ลำดับเหตุการณ์ "ซุฮูร"[ปรากฎกาย] และ "การกิยาม" (ลุกขึ้นมาปฏิวัติ) ของท่านอิมามมะฮ์ดี อ.

ลำดับเหตุการณ์ "ซุฮูร"[ปรากฎกาย] และ "การกิยาม" (ลุกขึ้นมาปฏิวัติ) ของท่านอิมามมะฮ์ดี อ.


จากการศึกษาค้นคว้า วิจัยในริวายะฮ์ต่างๆ จากท่านนบี ศ. และบรรดาอิมามผู้ทรงบริสุทธิ์ ที่เกี่ยวกับการ "ซุฮูร" และ "กิยาม" ของท่านอิมามมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาไว้ ลำดับเหตุการณ์ได้ดังนี้ :
[1]- การปรากฎกาย[ظهور]ของท่านอิมามมะฮ์ดี อ. จะเกิดขึ้นในทันทีทันใด หมายถึง ไม่มีใครสามารถบอกล่วงหน้าได้  มีบุคคลหนึ่งได้ถามท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ว่า :
مَتَی یَخْرُجُ الْقَائِمُ مِنْ ذُرِّیَّتِکَ فَقَالَ (ع) مَثَلُهُ مَثَلُ السَّاعَۀِ الَّتِی لا یُجَلِّیها لِوَقْتِها إِلَّا هُوَ  و لا تَأْتِیکُمْ إِلَّا بَغْتَۀ.
เมื่อไหร่กันที่ อัล-กออิม จากลูกหลานของท่านจะปรากฎตัวออกมา ?  ท่านศาสดา กล่าวว่า :
เรื่องราวของเขา[การซุฮูร]ประดุจดังการเกิดขึ้นของวันกิยามะฮ์ นอกจากพระองค์แล้ว ก็จะไม่มีใครรับรู้ได้ และสิ่งนี้จะไม่มายังพวกเจ้า[การซุฮูร]เว้นแต่เป็นไปในทันทีทันใด
การใช้คำ  بَغْتَۀ ในริวายะฮ์ และการเปรียบเปรยวันเวลาของการ ซุฮูร ให้เหมือนวันกิยามัต เป็นการบ่งบอกว่า การปรากฎกายของท่านอิมามมะฮ์ อ. จะเกิดขึ้นในทันทีทันใด ที่ไม่มีใครสามารถทำนายทายทักไว้ล่วงหน้าได้
[2]- ท่านอิมามมะฮ์ดี อ. ผู้ถูกสัญญาไว้ จะปรากฏตัวที่กะอฺบะฮ์ หลังจากการเร้นหายอันยาวนาน เขาจะปรากฏตัวพร้อมกับธง, ดาบ, อะมามะฮ์ (ผ้าพันศีรษะ) และเสื้อของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อล), บรรดามะลาอิกะฮ์จะช่วยเหลือเขา ท่านอิมามบาเกร อ. กล่าวว่า :
إِذَا ظَهَرَ المَهْدِيُّ(عج) بِمَکَّۀَ مَا بَیْنَ الحَجَرِ الْأَسْوَدِ وَ بَابِ الْکَعْبَۀِ فَنَادَي جَبْرَائِیلُ وَ اجْتَمَعَ إِلَیْهِ أَصْحَابُهُ مِنَ الْآفَاق.
เมื่อ อัล-มะฮ์ดี ปรากฎกาย ณ เมืองมักกะฮ์ ระหว่างหินดำกับประตูของกะฮฺบะฮ์  ดังนั้นด้วยเสียงเป่าประกาศของญิบรออีล ที่เหล่าผู้ช่วยเหลือของท่านจากพื้นที่ต่างๆที่ห่างไกลจะได้มารวมตัวกัน
ท่านอิมามบาเกร อ. กล่าวว่า :
 یَظهَر المهَديُّ (عج) بِمکَّۀَ عِندَ العشاءِ وَ مَعه رایۀُ رَسولِ الله (ص) وَ قَمیصُه وَ سَیفُه وَ عَلامۀٌ وَ نورٌ وَ بیانٌ فَاذا صَلَّی الْعِشاءَ نادي بأعلَی صَوتِه یَقولُ اُذکِّرکم الله أَیُّها الناسُ وَ مَقامَکم بَینَ یدَي رَبِّکم وَ قَدْ اَکَّد الحُجَّۀ وَ بَعثَ الأْنبیاءَ و أَنزلَ الْکِتابَ یَأمُرکُم أنْ لا تُشرکُوا بِه شَیئاً وَ أنْ تُحافِظُوا  علی طاعَۀِ الله وَ طاعۀِ رَسولهِ (ص).
