เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ยะซีดตีศรีษะอิม่ามฮูเซน ตอนที่ 3

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5


ยะซีดตีศรีษะอิม่ามฮูเซน ตอนที่  3


ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า
مَنْ أَحَبَّهُمَا فَقَدْ أَحَبَّنِي
ผู้ใดแสดงความรักต่อเขาทั้งสอง เท่ากับเขาได้แสดงความรักต่อฉัน
وَمَنْ أَبْغَضَهُمَا فَقَدْ أَبْغَضَنِي يَعْنِي حَسَنًا وَحُسَيْنًا
และผู้ใดแสดงความอคติชิงชังต่อทั้งสอง เท่ากับเขาได้แสดงความอคติชิงชังต่อฉัน หมายถึง ฮาซันและฮูเซน
1.มุสนัด อะหมัด ฮะดีษที่ 7863  
2.อัลมุสตัดร็อก ฮะดีษที่ 4777
3.อัซซิลซิละฮ์ อัซซอฮีฮะฮ์ เล่ม 6  ฮะดีษที่ 2895
อัซซะฮะบี,เชคอัลบานี,เชคอัรนะอูตีกล่าวว่า ฮะดีษนี้ซอฮิ๊ฮ์
ท่านนบีรู้ดีว่า เมื่อท่านจากไป จะเกิดอะไรขึ้นกับหลานรักทั้งสองของท่าน ท่านจึงเตือนสติประชาชาติของท่านไว้ด้วยวจนะนี้

