เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มุตอะห์ ในซุนนะห์ของศ่อฮาบะฮ์นบี

1 ทัศนะต่างๆ 03.0 / 5

มุตอะห์ ในซุนนะห์ของศ่อฮาบะฮ์นบี 


โดย เอกภาพ

 


มุตอะห์ ในซุนนะห์ของศ่อฮาบะฮ์นบี

 

ศ่อฮาบะฮ์นบีเหล่านี้เชื่อว่า มุตอะห์ เป็นสิ่งฮะลาลในอิสลาม และพวกเขาก็เคยทำมุตอะห์…? แล้วทำไมจึงบอกว่า มีเพียงพวกร่อฟิเฎาะฮ์เท่านั้นที่เชื่อเรื่องมุตอะห์ หรือว่าศ่อฮาบะฮ์เหล่านี้คือ ร่อฟิเฎาะฮ์…?

ญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ อันซอรีย์
وحَدَّثَنَا الْحَسَنُ الْحُلْوَانِيُّ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ، أَخْبَرَنَا ابْنُ جُرَيْجٍ، قَالَ: قَالَ عَطَاءٌ: قَدِمَ جَابِرُ بْنُ عَبْدِ اللهِ مُعْتَمِرًا، فَجِئْنَاهُ فِي مَنْزِلِهِ، فَسَأَلَهُ الْقَوْمُ عَنْ أَشْيَاءَ، ثُمَّ ذَكَرُوا الْمُتْعَةَ، فَقَالَ: «نَعَمْ، اسْتَمْتَعْنَا عَلَى عَهْدِ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَأَبِي بَكْرٍ، وَعُمَرَ
[صحیح مسلم ج2 ص1022]

ท่านอะฏออ์ กล่าวว่า ท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ เข้ามาทำอุมเราะฮ์ แล้วเราก็นำท่านไปยังที่พักของท่าน มีคนพวกหนึ่งถามท่านในหลายๆ เรื่องต่อจากนั้น พวกเขาก็พูดถึงเรื่อง มุตอะฮฺ ท่านกล่าวว่า “ใช่แล้ว พวกเราเคยทำมุตอะฮฺกันในสมัยของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. และสมัยอบูบักร และ(่ช่วงหนึ่ง)สมัยของอุมัร

ดังนั้น ถ้าหากท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ห้ามการทำมุตอะฮฺจริง แน่นอนจะต้องไม่อนุญาตให้พวกเขาทำมุตอะฮฺกันมาจนถึงสมัยอะบูบักรฺ และอุมัรหรอก

حَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ رَافِعٍ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ، أَخْبَرَنَا ابْنُ جُرَيْجٍ، أَخْبَرَنِي أَبُو الزُّبَيْرِ، قَالَ: سَمِعْتُ جَابِرَ بْنَ عَبْدِ اللهِ، يَقُولُ: «كُنَّا نَسْتَمْتِعُ بِالْقَبْضَةِ مِنَ التَّمْرِ وَالدَّقِيقِ، الْأَيَّامَ عَلَى عَهْدِ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَأَبِي بَكْرٍ، حَتَّى نَهَى عَنْهُ عُمَرُ، فِي شَأْنِ عَمْرِو بْنِ حُرَيْثٍ « صحیح مسلم ج2 ص1022

ท่านญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า : เราได้ทำ มุตอะฮ์ กันด้วยอินทผลัมและแป้งกำมือหนึ่งในสมัยของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. และ สมัยอบูบักร์ จนกระทั่งอุมัรได้สั่งห้ามมุตอะห์ในกรณีของอัมรฺ บินฮุร็อยษ์(1)

حَدَّثَنَا حَامِدُ بْنُ عُمَرَ الْبَكْرَاوِيُّ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الْوَاحِدِ يَعْنِي ابْنَ زِيَادٍ، عَنْ عَاصِمٍ، عَنْ أَبِي نَضْرَةَ، قَالَ: كُنْتُ عِنْدَ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللهِ، فَأَتَاهُ آتٍ، فَقَالَ: ابْنُ عَبَّاسٍ وَابْنُ الزُّبَيْرِ اخْتَلَفَا فِي الْمُتْعَتَيْنِ، فَقَالَ جَابِرٌ: «فَعَلْنَاهُمَا مَعَ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، ثُمَّ نَهَانَا عَنْهُمَا عُمَرُ، فَلَمْ نَعُدْ لَهُمَا