อัล-มะฮ์ดี จะซุฮูร ที่มักกะฮ์ ในช่วงอีชา พร้อมกับ ธง ,เสื้อ และดาบของท่านศาสนทูต และสัญญาลักษณ์ ,รัศมี และบะยานจะมาพร้อมกับท่าน และเมื่อท่านได้ทำนมาซอีชาเสร็จสิ้นลง ท่านก็จะประกาศด้วยเสียงดังกึกก้องว่า "โอ้ประชาชาติเอ๋ย ฉันขอเรียกร้องพวกเจ้าสู่อัลลอฮ์ และย้ำเตือนพวกท่านว่า พระองค์ได้ทำให้ ฮุจญะฮ์ ของพระองค์สมบูรณ์แล้ว พระองค์ได้ส่งบรรดานบี และคัมภีร์มายังพวกท่านแล้ว และมีบัญชามายังพวกเจ้าว่าอย่านำสิ่งใดมาเทียบเคียงกับพระองค์ และจงเชื่อฟัง ปฎิบัติตามในคำสั่งขออัลลอฮ์ และศาสนทูตของพระองค์
[3]- หลังจากการ ซุฮูร สหายที่ใกล้ชิดของอิมามมะฮ์ดี อ. จะมี 313 คน ซึ่งจะทำการบัยอัตให้กับท่านอิมาม ที่มักกะฮ์ เมื่อนั้นแหละท่านจึงประกาศการ กิยาม[ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อการปฎิวัติโลก]
ท่านอิมามศอดิก อ. กล่าวว่า :
ช่วงเวลาที่อัลลอฮ์อนุมัติให้ อัล-กออิม ลุกขึ้นสู้เพื่อการปฎิวัติโลก นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่สาวกเฉพาะของท่าน 313 ได้ทำการบัยอัตกับท่านแล้ว และ อัล-กออิม ก็จะคงอยู่ในมักกะฮ์จนกระทั้งท่านมีกองทัพ 10,000 คน ท่านจึงเคลื่อทัพสู่มะดีนะห์
ในอัลกุรอ่าน อัลอฮ์ทรงตรัสว่า :
أَيْنَ مَا تَكُونُوا يَأْتِ بِكُمُ اللَّهُ جَمِيعًا ۚ
[2:148] ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ ณ ที่ใด อัลลอฮ์ ก็จะนำพวกเจ้าทั้งหมดมา
ตัฟซีรของอายะฮ์นี้ ท่านอิมามบาเกร อ. กล่าวว่า
« یَعنِی أَصحابَ القآئِمِ علیه السّلام ، اَلثَّلاثَمِأَةَ وَ البِضعَةَ عَشَرَ رَجُلاً ،وَ للّهِ هُمُ الأُمَّةُ المَعدُودَةُ. یَجتَمِعُونَ وَاللهِ فِی ساعَةٍ واحِدَةٍ
หมายถึงผู้ช่วย 313 คนของ อัล-กออิม และขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ความหมายของ "ประชาชาติที่ถูกกำหนดไว้|أُمَّةٍ مَعْدُودَةٍ " คือพวกเขา พระองค์จะรวบรวมพวกเขาภายในหนึ่งชั่วยาม
พระองค์มีความสามารถที่จะรวบรวมร่างกายที่กลายเป็นผุยผง และกระชัดกระจายให้กลับมารวมตัวอีกครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดที่พระองค์จะให้ทหารของท่านอิมามมะดีย์ มารวมตัวกันภายในหนึ่งวันหรือหนึ่งชั่วโมง เพื่อเริ่มต้นการปฎิวัติโลก
ฉะนั้นสหายที่ใกล้ชิดของอิมามมะฮ์ดี อ. จะมีสามร้อยสิบสามคน ซึ่งจะทำการบัยอัตให้กับท่านอิมาม ที่มักกะฮ์, อิมามอยู่ที่มักกะฮ์ระยะหนึ่ง หลังจากนั้น ก็จะมุ่งหน้าสู่มะดีนะฮ์ ผู้ช่วยเหลือเขาจะเป็นนักรบที่แท้จริง, ชำนาญในอาวุธ, เป็นคนที่ศอและห์ มีศรัทธาที่มั่นคง เข้มแข็งต่ออิบาดะฮ์ในยามค่ำคืนและเป็นนักรบทีฉกาจในยามกลางวัน เคร่งครัดต่อคำสั่งของอิสลาม, มุ่งหน้าไปทางทิศไหนจะนำชัยชนะไปสู่ที่นั้น ...
