตรูภายใน ซึ่งในวันนั้นเราได้เห็นถึงสังคมมนุษย์ที่กำลังเคลื่อนตัว มุ่งสู่ความเสื่อมถอยและความเสียหายภายใน นั่นคือผู้ปกครองที่เลวทรามที่สร้างความเสื่อมเสีย และผู้หลงดุนยาที่เอาตัวเองเป็นสมุนรับใช้ ย่ำยีบีฑาต่อสัจธรรม และระบอบการปกครองที่ท่านศาสดาสถาปนาขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชนให้หลุดพ้นจากการหลงทาง ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขาได้เคลื่อนไหวและกระทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของอิสลามและท่านศาสดามุฮัมมัด (ซล) อย่างสิ้นเชิง.....