อับดุลมุฆีษ ตาย ฮ.ศ. 583 ได้แต่งตำรา
ความประเสริฐของยาซีดและห้ามละนัตยาซีด
ตำรานี้เขียนขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์ปกป้องยาซีดและประจบสอพลอผู้ปกครองชั่ว
แน่นอน อัลลอฮ์ย่อมส่งบุคลากรของพระองค์มาเปิดเผยความจริง กล่าวคือ
มีอุละมาอ์ซุนนี่ผู้โด่งดังคนหนึ่งชื่อ
อิหม่าม อัลลามะฮ์ ญะมาลุดดีน อบุล ฟะร็อจญ์ อับดุลเราะห์มาน บินอะลี บินมุฮัมมัด
เรียกสั้นๆว่า
อิบนุลเญาซี  เกิด ฮ.ศ. 510 ตาย ฮ.ศ. 597
อิบนุลเญาซีกับอับดุลมุฆีษ สังกัดมัซฮับฮัมบาลี ทั้งคู่
พออิบนุุลเญาซีเห็นอับดุลมุฆีษเขียนตำราปกป้องความผิดของยาซีด   
เขาไม่นิ่งเฉยแต่ได้แต่งตำราตอบโต้อับดุลมุฆีษทันที
ทั้งสองมีชีวิตอยู่ในยุคการปกครองของ
กาหลิบอันนาซิร ผู้ปกครองลำดับที่ 34 แห่งราชวงศ์อับบาซียะฮ์ เกิดฮ.ศ. 553 ตายฮ.ศ. 622
อิบนุลเญาซีได้ศึกษาศาสนากับบรรดาเชคถึง 78 คน  เป็นอุละมาอ์ที่โด่งดังคนหนึ่งในยุคนั้น  แต่งตำราไว้มากมาย เช่น
1.ตัลบีส อิบลีส เป็นตำราด้านอัคล๊าก ที่ดีมาก
2.ศ็อยดุล คอติร เป็นตำราด้านอัคล๊าก ที่ดีมากอีกเล่มหนึ่ง แม้แต่เชคบินบาซ เชคอุซัยมีน และคณะนักวิชาการซาอุก็ให้ความสำคัญ นำตำรานี้มาศึกษา และตัดบางส่วนเกี่ยวกับฟะดีลัตของท่านอะลีออก
3.อัลร็อดดุ อะลัล มุตะอัซซิบ อัลอะนีด อัลมานิ๊อ์ มิน ซัมมิ ยาซีด
คือ ตอบโต้คนตะอัซซุบที่ห้ามตำหนิยาซีด หมายถึง อับดุลมุฆีษ นั่นเอง
อิบนุลเญาซี ตอบโต้อับดุลมุฆีษเรื่องยาซีดไว้อย่างไร
อิบนุลเญาซี นักปราชญ์ฮัมบะลี กล่าวว่า
لَيْسَ الْعَجَبُ مِنْ فِعْلِ عُمَرَ بْنِ سَعْدِ ، وَعُبَيْدِ اللَّهِ بْنِ زِيَادٍ
ไม่ใช่เรื่องแปลกจาก การกระทำของอุมัร บินสะอัดและอุบัยดุลลอฮ์ บินซิยาด(ที่ลงมือสังหารท่านฮูเซน เพราะทำตามคำสั่งยาซีด)
وَإِنَّمَا الْعَجَبُ مِنْ خَذْلاَنِ يَزِيْدَ وَضَرَبَهُ بِالْقَضِيْبِ عَلَى ثَنِيَّةِ الْحُسَيْن
แต่ที่แปลกคือ การละทิ้งความช่วยเหลือของยาซีด และการที่ยาซีดเอาไม้ในมือตีริมฝีปากของท่านฮูเซน
และเขาส่งศรีษะท่านฮูเซนไปที่นครมะดีนะฮ์(เพื่อข่มขู่ชาวมะดีนะฮ์) ทั้งๆที่กลิ่นของศรีษะนั้นได้เปลี่ยนสภาพไปแล้ว
อนุญาติให้กระทำแบบนี้กับพวกคอวาริจญ์ หรือ
ในทางศาสนบัญญัติกำหนดว่า ต้องละหมาดญะนาซะฮ์ให้พวกเขา(73ศรีษะที่เสียบปลายหอกที่ส่งมาให้ยาซีด) และ(ศรีษะของ)พวกเขาต้องถูกนำไปฝังมิใช่หรือ
ส่วนคำพูดยาซีดที่กล่าวว่า ข้ามีสิทธิสั่งจับครอบครัวของฮูเซนเป็นเชลยศึกนำมาให้ข้า แล้วเขาได้สั่งการไป สำหรับผู้กระทำเช่นนั้น ถือว่าเพียงพอแล้ว ที่ต้องละนัต
หากยาซีดให้เกียรติต่อศรีษะของท่านฮูเซน ตอนที่ศรีษะนั้นส่งมาถึงเขา และละหมาดญะนาซะฮ์ให้ท่าน ไม่นำศรีษะนั้นไปใส่ในถาด ไม่ตีศรีษะนั้นด้วยไม้ในมือ
อะไรจะทำให้เกิดอันตรายแก่เขาหรือ ในเมื่อเขาบรรลุเป้าหมายของเขาแล้วจากการสังหารนั้น แต่ว่าความชิงชังอาฆาตต่างๆของยาซีดในสมัยญาฮิลียะฮ์ยังคงฝังแน่นอยู่ และหลักฐานของมันคือ สิ่งที่กล่าวผ่านมาแล้ว คือ ยาซีดได้ร่ายกลอนออกมาว่า
อยากให้บรรพบุรุษของข้า ที่ถูกฆ่าตายในสงครามบาดัร ได้เห็นจังเลย ว่า(ข้าได้ทำอย่างไรกับลูกหลานอะหมัด)
อัลรอดดุ อะลัล มุตะอัซซิบ อัลอะนีด อัลมานิ๊อ์ มิน ซัมมิ ยาซีด หน้า 63 - 64
นักวิชาการซุนนี่(ที่มีชีวิตอยู่ก่อนและหลังยุคอิบนุตัยมียะฮ์)ได้ยืนยันว่า ยาซีดเอาไม้ตีศรีษะอิม่ามฮูเซนจริง
แต่พวกที่ปฏิเสธเรื่องนี้และเข้าข้างยาซีดมีสองมูลเหตุ
1.รักและปกป้องยาซีด
2.เชื่ออิบนุตัยมียะฮ์แบบตาบอด

บทความโดย เชคญะวาด สว่างวรรณ

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม