ซูเราะฮ์ใดในอัลกุรอานที่กล่าวว่า ในสังคมเราจำเป็นต้องมีอิมาม?

คำถาม มีซูเราะฮ์ใดบ้างที่พูดว่าในสังคมเราจำเป็นต้องมีอิมาม?
หนึ่ง ซูเราะฮ์นิซาอ์ โองการที่ 59
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ
“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย”
บางกลุ่ม เช่น อิบนิ คอลดูน   อิบนิ อารอบี หยิบยกโองการนี้มาอ้างว่านี้คือเหตุผลว่าทำไมอิมามฮุเซน(อ)ถึงถูกสังหารเพราะอิมามฮุเซน(อ)ไม่เชื่อฟังอุลิลอัมร์(ผู้ปกครองแห่งยุคสมัย) เราจะสามารถตอบประเด็นนี้ได้อย่างไร?
เราสามารถตอบคำถามในลักษณะที่โต้แย้งกลับไปว่า หากว่าอิมามฮุเซน(อ)สมควรถูกสังหารเพราะเหตุผลข้างต้นเหตุใดพวกคุณถึงไม่ลงโทษมุอาวิยะฮ์ด้วยในเมื่อตอนที่อิมามอะลี(อ)ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง มุอาวิยะฮ์ลุกขึ้นต่อต้านอิมามอะลี(อ) เขาคือบุคคลแรกด้วยซ้ำที่ลุกขึ้นต่อต้านผู้ปกครองทั้งที่ประชาชนมะดีนะฮ์บัยอัตต่ออิมามอะลี(อ)แต่เขาไม่บัยอัตให้อิมาม ทำไมพวกคุณถึงไม่ลงโทษเขาด้วย?
การตอบในลักษณะเช่นนี้แม้ว่าจะยังไม่ได้แก้ปัญหาทีเดียวแต่อย่างน้อยก็ทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักได้ชั่วคราว
อุลิลอัมร์ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้เขาต้องมีเงื่อนไขบางประการที่พระองค์ต้องการ
สอง ซูเราะฮ์มาอิดะฮ์ โองการที่ 55
إِنَّمَا وَلِيُّكُمُ اللَّهُ وَرَسُولُهُ وَالَّذِينَ آمَنُوا الَّذِينَ يُقِيمُونَ الصَّلَاةَ وَيُؤْتُونَ الزَّكَاةَ وَهُمْ رَاكِعُونَ
“แท้จริงผู้ที่เป็นวะลีของพวกเจ้านั้น คืออัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธาที่ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาตและขณะเดียวที่พวกเขารุกูอ์”
มีพี่น้องซุนนีหลายท่านที่เชื่อว่าจุดประสงค์ของบุคคลที่อยู่ในโองการนี้คืออิมามอะลี(อ) เช่น
ซุยูฏี ในตัฟซีร ดุรรุลมันซูร รายงานจากอิบนิ อับบาสว่า จุดประสงค์ที่ท่านศาสดากล่าวถึงคือท่านอิมามอะลี(อ) ยังมีคนอื่นๆ อีกที่กล่าวในลักษณะเช่นนี้  คือ
วาฮิดี          
ซะมัคชะรี
ฟัครุรอซี
เฏาะบะรี
หากมีคำถามเกิดขึ้นว่า ตรงไหนของโองการนี้ที่ยืนยันเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมีอิมาม?