[4]- หลังจากชัยชนะในมะดีนะฮ์ อิมามจะนำทัพเข้าสู่อิรักและกูฟะฮ์,
หลังจากชัยชนะในมะดีนะฮ์ ท่านอิมามมะฮ์ดีจะนำทัพเข้าสู่อิรักและกูฟะฮ์ และระหว่างทางเข้ากูฟะฮ์ ท่านจะพบกับกองทัพจากอิหร่าน[โคราซาน]ที่นำทัพโดยซัยยิดโคราซานีย์ ที่มีธงดำเป็นสัญลักษณ์ เขาจะนำทหารของเขาเข้าบัยอัตกับอิมาม อ. และท่านอิมามมะฮ์ดี อ. จะบัญชาให้พวกเขานำทัพไปเผชิญหน้ากับกองทัพซุฟยานี ณ กูฟะฮ์,
ต่อมาท่านจะพบกับซัยยิดฮาซานี ที่กูฟะฮ์, ซัยยิดฮาซานี จะนำทหารของเขาเข้าบัยอัตกับอิมาม อ. , และนบีอีซาจะลงมาจากฟากฟ้าเพื่อช่วยเหลืออิมาม และอีซา อ.  จะนมาซตามอิมามมะฮ์ดี, รัฐบาลกลางของอิมามจะอยู่ที่เมืองกูฟะฮ์ อิมามจะพิชิตทั้งตะวันตกและตะวันออกของโลก อิสลามจะปกครองไปทั้งโลก ศาสนาจะกลับมาใหม่
อิสลามที่แท้จริงจะกำจัดความจอมปลอมในศาสนา การปกครองและกฎหมายจะเป็นไปตามคัมภีร์ของพระเจ้า และแบบฉบับของศาสดา อิมามจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย, กินอาหาร และสวมใส่เสื้อผ้าแบบอิมามอะลี อ.
[5]- ในยุคการปกครองของอิมาม อ.  แผ่นดินจะมีบารอกะฮ์เป็นอันมาก ผลิตผลทางเกษตรจะมีอย่างล้นเหลือ ความยากจนจะหมดไป มนุษย์จะใช้ชีวิตอย่างมีความผาสุกและมีศิริมงคล จนถึงขั้นที่ผู้ที่จะจ่ายซะกาตหรือบริจาคทาน (เศาะดะเกาะฮ์) ไม่สามารถหาคนยากจนที่จะมารับของได้, เขานำไปให้ใครก็รับการปฏิเสธที่จะรับของนั้น ความรักที่จะอยู่ใกล้ชิดกับอิมามทำให้ผู้ศรัทธาจำนวนมาก ปักหลักและอาศัยในเมืองกูฟะฮ์ เพื่อที่จะนมาซรวม (ญะมาอะฮ์) กับอิมาม ถึงขั้นที่ได้สร้างมัสญิดขึ้นมาหลังหนึ่ง ซึ่งมีประตูทางเข้าถึงหนึ่งพันประตู
ในยุคของการปกครองของอิมาม อ. โลกจะอยู่ใต้ร่มเงาของความยุติธรรมและความปลอดภัย ถึงขั้นที่ถ้าหญิงชราคนหนึ่งได้ทูนหม้อทองคำซึ่งมีเพชรนิลจินดาอยู่ในนั้น, และเดินทางมาคนเดียวจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง จะไม่มีใครรบกวนนางหรือมีความโลภในทรัพย์สินของนางเลย
แผ่นดินจะคายทรัพยากรและของมีค่าต่างๆ ออกมาให้อิมาม และอิมามจะทำการสร้างและทดแทนความสูญเสียต่างๆ ให้กับผู้ที่ถูกกดขี่บนหน้าแผ่นดิน ในขณะที่อิมาม อ. ทำการปฏิวัติ อัลลอฮ์ ซ.บ. จะทำให้การเห็นและการได้ยินของผู้ศรัทธาไร้ขอบเขต, พวกเขาสามารถพูดคุย หรือปรึกษาปัญหากับอิมามได้โดยตรง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในจุดไหนของโลก เขาสามารถได้ยินเสียงและเห็นอิมาม ในยุคนั้น อัลลอฮ์จะประทานให้สติปัญญาและความรู้ของมนุษย์ถึงจุดสมบูรณ์
[6]- รูปแบบการปกครองของท่านอิมามมะดี อ.
อิมามจะปกครองประชาชนเหมือนกับศาสดามุฮัมมัด ศ. และศาสดาดาวูด อ. ปกครองประชาชน, สิ่งใดที่ศาสดามุฮัมมัด ศ. ได้ปฏิบัติ อิมาม อ. ก็จะปฏิบัติสิ่งนั้น, อิมาม อ. จะทำลายแบบฉบับที่จอมปลอมเหมือนกับที่ศาสดามุฮัมมัดได้ทำลายแบบฉบับ ญาฮิลิยะฮ์ มาแล้ว และแสงแห่งสัจธรรมของอิสลามก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