อบี นัฎเราะห์ กล่าวว่า พวกเราได้นั่งร่วมอยู่กับท่าน ญาบีร บิน อับดุลลอฮ์ จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งเข้ามาหาท่านญาบีร แล้วแจ้งว่า ระหว่าง อิบนิ อับบาส และ อิบนิ ซุเบร มีประเด็นขัดแย้งกันในเรื่องมุตอะห์ทั้งสอง(มุตอะห์นิซา-มุตอะห์ฮัจญ์) ท่านญาบีร จึงกล่าวว่า “พวกเราได้ทำมุตอะห์ทั้งสองในสมัยของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. ต่อมา อุมัร ได้สั่งห้ามมันทั้งสอง”
ท่านผู้อ่านสังเกตดูเองเถิด ท่านจะเห็นว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. มิได้ห้ามเรื่องมุตอะห์ จนกระทั่งท่านเสียชีวิต ตามที่ญาบีร ศ่อฮาบะฮ์นบี เปิดเผยไว้
และพวกท่านก็เห็นแล้วว่า การห้ามเรื่องนี้ ถูกอ้างไปถึงท่านอุมัร อย่างชัดแจ้งไม่มีความคลุมเครือใดๆ ประกอบยังได้เสริมเข้าไปอีกว่า อุมัรได้ห้ามมุตอะห์เป็นไปตามทัศนะและคำวินิจฉัยของเขา ในสิ่งที่เขาต้องการ

อิมรอน บินฮุศ็อยน์
حَدَّثَنَا مُسَدَّدٌ، حَدَّثَنَا يَحْيَى، عَنْ عِمْرَانَ أَبِي بَكْرٍ، حَدَّثَنَا أَبُو رَجَاءٍ، عَنْ عِمْرَانَ بْنِ حُصَيْنٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا، قَالَ: ” أُنْزِلَتْ آيَةُ المُتْعَةِ فِي كِتَابِ اللَّهِ، فَفَعَلْنَاهَا مَعَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَلَمْ يُنْزَلْ قُرْآنٌ يُحَرِّمُهُ، وَلَمْ يَنْهَ عَنْهَا حَتَّى مَاتَ، قَالَ: رَجُلٌ بِرَأْيِهِ مَا شَاءَ
صحیح بخاری ج 6 ص 27

จากท่านมุซัดดัด ได้รายงานว่า ท่านยะฮฺยา ได้รายงานจากท่านอิมรอน อะบีบักร ได้เล่าเราว่า อะบู ได้เล่าเราว่า จากอิมรอน บินฮุศ็อยน์(ร.ฎ.) กล่าวว่า : โองการว่าด้วยการมุตอะฮฺถูกประทานลงมาในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ดังนั้นเราก็ได้ทำกันในสมัยท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ และอัล-กุรอานมิได้ลงคำสั่งมาว่าห้ามเรื่องนี้ และท่านก็มิได้ห้ามเรื่องนี้จนกระทั่งตาย ชายคนหนึ่งได้กล่าวไปตามความเห็นของเขา ตามที่เขาต้องการ

อบู สะอี อัลคุฎรีย์
عَطاء بن أبي رَبَاح وَسَعِيد بن جُبَير وطاووس، قَالَ: وَرُوِيَ أَيْضا تحليلها وإجازتها عَن أبي سعيد الْخُدْرِيّ وَجَابِر بن عبد الله، قَالَا: تَمَتعنَا إِلَى نصف من خلَافَة عمر، رَضِي الله تَعَالَى عَنهُ، حَتَّى نهى عمرُ النَّاسَ عنهَا فِي شَأْن عَمْرو بن حُرَيْث، وَنِكَاح الْمُتْعَة قبل التَّحْرِيم هَل كَانَ مُطلقًا أَو مُقَيّدا بِالْحَاجةِ وبالأسفار؟
عمدة القاری ج17 ص

และต่อไปคือรายชื่อ บรรดาศ่อฮาบะฮ์นบี นอกจากที่เอ๋ยมาข้างต้นแล้ว ยังมีศ่อฮาบะฮ์อีกมากมาย ที่ยืนยัน และเชื่อว่า มุตอะห์ คือสิ่งที่ ฮะลาล ในอิสลาม และไม่เคยมีการห้ามจากอัลลอฮ์ และร่อซูลฯ และผู้ที่ห้าม คือท่านอุมัร บิน ค็อฎตอบ ศ่อฮาบะฮ์เหล่านั้น เช่น