1-เวลาที่โองการกล่าว   انما ولیکم الله เมื่ออิมามอะลี(อ)คือวะลีของอัลลอฮ์แต่ให้ผู้อื่นมาเป็นผู้นำสังคมย่อมไม่สอดคล้องกับสติปัญญา
2-การเรียงลำดับของโองการ คือ อัลลอฮ์ รอซูล และผู้ที่จ่ายซะกาตในขณะรุกูอ์ ดังนั้น การเอ่ยถึงบุคคลในโองการบ่งบอกว่ามีหน้าที่เดียวกัน คือรอซูลเป็นตัวแทนของพระองค์ บุคคลต่อไปก็คือตัวแทนของรอซูล
อิมามัตคือตำแหน่งที่สูงที่สุดของสังคม ด้วยเหตุนี้ คนที่จะมาเป็นอิมามต้องเป็นบุคคลที่รักพระองค์และพระองค์ก็รักเขา
สาม ซูเราะฮ์บาเกาะเราะฮ์  โองการที่  124
وَإِذِ ابْتَلَىٰ إِبْرَاهِيمَ رَبُّهُ بِكَلِمَاتٍ فَأَتَمَّهُنَّ قَالَ إِنِّي جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِي قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِي الظَّالِمِينَ
“และจงรำลึกถึง ขณะที่พระเจ้าของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขา ด้วยพระบัญชาบางประการ แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษย์ชาติ เขากล่าวว่า และจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย พระองค์ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม”
โองการนี้ยืนยันว่าสังคมจำเป็นต่ออิมามในเวลาที่ไม่มีศาสดาอยู่แล้ว บางครั้งในสังคมหนึ่งมีศาสดาหลายท่านตราบใดที่การสืบทอดความเป็นศาสดายังไม่สิ้นสุดก็ยังสามารถมีศาสดาหลายท่านได้แต่ไม่สามารถมีอิมามได้มากกว่าหนึ่งคนเพราะสิ้นสุดการมีศาสดาแล้วในสังคม ดังนั้น เมื่อไม่มีศาสดาแล้วจึงจำเป็นต่อการมีอิมาม
สี่ ซูเราะฮ์อันบิยาอ์  โองการที่ 73
وَجَعَلْنَاهُمْ أَئِمَّةً يَهْدُونَ بِأَمْرِنَا وَأَوْحَيْنَا إِلَيْهِمْ فِعْلَ الْخَيْرَاتِ وَإِقَامَ الصَّلَاةِ وَإِيتَاءَ الزَّكَاةِ وَكَانُوا لَنَا عَابِدِينَ
“และเราได้แต่งตั้งพวกเขาให้เป็นผู้นำเพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องโดยคำสั่งของเรา และเราได้วะฮีแก่พวกเขาให้ปฏิบัติความดี และธำรงการละหมาด แล้วบริจาคทานซะกาต และพวกเขาก็เป็นผู้เคารพภักดีต่อเราเท่านั้น”
แม้ว่าตัวบทหมายถึงบรรดาศาสดาแต่เราสามารถใช้ประโยชน์จากโองการนี้เพื่อสื่อว่าสังคมจำเป็นต่อการมีอิมามที่พระองค์พอใจ
ห้า ซูเราะฮ์มาอิดะฮ์ โองการที่ 67
يَا أَيُّهَا الرَّسُولُ بَلِّغْ مَا أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ وَإِن لَّمْ تَفْعَلْ فَمَا بَلَّغْتَ رِسَالَتَهُ وَاللَّهُ يَعْصِمُكَ مِنَ النَّاسِ إِنَّ اللَّهَ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الْكَافِرِينَ
“ร่อซูลเอ๋ย ! จงประกาศสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเข้า และถ้าเจ้ามิได้ปฏิบัติ เจ้าก็มิได้ประกาศสารของพระองค์ และอัลลอฮ์นั้นจะทรงคุ้มกันเจ้าให้พ้นจากมนุษย์ แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงแนะนำพวกที่ปฏิเสธศรัทธา”
เมื่อศาสดาเป็นศาสดาองค์สุดท้ายและท่านไม่ได้ทำภารกิจที่สำคัญนี้หมายถึงการแนะนำอิมามอะลี(อ)ในฐานะตัวแทนของท่าน ก็เหมือนกับที่ท่านไม่ได้ทำสิ่งใดมาเลย ความอุตสาหะตลอด 23 ปีที่ผ่านมา ซึ่งท่านศาสดาเคยกล่าวไว้เองว่า ไม่มีศาสดาองค์ใดที่จะทุกข์ยิ่งกว่าฉันอีกแล้ว ดังนั้น ความลำบากทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็จะสูญเปล่า
สำหรับซูเราะฮ์นิซาอ์ โองการที่ 59 มีผู้รู้ซุนนีบางคนกล่าวกันว่า อุลิลอัมร์ไม่ได้หมายถึงอิมามอะลี(อ)เพียงคนเดียวเท่านั้นนะแต่รวมถึงลูกหลานของอิมามอะลี(อ)ไปจนถึงอิมามมะฮ์ดี(อ) หมายถึง อิมามทั้งสิบสอง
เช่น ในตัฟซีรบุรฮานที่เอ่ยชื่ออิมามทั้งสิบสองด้วย  ท่านฮัสกานีบันทึกในชะวาฮิดุลตันซีล  อบูฮัยยานด ในบะฮ์รุลมุบีต  
อบูบักร อิบนิ มุอ์มินชีรอซี ในอิห์กอกุลฮัก บุคคลเหล่านี้คือบุคคลที่กล่าวว่าจุดประสงค์ของอุลิลอัมร์คืออิมามอะลี(อ)และลูกหลานของท่านรวมเป็นสิบสองอิมามมะอ์ศูม(อ)ที่ชีอะฮ์พูดถึง
บรรยายโดย ฮุจญะตุลอิสลาม ดร. นัศรุลลอฮ์ สิคอวะตี ลอดอนี
ขอขอบคุณ เพจสถาบันศึกษาศาสนา อัล-มะฮฺดียะห์