ท่านอิมามอะลี อ.
ท่านอับดุลลอฮ์ บิน มัสอูด
ท่านสะลามะฮ์ บิน อักวะฮ์
ท่านสะอัด บิน อบี วะกอซ
ท่านอัมร์ บิน ฮุรัยษ์
มุอาวียะ บิน อบูซุฟยาน
ซะลามะฮ์ บิน อุมัยยะฮ์
อัสมา บุตรสาว อบูบักร
รอบีอะห์ บิน อุมัยยะ
อับดุลลอฮ์ บิน อบี เอาษ์
ท่านเซต บิน ษาบิต
อับดุลลอฮ์ บิน อับบาส บิน อับดุลมุฎทอลิบ
สะฮ์ บิน อบีสะฮ์ บิน อบี ฎอลอะฮ์
และศ่อฮาบะฮ์ท่านอื่นๆอีกมากมาย
 

 

เชิงอรรถ :

(1).กรณีของอัมรฺ บิน ฮุร็อยษ์ มีบันทึกไว้ว่า :

عَبْدُ الرَّزَّاقِ عَنِ بْنِ جُرَيْجٍ قَالَ أَخْبَرَنِي أَبُو الزُّبَيْرِ أَنَّهُ سَمِعَ جَابِرَ بْنَ عَبْدِ اللَّهِ يَقُولُ قَدِمَ عَمْرُو بْنُ حُرَيْثٍ مِنَ الْكُوْفَةِ فاَسْتَمْتَعَ بِمَوْلاَةٍ فَأُتِيَ بِهَا عُمَرُ وَهِيَ حُبْلَى فَسَأَلَهاَ فَقاَلَت اِسْتَمْتَعَ بِيْ عَمْرُو بْنُ حُرَيْثٍ فَسَأَلَهُ فَأَخْبَرَهُ بِذَلِكَ أَمْراً ظاَهِراً قَالَ فَهَلاَّ غَيْرُهاَ فَذَلِكَ حِيْنَ نَهَى عَنْهاَ قاَلَ بْنُ جُرَيْجٍ وَأَخْبَرَنِيْ مَنْ أَصْدَقُ أَنَّ عَلِياًّ قاَلَ بِالْكُوْفَةِ لَوْلاَ ماَ سَبَقَ مِنْ رَأْيِ عمر بن الخطاب لَأَمَرْتُ بِالْمُتْعَةِ ثُمَّ ماَ زَناَ إِلاَّ شَقِيٌّ

อับดุลรอซซาก จากอิบนุญุเรจ จากอบูซูเบร เล่าว่า เขาได้ยินท่าน ญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ กล่าวว่า ท่านอัมรู บิน ฮุร็อยษ์ เข้ามาที่เมืองกูฟะฮ์ แล้วเขาได้ทำมุตอะฮ์กับสาวใช้คนหนึ่ง แล้วนางถูกนำตัวมาพบคอลีฟะฮ์อุมัรในสภาพตั้งท้อง ท่านอุมัรได้สอบถามนาง นางได้บอกว่า อัมรู บิน ฮุร็อยษ์ ได้ทำมุตอะฮ์กับฉัน ท่านอุมัรจึงได้สอบถามกับอัมรู แล้ว อัมรู ได้บอกกับท่านอุมัรว่า นั่นคือเรื่องที่ชัดเจน(เรื่องจริง)
ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า คนอื่นนอกจากนางไม่มีอีกหรือ ณ.บัดนั้นเองที่ท่านอุมัรจึงสั่งห้ามทำมุตอะฮ์ ท่านอิบนิญุเรจกล่าวว่า เจ้าจงบอกฉันสิว่า ผู้พูดสัตย์จริงที่สุดคือใคร แท้จริงท่านอะลีได้กล่าวที่เมืองกูฟะฮ์ว่า

لَوْلاَ ماَ سَبَقَ مِنْ رَأْيِ عُمَرَ بْنِ الْخَطاَّبِ لَأَمَرْتُ بِالْمُتْعَةِ ثُمَّ ماَ زَناَ إِلاَّ شَقِيٌّ

ถ้าหาก ทัศนะของอุมัรไม่ผ่านไปก่อนแล้วละก้อ ฉันจะสั่งให้ทำมุตอะฮ์สตรีต่อไปอย่างแน่นอน แล้วจากนั้นจะไม่มีใครจำเป็นต้องไปทำซีนา นอกจากคนเลวจริงๆ

สถานะฮะดีษ ซอฮิฮ์ ดู มุศศ็อนนัฟ อับดุลรอซซาก ฮะดีษที่ 14029

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม